Drifting Home | การ์ตูนที่รัก

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Drifting Home

 

เปิดเผยเนื้อเรื่อง

ข้อเสียคือยาวเกินไปและหนวกหูเกินไป

มาดูข้อดีที่น่าชมครับ อย่างแรกคืองานด้านภาพ ไอเดียเรื่องตึกต่างๆ ลอยไปในมหาสมุทรว่าบรรเจิดแล้ว งานด้านภาพเก็บรายละเอียดของแต่ละตึกได้บรรเจิดกว่า

อย่างที่สองคือโครงสร้างของเรื่อง หนังทั้งเรื่องคือจิตใจของคนดู (mind) ประกอบด้วยโครงสร้างสามส่วนคือ อิด อีโก้ และซูเปอร์อีโก้ เมื่อเรากำหนดให้ท้องทะเลเป็นอิด เด็กๆ เป็นอีโก้ และตึกทั้งหลายเป็นซูเปอร์อีโก้

สำหรับเนื้อเรื่องเป็นไปตามแบบฉบับของหนังเปลี่ยนผ่าน (coming of age) เด็กๆ มีปมที่ต้องแก้ก่อนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาถูกเอามารวมกันไว้ในแฟลตหลังใหญ่ที่ล่องลอยไปในทะเล ผจญผีในตึก ความอดอยาก ไม่มีน้ำอาบ ร่วมมือกันแก้ปัญหา ผ่านพายุร้าย แล้วรอดพ้นการกระทบกระทั่งของอาคารหลังต่างๆ ในตอนท้าย

ท้องทะเลและเด็กชายนปโปะเป็นอิด ความอดอยากและร่วมมือแก้ปัญหาเป็นอีโก้ พายุร้ายและอาคารหลังต่างๆ เป็นซูเปอร์อีโก้ การปะทะสังสันทน์ของส่วนประกอบของจิตใจทั้งสามส่วนจะดำเนินไปตลอดทั้งเรื่องอย่างยาวเหยียด หนวกหู และเล่นเอาเพลียกว่าจะถึงตอนจบที่ซึ่งทุกคนเป็นผู้ใหญ่

หนังยาว 2 ชั่วโมง แบ่งครึ่งดูน่าจะสนุกกว่า

เมื่อเห็นภาพรวมของหนังเราจะนึกถึง Lord of the Flies โดยไม่ยาก มีแปลไทยในชื่อ วัยเยาว์อันสิ้นสูญ พิมพ์ใหม่แล้ว สร้างเป็นหนังแล้วหลายครั้ง เล่าเรื่องเด็กอังกฤษกลุ่มหนึ่งเรือแตกไปติดเกาะแห่งหนึ่งที่ซึ่งพวกเขาต้องใช้ชีวิตทุรกันดารร่วมกันโดยไม่มีผู้ใหญ่มาช่วยเหลือ พอเวลาผ่านไปกติกาสังคมหมดสภาพลง เด็กบางคนจะกลายเป็นอิด เป็นปีศาจ แสดงธาตุแท้ออกมา เด็กบางคนยกตนเป็นซูเปอร์อีโก้คือพลังเหนือธรรมชาติ เหลือเพียงบางคนที่พอจะดำรงอีโก้ของตนเองได้บ้างแต่ก็ร่อแร่เต็มที

ข้อแตกต่างคือในหนังสือเปรียบเกาะทั้งเกาะเป็นอิด คือทะเลแห่งจิตใต้สำนึก โดยที่ซากอะไรบางอย่างเป็นซูเปอร์อีโก้เล็กๆ ที่แทบไม่มีพลังอะไรมากมาย

ไม่เหมือน Drifting Home ที่ซูเปอร์อีโก้เป็นตึกใหญ่โตมาก ใหญ่เท่าพ่อแม่จริงๆ กันเลย

หนังเล่าเรื่องเด็กสองคนเป็นตัวหลัก เด็กประถมชายโคสึเกะกับเด็กประถมหญิงนัตสึเมะ กับแฟลตสูงหลังหนึ่งที่ถูกทิ้งร้างไปแล้ว มีตัวเลขบนอาคารว่า 112

ปิดเทอม โคสึเกะกับเพื่อนเด็กผู้ชายสองคนแอบขึ้นไปบนแฟลตที่ลือกันนักหนาว่ามีผีสิง มีคนเคยเห็นเด็กเดินไปมาอยู่ข้างบน เด็กผู้หญิงอีกสองคนแอบติดตามเด็กชายสามคนขึ้นไปด้วย ที่บนอาคารนั้นพวกเขาได้พบนัตสึเมะนอนหลับอยู่ในตู้ชวนขนลุก

แฟลตหลังนี้เคยเป็นที่อยู่ของโคสึเกะและนัตสึเมะ โคสึเกะอาศัยอยู่กับคุณปู่ตั้งแต่เล็กๆ นัตสึเมะมาจากครอบครัวหย่าร้าง เธอย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทีหลัง แต่เธอชอบมาเล่นกับคุณปู่ “คุณปู่เป็นคนเดียวที่รักเธอ” ต่างจากที่บ้านเก่าที่เธอเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ

