กลายเป็นปรากฏการณ์วิ่งระดมทุนครั้งประวัติศาสตร์ไปแล้ว

สำหรับโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” จากใต้สุดที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สู่เหนือสุด อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร

เพื่อขอรับเงินบริจาคสนับสนุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลศูนย์ 11 แห่งทั่วประเทศ ของ “ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย” นักร้องนำวงบอดี้สแลม พร้อมด้วยแฟนสาว “ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ” และทีมงาน โดยมีเป้าหมาย 700 ล้านบาท

ปีที่แล้วตูนระดมทุนด้วยการวิ่งในโครงการ ก้าวคนละก้าว เพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน จากกรุงเทพมหานคร สิ้นสุดที่โรงพยาบาลบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 400 กิโลเมตร โดยได้เงินบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศ 85 ล้านบาท

หลังจากนำเงินที่ได้ไปมอบให้โรงพยาบาลบางสะพานแล้ว ตูนและทีมงานพบว่ายังมีอีกหลายโรงพยาบาลที่เดือดร้อน ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นหลายรายการ จึงทำให้เขาและทีมงานตัดสินใจก้าวครั้งใหม่

ปีนี้ตูนวิ่งไกลขึ้น และใช้เวลาหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 25 ธันวาคม รวม 55 วัน เริ่มก้าววันแรก ที่ปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง เสี่ยงอันตราย

หากเป็นคนอื่นคงไม่อยากมา แต่ตูนกลับเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของพื้นที่นี้ให้เป็นด้านบวก สร้างรอยยิ้มให้กับพี่น้องชายแดนภาคใต้

ช่วงที่มีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กก้าวนั้น ยังทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า จังหวัดยะลามีธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ภูเขา ทะเลหมอก แม่น้ำ หรือน้ำตก ผู้คนในพื้นที่น่ารักและมีน้ำใจให้กัน ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้าน

สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกไปให้คนนอกพื้นที่ได้เห็น แม้ว่าตูนจะวิ่งในพื้นที่ชายแดนใต้เพียงไม่กี่วัน แต่ก็ทำให้ผู้คนประทับใจกับภาพที่เห็นและหวังให้เกิดสันติภาพในดินแดนด้ามขวาน

การวิ่งของตูนยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอีกมากมาย ใครที่ท้อแท้สิ้นหวังกับชีวิต เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า พวกเขาได้เห็นตูนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม จึงมีแรงฮึดลุกขึ้นสู้ต่อ

ตูนย้ำอยู่เสมอว่า เขาไม่ใช่ฮีโร่หรือวีรบุรุษ แต่คนที่สมควรถูกยกย่องมากกว่าคือ หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐ พวกเขาวิ่งมาแล้วทั้งชีวิตและยังคงวิ่งต่อไป

“ฮีโร่ตัวจริงอยู่ที่โรงพยาบาล ทำงานเพื่อช่วยชีวิตผู้คนอีกมากมาย ไม่ได้อยู่บนเวทีแบบผม อยากให้ทุกคนให้กำลังใจพวกเขา ไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งเราอาจต้องให้เขาช่วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าเราไม่อยากให้เขาช่วย เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ด้วยการออกกำลังกาย”

ร็อกสตาร์ชื่อดังของเมืองไทย ที่ทำตามความเชื่อ และมีความฝัน ต้องการเห็นภาพที่คนไทยทั้งประเทศก้าวไปให้ถึงที่สุด เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า แค่ก้าวเล็กๆ จากทุกคน เมื่อรวมกันแล้วมันจะสามารถกลายเป็นก้าวยาวๆ ขึ้นมาได้จริง

ขณะที่ พญ.วิรัลพัชร กิตติธะระพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักบริหารระบบบริการสุขภาพจิต บอกว่า ปรากฏการณ์ของตูนได้สะท้อนถึงบุคคลต้นแบบ หรือไอดอลที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ที่แสดงถึงความเสียสละทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เรื่องสุขภาพก็เป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์เพียงเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างการจดจำที่ดี เกิดเป็นภาพในใจให้กับเด็กและเยาวชน ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบหรือทำตามในสิ่งดีๆ ขึ้นได้

