พปชร.ลุยฟื้นเรตติ้ง ชี้วัดผ่านผลเลือกตั้ง ประเดิมโรดโชว์ ‘ถิ่นเฮ้ง’/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

พปชร.ลุยฟื้นเรตติ้ง

ชี้วัดผ่านผลเลือกตั้ง

ประเดิมโรดโชว์ ‘ถิ่นเฮ้ง’

 

การเคลื่อนไหวผ่านการทำงานกว่า 1 เดือนของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ภายหลังคณะกรรมการการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ชนะมาแบบแลนด์สไลด์เกือบ 1.4 ล้านคะแนน

เรียกได้ว่าชาว กทม.เทใจให้นายชัชชาติอย่างล้นหลาม จนเกิดกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” ไม่ใช่แค่เพียงคะแนนเสียงที่ชาว กทม.เทให้

แต่กระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” เป็นสิ่งที่สะเทือนมาถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐรับรู้ได้ผ่านผลการสำรวจของ “นิด้าโพล” ในครั้งที่ 2/2565 ต่อความนิยมของพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกตั้งครั้งหน้า โดยพรรคพลังประชารัฐได้รับความนิยมมาในอันดับที่ 4 ด้วยคะแนนเพียง 7%

เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับที่ 4 เช่นเดียวกันด้วยคะแนน 11.68% ที่คนอยากจะเลือกให้เป็นนายกฯ คนต่อไป

บทบาทและสไตล์การทำงานของ “ชัชชาติ” ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์อยู่เสมอ อีกทั้งเมื่อลงพื้นที่ก็มักจะได้ยินเสียงของประชาชนตะโกนให้เป็นนายกฯ อยู่เสมอ

เรียกได้ว่า แค่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ก็ส่งผลสะเทือนถึงผู้บริหารประเทศในขณะนี้เป็นอย่างมาก

 

อะไรที่ทำให้นายชัชชาติมีแต่คนมาฟีเวอร์ คงไม่ใช่แค่ม็อตโต้ในการหาเสียง คือ ทำงาน ทำงาน ทำงาน

เพราะหากวัดกันที่การทำงาน พล.อ.ประยุทธ์ก็ปฏิบัติภารกิจการงานมากเช่นกัน

แต่ที่นายชัชชาติทำงานจนเกิดกระแสฟีเวอร์นั้น ไม่เพียงแค่ทำงานอย่างเดียว แต่ได้ถ่ายทอดผ่านสื่อของตัวเองอย่างเพจ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่จะอัพเดตกิจกรรมในแต่ละวันของผู้ว่าฯ กทม.คนนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องทำงาน ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ทั้งวิ่งตอนเช้า กินข้าว อื่นๆ อีกมากมาย แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปก็ทำ แต่พ่อเมือง กทม.คนนี้กลับทำให้เรื่องธรรมดา กลายเป็นคอนเทนต์ที่มีแต่คนอยากติดตามชม

กระแสแรงจนพรรคพลังประชารัฐยังหนาว และต้องเปิดกลยุทธ์เรียกกระแส ฟื้นเรตติ้งของพรรคกลับมาโดยเร็ววัน เหมือนกับที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ยอมรับว่า รัฐบาลอาจจะประชาสัมพันธ์สู้นายชัชชาติไม่ได้ แม้จะทำงานอยู่แล้ว การที่นายชัยวุฒิระบุเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับพรรค พปชร.แน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เรียกกรรมการบริหารพรรค ประชุมหลังการเลือกตั้งสนาม กทม. เพื่อวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ที่ได้มีการสะท้อนปัญหาและถกกันถึงการเตรียมแผนเลือกตั้งใหญ่

โดยในการประชุมครั้งดังกล่าว พล.อ.ประวิตรได้ตั้งนายชัยวุฒิเป็นผู้รับผิดชอบคณะทำงานดูแลเรื่องของโซเชียลมีเดีย

ฉะนั้น การที่นายชัยวุฒิออกมารับถึงการพีอาร์ที่สู้นายชัชาติไม่ได้ ย่อมเป็นอุปสรรคหลักต่อการสู้เลือกตั้งในครั้งหน้าอย่างแน่นอน

 

มีคนในพรรค พปชร.บางคน อยากให้ลองปรับความคิดในการมองการทำงาานของนาชชัชชาติที่นั่งตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่

