ชีวิตอยู่ในโมเมนต์เล็กๆ | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์https://www.facebook.com/toffybradshawwriter

1

อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเรามีชีวิตอยู่

Laura Carney สูญเสียคุณพ่อไปเมื่อปี 2003 จากอุบัติเหตุรถยนต์ฝ่าไฟแดงมาชนคุณพ่อ เมื่อเธออายุ 25 ปี

การจากไปของคุณพ่ออย่างไม่ทันตั้งตัวครั้งนั้นเป็นบาดแผลลึกในหัวใจของ Laura

เธอรับไม่ได้ที่คุณพ่อของเธอต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้อื่น

Laura เจ็บปวดจนไม่ยอมพูดถึงเหตุการณ์นี้เป็นเวลาหลายปี

เธอรู้สึกเหมือนชีวิตของเธอได้ถูกทำลายลง

2

จนกระทั่ง 13 ปีต่อมา ในปี 2016 Laura พบกระดาษแผ่นหนึ่งในกระเป๋าหนังกลับของคุณพ่อ

กระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า “สิ่งที่ผมอยากทำให้ได้ในชีวิตนี้”

มันคือ Bucket list ซึ่งเขียนไว้ตั้งแต่ปี 1978 ปีที่ Laura เกิด

Laura อ่านกระดาษแผ่นนั้นที่สีหมึกเริ่มเลือนราง แต่เธอเห็นความฝันของคุณพ่ออย่างชัดเจน

เธอบอกตัวเองว่า เธอจะต้องทำทุกความฝันใน Bucket List ของคุณพ่อให้ได้

เพราะมันคือหนทางที่ทำให้เธอได้รู้สึกว่าคุณพ่อของเธอยังอยู่กับเธอ

3

ใน Bucket List ของคุณพ่อมีรายการความฝันทั้งหมด 60 เรื่อง ซึ่งคุณพ่อทำไปแล้ว 5 เรื่อง เช่น โชว์ Stand up comedy ในไนต์คลับ ไปดู World Series Game และมีบางรายการที่เขียนไว้ว่า “ล้มเหลว” นั่นคือ เอาเงินไปคืนพ่อ 1,000 เหรียญพร้อมดอกเบี้ย

อีก 54 รายการคือสิ่งที่ Laura จะต้องทำให้ได้

มีตั้งแต่ ว่ายน้ำในแม่น้ำตลอดสาย ปลูกแตงโม การวิ่ง 10 ไมล์รวดเดียวโดยไม่หยุดพัก เขียนจดหมายหาพระสันตะปาปาและได้รับการตอบกลับ ได้รับเชิญไปในการประชุมสำคัญทางการเมือง

เดินทางไปเมือง New Orleans, San Diego, Las Vegas, Chicago, Paris, London และ Vienna

4

ภารกิจที่ท้าทายที่สุดที่ Laura นึกไม่ออกว่าจะทำได้อย่างไรตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน Bucket List ก็คือ

การได้พูดคุยกับประธานาธิบดี

แต่กลายเป็นว่านี่เป็นภารกิจที่เธอสามารถทำได้เป็นลำดับต้นๆ

Jimmy Carter อดีตประธานาธิบดี ซึ่งเป็นประธานาธิบดีในปีที่คุณพ่อของเธอเขียน Bucket List นี้ ได้เดินทางมาเยี่ยมโรงเรียนที่ Georgia เธอจึงเดินทางเพื่อไปพบอดีตประธานาธิบดีที่นั่น

เรื่องที่เธอคิดว่าไม่น่าจะทำได้ก็สามารถทำได้สำเร็จ

เรื่องที่เหลือมันก็ต้องได้สินะ

5

1 ในภารกิจที่ Laura ประทับใจที่สุดคือรายการที่เขียนว่า “ร้องเพลงในงานแต่งงานของลูกสาว”

นั่นคืองานแต่งงานของเธอเอง

Laura จึงเปลี่ยนวิธีการเพื่อการเฉลิมฉลองให้กับคุณพ่อของเธอ ด้วยการเปิดขวดไวน์ที่คุณพ่อของเธอเก็บไว้ตั้งแต่ปี 1978 ปีที่เธอเกิด และไวน์ขวดนั้นเขียนไว้ว่า “เก็บไว้เปิดในงานแต่งงานของลูกสาว”

