ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 ธันวาคม 2565 |
---|---|
ผู้เขียน | สมชัย ศรีสุทธิยากร |
เผยแพร่ |
ยิ่งเข้าใกล้เลือกตั้ง เกมแห่งอำนาจยิ่งเข้มข้น ปรากฏการณ์การปั่นราคาเพื่อสร้างกระแสนิยมของพรรคการเมืองเพื่อดึงดูดผู้สมัครและเงินทุนให้ไหลเข้าพรรคยิ่งปรากฏให้เห็นถี่ขึ้น
พรรคขนาดกลางและใหญ่ล้วนป่าวประกาศว่า เขาคือพรรคที่พร้อมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล การประกาศเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เป็นไปอย่างคึกคัก การลาออกเพื่อย้ายพรรคกลายเป็นข่าวรายวันให้เห็น
สิ่งเหล่านี้ เป็นปริมาณหรือคุณภาพ เป็นเนื้อแท้การเปลี่ยนแปลง หรือเป็นเพียงการปั่นราคา สร้างกระแสเพื่อใช้จังหวะช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง
เป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์กัน
ลงมือก่อน ได้เปรียบ?
สาวกนิยายกำลังภายในจีนมักจะขึ้นใจกับสำนวนที่ว่า “ลงมือก่อน ได้เปรียบ” กล่าวคือ เมื่อสองจอมยุทธ์เผชิญหน้า ใครไวกว่าในการชักอาวุธออกมาประหัตประหารฝ่ายตรงข้ามย่อมเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ดังนั้น การเร่งประกาศตัวของพรรคการเมืองคือการส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง
ปรากฏการณ์ของการลาออกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนกว่า 30 คน ที่มาจากหลายพรรคการเมืองเพื่อสำแดงพลังในการยกทีมเข้าพรรคภูมิใจไทยในช่วงกลางเดือนธันวาคม พ.ศ.2565 เป็นตัวอย่างของคติลงมือก่อนได้เปรียบ
เพราะหากพิจารณาเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.ในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรอยู่ครบอายุ 4 ปี ที่กำหนดว่าต้องเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง (มาตรา 97 (3) รัฐธรรมนูญ 2560) และหากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ทำปฏิทินเบื้องต้นว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2566
กำหนด 90 วันก่อนหน้าเลือกตั้งคือ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566
กลางเดือนธันวาคม พ.ศ.2565 จึงยังห่างไกลจากเส้นตายดังกล่าวอยู่มาก
การลาออกแล้วมาเขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคจึงไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ แต่เป็นการจัดการเร่งรัดเพื่อผูกมัดคนดังกล่าวให้อยู่กับพรรคและสร้างภาพสังคมและฝ่ายการเมืองรับรู้ว่า พรรคนี้เป็นที่สนใจของนักการเมืองและมีโอกาสเป็นพรรคใหญ่ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต ทรัพยากรทั้งเงินและคนจะได้ไหลมารวมที่นี่ในกรณีที่เห็นว่าเป็นพรรคที่มาแรงในกรณีที่พรรคใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์อาจไปไม่ถึงฝั่ง
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ตราบใดที่นักการเมืองยังมีเวลาในการย้ายพรรค ตราบใดที่นักการเมืองไทยยังประเมินบวกลบคูณหารถึงผลประโยชน์ได้เสียจนนาทีสุดท้าย
ที่เคยรับปาก ที่เคยสัญญา ล้วนเปลี่ยนแปลงได้
ลงมือก่อน อาจไม่ใช่ความได้เปรียบ หากฝ่ายตรงข้ามของคุณชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยังมีอำนาจยุบสภาอยู่ในมือและยังไม่คิดวางมือทางการเมือง
ปริมาณ บ่งบอกคุณภาพ?
