กาละแมร์ พัชรศรี : วันที่เศร้า เรายังอบอุ่นหัวใจ

เหตุการณ์ที่จารึกในความทรงจำของฉันในฐานะที่เกิดมาเป็นคนไทยในชาตินี้คือ ในวันที่ประชาชนคนไทยแม้อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม อยู่ในความเศร้าโศก น้ำตาท่วมใจ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปรเปลี่ยนให้เราลุกขึ้นมาทำอะไรดีๆ ด้วยกัน

คนไทยจำนวนมากมุ่งหน้าสู่สนามหลวง สถานที่ประทับของพระเมรุมาศ ทุกคนอยากใกล้พระองค์ท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เราได้เห็นความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยในทุกๆ ฝ่าย เพราะงานใหญ่ระดับประเทศ ไม่มีทางเลยที่หน่วยงานใดงานเดียวจะทำสำเร็จได้ ต้องมีการจัดการที่ดี เป็นระบบ เป็นระเบียบมากๆ

ฉันมุ่งหน้าเข้าในเมืองในวันที่ 25 ตุลาคม เพื่อจะเอาน้ำ เอาขนมไปมอบให้กับจิตอาสาที่มาทำงาน เพื่ออยากจะเข้าไปบอก “ขอบคุณนะ” “สู้ๆ นะ” หรือแค่อยากถามให้กำลังใจเขาว่า “เหนื่อยไหม”

สิ่งที่ฉันเห็นคือ มีทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ พี่คนกวาดถนนจาก กทม. เจ้าหน้าที่รัฐ นักเรียน นักศึกษา คนขับมอเตอร์ไซค์ คนขับรถเมล์ แทบทุกอาชีพพร้อมใจกันทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง สลับฝนตกเป็นบางคราว

ภาพคนไทยนับแสนไปนั่งรอ นอนรอที่จุดคัดกรอง เพื่อที่จะได้ไปนอนรอด้านในอีกคืนเพื่อจะได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์เป็นครั้งสุดท้าย

 

สิ่งที่น่าชื่นใจและเชื่อว่าหาดูได้ยากในชาติอื่นๆ คือ ตลอดแนวการนั่งรอ มีประชาชนเอาน้ำ เอาข้าว ขนม ผ้าเย็น ลูกอม ยาดม พัดมาแจกให้เป็นรายทาง บ้างก็ถือถุงขยะไว้ให้คนเอามาทิ้งได้

แถมตอนสายๆ เห็นข่าวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานเบาะรองนั่งให้ประชาชนที่มานั่งรอด้านใน พระราชทานพัดลม ข้าว น้ำ ยังความปลื้มปีติใจต่อประชาชนยิ่งนัก ฉันอ่านข่าวยังน้ำตารื้นในความเมตตาของพระองค์ที่ทรงห่วงใยประชาชนของพระองค์ท่าน

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า รู้สึกคุณตำรวจอ่อนโยน สุภาพ เป็นมิตร (จนอยากตกหลุมรักคนในเครื่องแบบ) ถามทาง เลี้ยวผิดก็ไม่โกรธ แถมมีรอยยิ้มอย่างละมุนให้กลับมาด้วย

เมื่อเปิดกระจกส่งขนมให้จิตอาสา ฉันจะได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนเสมอ นอกจากนี้ ร้านค้าที่ในบริเวณนั้นก็ออกมาตั้งโต๊ะหน้าร้าน ทำกับข้าว ปิ้งขนมปัง เอาน้ำแช่ถังน้ำแข็งไว้แจกจ่ายประชาชนที่มาแถวนั้น บางคนกางโต๊ะเล็กๆ วางหมากฝรั่ง ผ้าเย็นให้หยิบกัน บางคนเอาของมาเต็มหลังรถกระบะ คอยแจกจ่าย

จิตอาสาที่ลงทะเบียนทั่วประเทศนับ 4 ล้านคน ทุกคนแต่งกายถูกระเบียบ ช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อมรอยยิ้ม เราเป็นสังคมเอื้ออาทร มีเมตตา มีความรักให้กันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา วันนี้กลับมาอีกครั้งในวันที่เราเสียใจกันมากที่สุด แต่เราแปรความเศร้าให้เป็นพลัง ทำเพื่อผู้อื่น

ฉันเชื่อว่าเรามีสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวกัน…

 

ในวันที่ 26 ตุลาคม คนไทยพร้อมใจกันออกจากบ้านไปวางดอกไม้จันทน์ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งสถานที่ราชการ วัด สถานที่สำคัญๆ ใกล้พระเมรุมาศ แทบทุกที่มีคนต่อแถวมากมาย บางที่เกือบ 10 ชั่วโมง ทุกคนก็รอได้

ตอนเช้าฉันไปร่วมพิธีที่วัดบุญญาวาส จ.ชลบุรี แต่ตอนค่ำ ฉันอยากเข้าไปใกล้พระองค์และอยากอยู่ในหมู่เหล่าชาวไทยด้วยกันให้มันอบอุ่นหัวใจ

ตั้งใจจะไปศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร จอดรถไว้ไกลๆ แล้วมีคนขับมอเตอร์ไซค์มาทักทายถามว่าจะไปไหน พอบอกจุดหมายเขาเลยอาสาไปส่ง พร้อมเรียกเพื่อนอีก 2 คนมารับเพื่อนฉันมาด้วยกัน

ระหว่างนั่งรถเราคุยกันไป เขาบอกว่าเขาวิ่งอยู่แถววัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน วันนี้อยากมาช่วยแถวนี้แม้ไม่ค่อยชำนาญทางนัก แต่อยากช่วยจริงๆ ฉันลงรถและขอบคุณในน้ำใจของเขา

ข้างทางฉันเห็นมอเตอร์ไซค์ ตุ๊กตุ๊ก จิตอาสาคอยให้บริการประชาชน ถนนหลายสายปิด เราต้องเดินกันบนถนน แม้คนมากมาย แต่เสียงนั้นเงียบงัน ในวันที่คนไทยทั้งชาย-หญิงแต่งกายด้วยความสุภาพ ออกจากบ้านเพราะมีความตั้งใจเดียวกัน

ภาพนี้ตราตรึงฉันเหลือเกิน

 

ฉันเห็นเต็นท์ที่มีป้ายอาหารพระราชทาน ฉันยกมือท่วมหัว พระเมตตาที่นึกถึงประชาชนของพระองค์เสมอ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระเมตตาให้ตัวแทนจิตอาสาขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์บนแท่นพระเมรุมาศด้วย

ฉันและเพื่อนถึงบริเวณศาลาว่าการ กทม. เราตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะทั้งบริเวณคนแน่นทุกพื้นที่ จิตอาสาเห็นฉันยืนงงๆ เลยเข้ามาแนะนำให้ไปที่วัดสระเกศ เพราะตอนนี้คนน้อยลงแล้ว ฉันและเพื่อนรีบตรงไปที่นั่นทันที

เราได้รับการบริการที่ดี มีจิตอาสาแนะนำวิธีวางดอกไม้จันทน์ บอกให้เราเดิน ยืนรอให้เป็นระเบียบด้วยความเมตตา ในความเศร้า ทำไมเราอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน

และในเวลา 22.30 น. ฉันสวดมนต์พร้อมกราบแทบพระบาท น้อมถวายความอาลัยส่งเสด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย…