ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ |
เผยแพร่ |
สังคมคลั่งเครียด
โลกความฝันมีได้ในความฝัน
ขณะดั้นดิ่งจมสังคมผี
อย่าหวังเลยคุณธรรมและความดี
ตราบยังมี “ยาบ้า” มาฆ่าคน!
มีโวหารว่า “สังคมเลวทำคนให้เป็นผี สังคมดีทำผีให้เป็นคน”
สังคม “ยาบ้า” นี่แหละคือสังคมเลว มันทำคนให้กลายเป็น “ผีบ้า” มาฆ่าคนได้กระทั่งลูกเล็กเด็กแดง
ยาบ้าในที่นี้จึงไม่หมายเฉพาะตัวยา หากหมายรวมหมดตั้งแต่คนผลิต กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย มาถึงคนเสพ กระทั่งออกฤทธิ์ออกเดชทำร้ายสังคม และทำลายตัวเองในที่สุด
นี้คือวงจรอุบาทว์ของสังคมผีบ้าที่มีสัญลักษณ์ “ยาบ้า”
มันคือนรกชัดๆ
เราใจร้ายพอจะปล่อยให้สังคมเราเลวกันได้ถึงอย่างนี้จริงๆ หรือ
สังคมเลวทำคนให้เป็นผี
สังคมดีทำผีให้เป็นคน
จะทำผีให้เป็นคนได้อย่างไร ถ้าสังคมมันไม่ดี มันยังเป็นสังคมเลวกันอยู่อย่างนี้
มีโวหารอีกว่า
“สังคมเลวไม่ใช่เพราะมีคนเลวมากกว่าคนดีหรือมีคนทำความเลวมากกว่าคนทำความดี หากสังคมเลวเป็นเพราะทุกคนในสังคมไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลวมากกว่า”
กล่าวมาทั้งหมดนั้นคือส่วนหนึ่งของสาเหตุการก่อผลร้าย ซึ่งต้องช่วยกันพิจารณาหาข้อเท็จจริงอันมีเหตุและปัจจัยอีกมากนัก ตลอดจนหน่วยงานและกระบวนการรับผิดชอบที่นับวันจะหนักหนาสาหัสเข้าทำนอง “ไม่ขจัดเหตุ-มุ่งแต่เผด็จผล”
ที่ถูกนั้นต้อง “ขจัดเหตุ” เป็นหลัก “เผด็จผล” เป็นรอง และต้องดำเนินการไปด้วยกัน ไม่หนักไปข้างใดข้างเดียว สมดังคาถาพระอัสชิ ที่ตอบคำถามเมื่อถูกถามว่าศาสดาของท่านกล่าวถึงหัวใจแห่งธรรมไว้ว่าอย่างไร พระอัสชิตอบเป็นคาถาว่า
เยธัมมา เหตุปภวา
เตสังเหตุม ตถาคโต
เตสัญจะโย นิโรโธ จะ
เอวังวาที มหาสะมะโณ
แปลความว่า
สิ่งใดเกิดแต่เหตุ
พระตรัสเหตุแห่งสิ่งนั้น
พร้อมความดับที่เหตุนั้นด้วย
พระองค์ตรัสเพียงเท่านี้
วิกฤตสังคม “คลั่งเครียด” เพราะวงจรอุบาทว์ของยาบ้าหรือยาผีบ้าวันนี้จึงต้องช่วยกัน “ขจัดเหตุ” ไม่ใช่เอาแต่ “เผด็จผล” ลูกเดียว
หลังข่าว “คลั่งฆ่า” ที่หนองบัวลำภูเริ่มมีข้อมูลทั้งเรื่องยาบ้าและอาวุธปืน พร้อมจำนวนครั้งของเหตุการณ์พรั่งพรูออกมามากมาย ถึงกับจัดสถิติว่าไทยเรามีสถิติในเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วยซ้ำ
จำเพาะข้อมูลเรื่องการถือครองอาวุธปืนนั้นว่ามีถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร คือในหนึ่งร้อยคนนั้นมีอาวุธปืนกันถึงสิบห้าคน
คนมีปืนนั้นความคิดจะอยู่ที่ปืนเป็นหลัก
นี้เป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง
และเป็นปัจจัยสำคัญให้ระเบิดความ “คลั่งเครียด” ออกมาตลอดเวลาดังข่าวมีอยู่ทั่วโลกเวลานี้