นัตสึเมะแบกความรู้สึกผิดมาด้วย เธอคิดเสมอว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่พ่อแม่เลิกกัน ครั้นมาอยู่กับคุณปู่เธอลืมความรู้สึกนี้ได้ เธอลืมไปเลยว่าปู่คนนี้มิใช่ปู่ของเธอจริงๆ แต่เป็นปู่ของโคสึเกะ เธอชอบเล่นกับโคสึเกะ เธอสนุกสนานและมักทำตัวเป็นพี่สาว จนกระทั่งวันหนึ่งเด็กสองคนเกิดผิดใจกัน โคสึเกะกล่าววาจาที่ทำให้แก้วแตกร้าว เป็นเวลาเดียวกับที่คุณปู่จากไปพอดี บัดนี้เธอรู้สึกผิดอีกแล้ว ทั้งมาแย่งคุณปู่ของคนอื่น ทั้งเป็นสาเหตุให้ปู่กับหลานชายไม่ได้คุยกันในนาทีสุดท้าย

ผิดมหันต์จริงๆ!

นัตสึเมะจึงถดถอยลงทะเล (regression) ลงสู่ท้องทะเลแห่งอิด บังเอิญบนตึกมีเด็กชายตัวสูงตาคล้ำชื่อนปโปะสิงสู่อยู่ด้วย นปโปะเป็นจิตวิญญาณของตึกที่ดูแลเด็กสองคนมาตั้งแต่เกิด แต่เขามิได้ดูแลอะไรนอกเหนือจากตามอกตามใจ เขาจึงเป็นอิด ตึกทั้งตึกจึงลอยไปในทะเลด้วยกันทั้งหมด อา บัดนี้เด็กสองคนกับเพื่อนสี่คนรวมหกคนติดตึก คือติดเกาะเรียบร้อยแล้ว ทะเลที่เห็นคือทะเลแห่งจิตใต้สำนึกที่พวกเขาจะได้ล่องลอยไปอีกหลายวัน

พวกเขาพบอาคารหลังอื่นลอยสวนมา อาคารหลังแรกเป็นสระว่ายน้ำเก่าที่เด็กๆ เคยมาเล่น พวกเขาโหนเชือกข้ามตึกไปค้นหาอาหารและน้ำดื่ม (หนังแฟนตาซีจึงควรมองข้ามความเป็นไปได้) อาคารหลังที่สองเป็นห้างสรรพสินค้า พวกเขาข้ามไปสำรวจอีก นัตสึเมะพบอดีตของตนเองจากอาคารเหล่านี้ เป็นประสบการณ์ที่มีต่อพ่อแม่ใจร้ายในอดีต อาคารเหล่านี้เป็นอาคารที่ใจร้ายต่อเธอ เหมือนซูเปอร์อีโก้ที่จะอยู่เหนือกว่าเสมอ ปมที่ฝังใจเธอมาคือตุ๊กตา

หนังทั้งเรื่องจะมีตุ๊กตาหรือสัญลักษณ์ของตุ๊กตาสามตัว หนึ่งคือตุ๊กตานุ่มนิ่มสีเขียวที่เธอกับโคสึเกะเล่นด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ สองคือกล้องถ่ายรูปของคุณปู่ และสามคือนปโปะ

ตุ๊กตาในจิตวิเคราะห์เป็นเครื่องมือที่ใช้สะเทินทุกอย่างในจิตใจได้จริงๆ หากตัวแรกทำงานไม่ได้ผล ต้องมีตัวที่สอง หากตัวที่สองทำงานล้มเหลวอีก ต้องมีตัวที่สาม และเมื่อตุ๊กตาทำหน้าที่เสร็จแล้วมันต้องถูกเอาไปทิ้งไว้ที่ใดที่หนึ่งอย่างแน่นอนแม้ว่าเจ้าตัวจะเก็บไว้ในความทรงจำบางส่วนก็ตาม ดังที่เราจะได้เห็นจุดจบของนปโปะในตอนท้าย

ท้องทะเลเวิ้งว้าง ความอดอยาก และความสกปรก นำไปสู่การระเบิดอารมณ์ของเด็กแต่ละคนมากบ้างน้อยบ้าง จึงว่าหนังหนวกหูเกือบตลอดเวลา หลังจากปล่อยให้อิดอาละวาดจนหนำใจหมดแรงกันไปแล้วจึงมาถึงหน้าที่ของซูเปอร์อีโก้ที่พวกเขาต้องเอาชนะ อาคารต่างๆ จึงประเดประดังเข้ามากระแทกกันในตอนท้าย ซึ่งกินเวลานานมาก

แต่จะว่าไป พวกเราก็ใช้เวลานานมากกว่าจะเอาชนะพ่อแม่กันได้

ในที่สุดอิดต้องเอาชนะพ่อแม่ เราต้องเอาชนะซูเปอร์อีโก้ แต่จะไม่มีวันกำจัดได้ อีโก้จะผสานบาดแผลในวัยเด็กแล้วสร้างซูเปอร์อีโก้เฉพาะตนขึ้นมา คือภาพลักษณ์ของพ่อแม่ในรูปแบบใหม่ดังที่เราจะได้เห็นในตอนท้ายอีกเช่นกัน

กำกับฯ โดย ฮิโรยะสุ อิชิดะ ชวนดูครับ •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์