อย่างนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค ระบุว่า 1 เดือนที่ผ่านมา นายชัชชาติทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของเราทำอะไรบ้าง ต้องดูตรงนี้ และการออกไปตรวจพื้นที่ไม่ใช่เรื่องยาก แค่นั่งรถไปตรวจก็ได้ หรือออกไปกินข้าวกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยก็ไม่ยาก แต่ถามว่าทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ทั้งนี้ ผู้นำเป็นผู้คิดนโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มองไปข้างหน้า ไม่ได้เป็นแค่ผู้นำที่ประชาชนมองว่าทุ่มเทมาก ฝนตกน้ำท่วมลงไปเปิดท่อ มันไม่ใช่ ถ้าเป็นตนจะบอกว่า น้ำห้ามท่วม ขยะตัน จะให้เวลาภายในหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นจะลงไปดู อย่างนี้เรียกว่าเป็นนโยบายที่ผู้นำจะต้องทำ จึงขอให้ทุกคนเปลี่ยนความคิด นอกจากการมองการทำงานของความเป็นภาวะผู้นำนั้น ไม่เหมือนกับผู้นำที่เกิดขึ้นต่อประชานตอนนี้แล้ว

นายสุชาติยังได้ระบุอีกว่า ถ้าไปชลบุรี ตนเองก็ฟีเวอร์เหมือนกัน อยากให้ดูว่าพื้นที่ใคร

หรือนี่จะเป็นการบอกเป็นนัยว่า พรรค พปชร.จะทิ้งพื้นที่ กทม.และพุ่งเป้าไปที่อื่น ฉะนั้น การจัดโรดโชว์คงต้องจับตามองพื้นที่ที่พรรค พปชร.คาดหวังว่าจะกวาดมาได้มีที่ใดบ้าง

 

โรดโชว์ที่แรกชลบุรี กลยุทธ์โรดโชว์ที่พรรค พปชร.คลอดออกมาหวังเรียกเรตติ้งคืนนั้น ในที่แรกเลือกจัดที่ จ.ชลบุรี โดยมีพ่องานอย่างนายสุชาติ ที่ปัจจุบันดูแลพื้นที่ภาคกลางตะวันออก โดยจะมีการจัดเวทีที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี งานเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยจะให้ ส.ส.และรัฐมนตรีในพื้นที่ขึ้นมาพูดผลงานที่ผ่านมาว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว และในอนาคตจะทำเรื่องอะไรอีก

นอกจากนั้น ภายในงานโรดโชว์ครั้งนี้ยังมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.ชลบุรีของพรรคทั้ง 10 เขตอีกด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ผู้ซึ่งเป็นหัวใจหลักของพรรค จะร่วมขึ้นเวที กล่าวผลงานที่ทำมาตลอดทั้ง 3 ปี เพื่อเรียกเสียงและให้ชาวชลบุรีมั่นใจว่าเลือก พปชร.อยู่ต่อ อนาคตสดใสแน่นอน ทั้งนี้ จังหวัดถัดไปที่จะจัดโรดโชว์คือ จ.เพชรบุรี ที่มี ส.ส.ของพรรคอยู่ถึง 3 เขต ซึ่งยังคงเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของนายสุชาติ

นอกจากโรดโชว์ พรรค พปชร.เพิ่งจะออกแคมเปญให้อย่าง “ยุวโฆษก” ซึ่งนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ที่ระบุว่า ต้องหาคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเพื่อสืบสานแนวทางของพรรคต่อไป “คนที่ศรัทธาในพรรคพลังประชารัฐ ศรัทธาในลุงตู่ ลุงป้อม ที่สำคัญศรัทธาในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เพื่อที่จะนำชาติให้พ้นภัย” พล.อ.ประวิตรมีแนวความคิดอีกหลายเรื่อง เดี๋ยวจะค่อยๆ ปล่อยออกมาทีละอย่าง หลังศึกอภิปรายไม่ไว่วางใจ

โรดโชว์ครั้งแรกที่ชลบุรี กลยุทธ์นี้เรียกเรตติ้งได้มากน้อยแค่ไหนว่าจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ จะสามารถให้ประชาชนในพื้นที่ฟีเวอร์ได้เท่าชัชชาติฟีเวอร์ ได้หรือไม่ คงต้องรอลุ้นกับเวทีโรดโชว์เวทีแรกในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้

ส่วนกลยุทธ์การฟื้นเรตติ้งของพรรค พปชร.จะตีตื้นกลับมาได้ขนาดไหน ผลการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นคำตอบ