ยาบ้ายิ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญให้คน “คลั่ง” แม้ไม่มีอาวุธคนคลั่งก็ทำร้ายและทำลายให้เกิดความเสียหายได้ กระทั่งทำร้ายและทำลายตนเองด้วย
ส่วนความ “เครียด” นั้นเหมือนจะเป็นธรรมชาติของคนอันมีอยู่ในตัวทุกคนเป็นประจำ คือปัญหารอบตัวที่เผชิญทุกวัน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กับอีกจิปาถะ
ยิ่งโลกยุคจอแผ่นคนยิ่งตกเป็นเหยื่อมันชนิดวางไม่ลงเลยละ…ก็มันอยู่ในมือนี่ไง
นักจิตวิทยาบอกว่า คนที่มักเอาแต่รู้สึกนั้น ที่สุดจะกลายเป็นโรคประสาท คนที่มักเอาแต่คิดนั้นที่สุดจะกลายเป็นโรคจิต และคนที่มักเอาแต่ทำๆๆ ไม่คิดไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ที่สุดจะกลายเป็นอาชญากรได้ง่าย
เวลานี้เหมือนเราจะมีแต่คนไม่คิดไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น หากจะคิดจะรู้สึกก็ดูจะ “จอมปลอม” เพราะตกเป็นเหยื่อของโลกยุคจอแผ่นนี่ไง
พุทธธรรมอธิบายว่า จิตเรานี้มีสามบทบาทคือ รู้สึก-นึก-คิด ภาษาพระเรียกเวทนา (รู้สึก) สัญญา (นึก) สังขาร (คิด) ดังอธิบายในขันธ์ห้านั้น
ปัจจุบันโรคใหม่ของโลกยุคใหม่คือ โรค “ซึมเศร้า” โรคนี้สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากคนที่มักเอาแต่ “นึก” อันเป็นหนึ่งในบทบาท “รู้สึก-นึก-คิด” ของจิตนี่กระมัง คือหนักอยู่แต่นึก จมอยู่ในภวังค์หรือวังวนของจินตนาการส่วนตัวโดยไร้ทั้งความรู้สึกและความคิด จึง “ซึมเศร้า” อยู่กับตนเอง
แม้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายกลางเครื่องไม้เครื่องมือหรือนวัตกรรมโลกยุคใหม่ นี่แหละ ยิ่งทำให้ “วังเวงกับวังวน” จนซึมเศร้า เหงาเปลี่ยวเดียวดายกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองวันนี้
ถ้าไม่ช่วยกันขจัดเหตุ มัวแต่เผด็จผล
สังคมคลั่งเครียดก็จะยิ่งทำให้คนเป็นอย่างวันนี้มากขึ้นคือ
ผีบ้าเพราะยาบ้า!
คลั่งเครียด
“สังคมเลวทำคนให้เป็นผี
สังคมดีทำผีเป็นคนได้”
คำผู้รู้เคยเอ่ยเคยว่าไว้
คือโลกใหม่ คนใหม่ … สังคมเลว
คนที่มียาบ้ามีอาวุธ
สติหลุดสุดหล้าปัญญาเหลว
ปัญหารุมคลุ้มคลั่งดั่งไฟเปลว
ลุกล้อมรอบขอบเหวแห่งหายนะ
ขมวดเครียดเคียดแค้นอยู่แน่นอก
ผีนรกจกกบาลไม่ผันผละ
วนวังเวงเคว้งคว้างไม่ร้างละ
ชีวิตคือเศษสวะในวังวน
จึงคลั่งแค้นคลั่งเครียดจนคลั่งฆ่า
ล้วนผีห่าซาตานมันพล่านพ่น
ยาผีบอกผีบ้ามาร่ายมนต์
ผลักผู้คนหล่นจมอเวจี
โลกความฝันมีได้ในความฝัน
ขณะดั้นดิ่งจมสังคมผี
อย่าหวังเลยคุณธรรม และความดี
ตราบยังมี “ยาบ้า” … มาฆ่าคน! •
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022