“ถ้าบุคคลต้นแบบมีการสื่อสารในทางที่ดี ประพฤติตัวในทางที่ดี ทำความดี เมื่อเด็กและเยาวชนเลือกรับแต่สิ่งที่ดี จากต้นแบบที่ดี ย่อมก่อให้เกิดบรรทัดฐานของสังคมที่ดี พวกเขาจะกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศที่จะช่วยสร้างสังคม สร้างชาติให้ดีขึ้นได้”

พญ.วิรัลพัชร เผย

ตูนเป็นทั้งนักร้องและนักกีฬา แต่การที่ต้องวิ่งระยะไกล วันละประมาณ 50 กิโลเมตร เรื่องอาการบาดเจ็บคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

แต่ตลอดเส้นทางการวิ่ง มี “หมอเมย์-พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์” ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระรามเก้า เป็นผู้ดูแลอาการบาดเจ็บ รวมถึงวางโปรแกรมการวิ่งในแต่ละวัน

ขณะเดียวกันยังมีทีมแพทย์ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด คอยช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพร่างกาย เพื่อส่งตูนไปสู่จุดหมายให้ได้

นอกจากร่างกายจะต้องเต็มร้อยแล้ว เสื้อผ้า รองเท้า ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

เพื่อช่วยให้ตูนบรรลุเป้าหมายได้โดยการเพิ่มศักยภาพและลดการบาดเจ็บระหว่างวิ่ง ไนกี้ได้เชิญตูนไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของไนกี้ ที่เมืองเบเวอร์ตัน รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยได้พบกับผู้เชี่ยวชาญและทีมงาน Breaking 2 ของ Nike Sports Research Lab (NSRL) นอกจากนี้ ตูนยังได้พบกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องรองเท้าและเสื้อผ้า

ซึ่งตูนได้รับชุดเซ็นเซอร์เพื่อใส่ระหว่างการวิ่ง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายของเขาในทุกๆ ก้าว นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านรองเท้าของไนกี้แนะนำให้ตูนสลับใช้รองเท้าทั้งหมด 5 คู่

ไม่ว่าจะเป็น Nike Zoom Fly หรือ Nike Zoom Vaporfly 4%

แน่นอนว่าการวิ่งระยะไกลแบบนี้ ร่างกายตูนคงบอบช้ำ

แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยเยียวยาเขาได้ คือ กำลังใจ

กำลังใจจากพ่อ แม่ ครอบครัว คนรัก

กำลังใจจากพี่น้องคนไทย

ที่สำคัญ พระราชาส่งกำลังใจถึงตูนด้วย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโทภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ฯ อัญเชิญดอกไม้พระราชทาน อาหารเสริมไทยของสำนักพระราชวังและขนมไทย ซึ่งจัดทำขึ้นที่ห้องเครื่องสำนักพระราชวังมามอบให้ตูนและคณะ ที่โรงแรมบรรจงบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

 

และทรงให้อัญเชิญพระราชกระแสรับสั่งมาถึงตูนและคณะว่า “พระองค์ท่านทรงเป็นกำลังใจให้ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ที่เข้มแข็ง และปฏิบัติภารกิจที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ”

ในหลวงทอดพระเนตรเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของตูน ที่ต้องการช่วยโรงพยาบาลศูนย์ 11 แห่งทั่วประเทศ ที่ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์

พระองค์ทรงห่วงใยตูนที่กำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อส่วนรวม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และเป็นสิริมงคลแก่ตูนและคณะเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ตูนยังได้กำลังใจจากนักกีฬาชื่อดังระดับโลก โมฮาเหม็ด ฟาราห์ นักกรีฑาประเภทลู่และลาน ชาวโซมาเลีย วัย 34 ปี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 2012 และริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล ปี 2016 โพสต์ข้อความให้กำลังใจว่า

“วิ่งต่อไป อาทิวราห์ จงทิ้งสถิติของคุณไว้ข้างหลัง เพราะก้าวต่อไปคือจุดเริ่มต้นใหม่”

ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่ายอดเงินบริจาคน่าจะทะลุ 700 ล้านบาท

แต่จุดประสงค์ของการวิ่งในครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่เงินบริจาคเพียงอย่างเดียว

ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเราได้เห็นพลังน้ำใจ ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ

นั่นคือสิ่งที่คนไทยปรารถนา

ที่สำคัญ การวิ่งระดมทุนครั้งนี้จะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้

ถ้าคนไทยทั้งประเทศไม่ร่วมก้าวไปกับตูน