เกมของตัวเลขทั้งตัวเลขที่คาดการณ์และตัวเลขจำนวนจริง คือ สิ่งที่พรรคการเมืองใช้ในการสร้างภาพต่อสาธารณะให้เชื่อมั่นถึงอนาคตทางการเมืองของพรรค พรรคเพื่อไทยใช้ตัวเลข 200 ขึ้นไป เพื่อบ่งบอกว่าจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง เพื่อดึงตัวเลขให้สูงขึ้นให้เกิน 250 นำไปสู่ความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาล
พรรคภูมิใจไทย จาก 50-60 ปัจจุบันใช้ตัวเลข 100-120 เพื่อบ่งบอกว่าจะเป็นพรรคอันดับสองที่พร้อมถูกทาบทามเข้าร่วมรัฐบาล หรือแม้กระทั่งจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเองหากอีกฝ่ายหนึ่งไม่พร้อม และยังใช้ตัวเลข 30 จริงของการลาออกของ ส.ส.ที่สังกัดพรรคการเมืองต่างๆ มาเข้าแถวสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้ทุกคนได้เห็น
พรรคใหม่ที่นายกรัฐมนตรีเคยแสดงท่าทีความตั้งใจในการไปร่วม ไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลขเพียงแค่ 25 เพื่อให้สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี (มาตรา 88 รัฐธรรมนูญ 2560) แต่คิดไกลไปถึง 80-100 เป็นอย่างน้อย เพื่อให้เป็นพรรคอันดับสาม อันดับสี่ ให้พอมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงเป็นฝ่ายสนับสนุน
พรรคการเมืองทุกพรรคล้วนประเมินถึงตัวเลขที่ตัวเองจะได้ รวมไปรวมมาอาจถึง 1,000 กว่าคน ทั้งๆ ที่เก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรมีเพียง 500 ที่
ตัวเลขที่เห็นทั้งหลายจึงเป็นปริมาณ แต่มิใช่คุณภาพ เป็นเกมของตัวเลขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มทุนสนับสนุน และให้เกิดการไหลเข้าของผู้สมัครเกรดเอ หรือผู้สมัครที่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเท่านั้น
ของจริงจะมีเท่าไร ต้องดูหลังการเลือกตั้ง
นกตื่นสาย จะหาอาหารได้หรือไม่
นกตื่นเช้า (Early bird) ที่ขยันจะหาอาหารได้ เป็นภาษิตที่เตือนใจให้ต้องเริ่มทำงานทุกอย่างโดยเร็ว แตกต่างจากท่าทีที่ลังเลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทางการแสดงจุดยืนทางการเมืองว่าจะเลือกพรรคการเมืองใดเป็นหลังพิงในการเลือกตั้ง
ความยากลำบากของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ที่ความไม่ลงตัวระหว่างความอยากอยู่ต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 ปีตามการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะที่พรรคการเมืองเดิมที่เคยสนับสนุนเห็นว่านี่คือข้อจำกัดและเป็นอุปสรรคในการหาเสียงและตัดโอกาสในการร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีแนวโน้มชนะเลือกตั้ง
เมื่อชั่งน้ำหนักได้เสียแล้ว นักการเมืองในพลังประชารัฐจึงเลือกที่จะเสียสละ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อผลในการชนะเลือกตั้งและมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับทุกฝ่าย
ส่วนพรรคใหม่ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคนไหลเข้าได้ตามคาด ทำให้ตัว พล.อ.ประยุทธ์ยังเชื่องช้าลังเลในการตัดสินใจว่า จะอยู่ที่ใหม่เต็มตัวหรือจะย้อนคืนที่เก่าที่จากมา
เป็นนกตื่นสายในทางการเมือง ที่ถึงเวลาจะออกหาอาหาร จะมีอาหารเหลือให้อีกหรือไม่
หากแต่คิดว่า เป็นนกตัวใหญ่ แม้ออกสาย ก็ไปแย่งนกตัวเล็กกินได้
กระแส หรือกระสุน
โจทย์สุดท้ายของการเมืองไทยยุคปัจจุบัน คงไม่พ้นเรื่องกระแสหรือกระสุน
กระแสเป็นเรื่องความนิยมชมชอบที่มีต่อบุคคล ต่อพรรคการเมือง ต่อจุดยืนอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค ในขณะที่กระสุนเป็นความพรั่งพร้อมของทรัพยากรในการเลือกตั้ง
กระสุนสะสมได้ และจะมีนายทุนสนับสนุน หากเขาเล็งเห็นว่าพรรคการเมืองนั้นมีโอกาสชนะการเลือกตั้งหรือมีโอกาสเป็นรัฐบาลในอนาคต
การปั่นราคาเพื่อสร้างกระแสจึงมีจุดหมายประการหนึ่งคือให้ได้มาซึ่งกระสุนที่มากมายเพียงพอที่จะใช้ในการเลือกตั้ง
คำตอบของทุกพรรคการเมืองในเวลานี้คือ การสร้างภาพให้เห็นว่าพรรคตนนั้นมีกระแสนิยมในหมู่ประชาชน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมโพลที่อยู่ในฝั่งผู้มีอำนาจ จึงกล่าวถึงชื่อของบุคคล เช่น ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุทิน ชาญวีรกูล จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่ามีคะแนนนิยมดีในหมู่ประชาชน ในขณะที่อีกฝ่าย จะกล่าวถึงชื่อของ แพทองธาร ชินวัตร เป็นต้น
กระแสที่เกิดจึงมีทั้งกระแสจริง และกระแสที่ปั่นขึ้นมาเอง เป็นการสร้างด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ใช้หลักการตลาดเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวสินค้าทั้งๆ ที่จริงๆ อาจไม่ได้มีกระแสตอบรับมากถึงขั้นดังกล่าว
แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ที่เป็นกระแส พึงรู้ด้วยว่า กระแสนั้นเป็นกระแสความนิยมจริง หรือถูกปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อผลทางการเมือง
ปั่นกระแสเอง แล้วหลงกระแสตัวเองคิดว่ากระแสดี จบกันครับลุง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022