โมเมนต์ที่เธอดื่มไวน์ที่คุณพ่อเก็บไว้รอการเปิดมาตั้งแต่ปีที่เธอเกิด ทำให้เธอรู้สึกว่า พ่อของเธออยู่กับเธอในวันแต่งงานอย่างที่คุณพ่อตั้งใจ

Laura จึงซื้อไวน์เก็บไว้และเขียนป้ายแปะไว้ว่า “เก็บไว้เปิดในงานแต่งงานของหลานสาว”

แบบเดียวกับที่คุณพ่อของเธอทำ

6

Laura ค่อยๆ ทำแต่ละรายการให้สำเร็จตามการวางแผนที่ชัดเจน โดยขีดเส้นให้ตัวเองว่า จะต้องทำตาม Bucket List ให้สำเร็จทั้งหมดภายใน 4 ปีหลังจากที่พบกระดาษแผ่นนั้น หรือควรจะเสร็จสิ้นในปี 2020

แต่เมื่อเจอโควิด-19 ทำให้ภารกิจนี้ต้องเลื่อนออกไป โดยเฉพาะรายการที่ต้องอาศัยการเดินทางไกล

แต่สุดท้าย ภายใน 5 ปี 11 เดือน Laura ก็ทำทุกรายการได้สำเร็จหมด

รายการสุดท้ายที่ Laura ทำคือ อัดเพลงให้ได้ 5 เพลง

เธอเลือกเพลงที่คุณพ่อชอบ ไม่ว่าจะเป็น The Rainbow Connection ของ Jim Henson และ Goodnight ของ The Beatles ฯลฯ

เธอร้องเพลงเหล่านั้นในสตูดิโอ

ตอนที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ คุณพ่อมักจะร้องเพลงให้เธอฟังก่อนนอนทุกคืน

และเธอรู้สึกเหมือนว่าได้ร้องเพลงกับคุณพ่ออีกครั้ง

หัวใจของเธอรู้สึกแบบนั้น

7

ทุกรายการใน Bucket List มีสามีของ Laura คอยอยู่ด้วยตลอดเวลา

เพราะเขาไม่มีโอกาสได้รู้จักกับพ่อตา การทำตาม Bucket List จึงเหมือนเป็นการทำความรู้จักกับพ่อตาไปด้วยในตัว

เช่นเดียวกับ Laura ที่พบว่า Bucket List ทำให้เธอรู้จักคุณพ่อในแบบที่เธอไม่เคยนึกถึงมาก่อน และทำให้เธอได้รู้จักตัวเองมากขึ้นไปด้วย

เพราะมันคือการได้สำรวจความฝันของคุณพ่อ และทำให้ความฝันนั้นมีชีวิต

ชีวิตที่พ่อและลูกได้อยู่ร่วมในโมเมนต์เดียวกันอีกครั้ง

8

Laura ตัดสินใจทำ Bucket List ของตัวเอง เพราะเธอได้เรียนรู้ว่า ชีวิตที่มีเป้าหมายและทำตามเป้าหมายนั้นได้สำเร็จเป็นอย่างไร

แล้วถ้า Bucket List เหล่านั้นเกิดไม่สำเร็จครบถ้วนขึ้นมาล่ะ จะเป็นอย่างไร?

Laura บอกว่า เธอก็ยังรู้สึกว่ามันมีความหมาย

“ฉันเชื่อว่าจะมีคนมาทำ Bucket List ที่ฉันยังทำไม่สำเร็จในชีวิตให้สมบูรณ์แบบเดียวกับที่ฉันทำให้คุณพ่อ”

9

เรื่องสุดท้ายที่ผมจะเล่าคือคำสอนของคุณพ่อ Laura ที่บอกว่า

“ชีวิตอยู่ในโมเมนต์เล็กๆ”

ทุกโมเมนต์เล็กๆ ในชีวิตคือสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า เรายังมีชีวิตอยู่

ทุกโมเมนต์เล็กๆ ในชีวิตคือความงดงามที่ประกอบเป็นความทรงจำ หลอมรวมเป็นตัวตนของเรา

ชีวิตนั้นแสนสั้น แต่ในทุกโมเมนต์เล็กๆ ที่แสนสั้นนั้นก็ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรามีชีวิตอยู่

และมันช่างดีงามที่ได้มีชีวิตอยู่

แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