ปลัดมหาดไทย นำประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เน้นย้ำ ทุกหน่วยงานบูรณาการหาแนวทาง “ผ่าทางตัน” หนี้นอกระบบควบคู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต

ปลัดมหาดไทย นำประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เน้นย้ำ ทุกหน่วยงานบูรณาการหาแนวทาง “ผ่าทางตัน” หนี้นอกระบบควบคู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ทำให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

วันนี้ (2 พ.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรือเอก สาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมายและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ผู้แทนกรมบัญชีกลาง สำนักบริหารงบประมาณภาครัฐและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขาดโอกาสที่ดีของชีวิต เนื่องจากต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากเจ้าหนี้นอกระบบ ซ้ำร้ายบางรายไปเจอเจ้าหนี้นอกระบบที่ทำให้พี่น้องประชาชนที่เป็นลูกหนี้มีชีวิตแบบไม่เป็นปกติสุข ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีความปรารถนาที่ดีในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และได้เปรียบเปรยว่า หนี้นอกระบบคือ “การค้าทาสยุคใหม่” จึงเป็นที่มาของการประกาศให้ “ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ” และเดินหน้า Kick off แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยมอบหมายให้ทุกกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนี้ขึ้น เพื่อใช้กลไกในระดับพื้นที่ของกระทรวงมหาดไทยที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบจังหวัด อำเภอ บูรณาการทุกภาคส่วนเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างเต็มกำลังตามอำนาจหน้าที่

“จากผลการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมา ได้มีการเปิดรับลงทะเบียนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ผ่านระบบออนไลน์และวอร์คอิน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ มียอดผู้มาลงทะเบียน จำนวนทั้งสิ้น 153,400 ราย โดยมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ลงทะเบียนสามารถเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ร่วมกับภาครัฐ โดยให้ทางธนาคารของรัฐสนับสนุนในการพิจารณาอนุมัติให้ลูกหนี้นอกระบบที่ผ่านการไกล่เกลี่ยแล้วได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเข้าสู่หนี้ในระบบและได้มีเงินทุนในการต่อยอดการประกอบอาชีพ เกิดความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเกิดผลเป็นรูปธรรมได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอุปสรรคอยู่บ้าง ทั้งเรื่องหลักเกณฑ์การอนุมัติ รวมถึงเรื่องงบประมาณที่ต้องอยู่ภายใต้หลักประกันที่ปลอดภัยของผู้ปล่อยกู้ ซึ่งต้องหารือในแนวทางและความเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ เรายังบูรณาการทุกหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้การสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาในด้านอาชีพให้กับผู้ที่มาลงทะเบียน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจนเป็นวิถีชีวิตเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในวันนี้ ทุกหน่วยงานจะได้หารือร่วมกันในการ “ผ่าทางตัน” ของการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั้งเชิงระบบและเชิงการปฏิบัติ ซึ่งตนในฐานะประธานอนุกรรมการฯ มีหน้าที่ต้องไปผลักดันขับเคลื่อนให้ส่วนภูมิภาค นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ได้เกิดความกระตือรือร้นและมีความเข้มแข็งในการทำงาน แม้ว่าที่ผ่านมาทุกท่านมีการทำงานอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนของเรายังไม่แล้วเสร็จ ยังมีผู้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ จึงต้องอาศัยทั้งเวลาและความอดทน เพราะมีทั้งกลุ่มที่เจ้าหนี้ไม่มาไกล่เกลี่ยตามเวลาที่กำหนด กลุ่มไม่ประสงค์ในการไกล่เกลี่ย รวมถึงไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จและมีการดำเนินคดี อย่างไรก็ตามทางกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้ทุกจังหวัดได้ดำเนินกระบวนการเจราไกล่เกลี่ยให้ครบ 100% ภายในวันที่ 31 พ.ค. 67 นี้ และคาดว่าหลังจากนี้ ทางรัฐบาลจะมีนโยบายให้ดำเนินการเปิดรับลงทะเบียนหนี้นอกระบบในเฟสต่อไปอีกในอนาคต

“ขอให้ทุกหน่วยงานได้บูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง และทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” ทั้งของกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัด ซึ่งมีพื้นที่เขตและพื้นที่อำเภอที่มีจำนวนผู้มาลงทะเบียนหนี้นอกระบบสูง แสดงให้เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยทุกหน่วยงานต้องจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่สนใจมาร่วมกิจกรรมดังกล่าวกับภาครัฐ สถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้การช่วยเหลือ รวมทั้งการส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้และมีอาชีพที่ยั่งยืน อาทิ ส่งเสริมการลดรายจ่าย การเลี้ยงสัตว์ การปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคแทนการไปซื้อหา เป็นต้น โดยในระดับพื้นที่ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่องมาโดยตลอด นอกจากนี้ ทุกหน่วยงานต้องประมวลรวบรวมและถอดบทเรียนปัญหาและอุปสรรคจากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อนำเสนอให้ทางคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบรับทราบ เพื่อจะได้เสนอแนวทางให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการดำเนินนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในมิติ “ยาฝรั่ง” หรือการปราบปรามแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องหวังพึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเดินหน้าปราบปรามและจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบที่มีพฤติการณ์รุนแรงและขัดต่อกฎหมาย สำหรับในส่วนของ “ยาไทย” ที่จะส่งผลให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนนั้น เป็นหน้าที่ที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกัน และขอให้พวกเราทุกคนร้อยรวมใจกันตั้งเป้าร่วมกันว่า หากการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมได้ ก็จะเป็นแนวทางที่สามารถนำไปขยายผลในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood