ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | เอกภาพ |
ผู้เขียน | พิชัย แก้ววิชิต |
เผยแพร่ |
เอกภาพ
พิชัย แก้ววิชิต
เชือก
ครั้งหนึ่งเมื่อนานมา เชือกเส้นเล็กๆ ทำหน้าที่ผูกมัดสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา จนเป็นที่ยอมรับ และไว้วางใจได้ว่า สิ่งต่างๆ ที่ผูกมัดจะไม่แยกออกจากกันได้โดยง่ายตามหน้าที่ของเชือกที่ดี
ความเชื่อใจและมั่นใจคือรางวัลที่ผู้คนมอบให้กับเจ้าเชือกเล็กๆ เส้นนี้
หากแต่เมื่อนานวันเข้า เชือกที่มีเส้นใยแน่นหนาแข็งแรง ได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่มันเคยเป็น มันไม่อาจผูกมัดสิ่งต่างๆ ให้แน่นหนาได้ดังเดิม และไม่มีใครมั่นใจที่จะใช้งานเชือกที่กำลังผุเปื่อย มันถูกใช้งานน้อยลงทุกที
จนท้ายที่สุด มันคือเศษเชือกที่หมดสภาพ ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งานได้อีกต่อไป
ความเสื่อมสลายของกาลเวลารัดตรึงเชือกไว้แน่น ไม่มีใครที่จะช่วยให้เชือกรอดพ้นจากปุ่มปมของความผุเปื่อยที่อยู่ในตัวมันได้
และคงอีกไม่นานเกินรอ เวลาของการทิ้งขว้างจะตามมาถึงในอีกไม่ช้า
เมื่อเชือกไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะผูกมัดสิ่งใดไว้กับสิ่งหนึ่ง การเปลี่ยนเชือกเส้นใหม่ให้มาทำหน้าที่แทนเชือกเส้นเก่า ดูจะเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไป
มันคงไม่ใช่เรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจกับเชือกเส้นเล็กๆ ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงความทรงจำ
ใครกันจะสนใจเรื่องราวเศษซากของเชือก ที่รอคอยการมาถึงของวันที่จะถูกทิ้งและหายไปกับสิ่งที่มันเคยเป็น
เพราะทุกสิ่งเป็นที่ซ่อนของเรื่องราว แม้ในเศษซากก็มีเรื่องราวที่ไม่เคยทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และพร้อมจะเล่าอดีตที่ผ่านมาให้ได้รับรู้เสมอ แม้ว่าบางสิ่งจะไม่มีค่าพอให้เป็นที่จดจำ
แต่ทุกสิ่งก็ไม่เคยว่างเปล่าไปกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น เรื่องราวที่ผ่านมาจะยังคงอยู่ในตัวมันเองเสมอ
เศษเชือกที่ผุเปื่อยหมดสภาพการใช้งาน แต่มันไม่ได้หมดคุณค่าของความหมาย ที่ได้ฉุดดึงความคิด มัดรวมความรู้สึก และลากไปจนเห็นความเป็นจริงของทุกสิ่งที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากเหตุผลของกาลเวลา ที่จะคอยย้ำเตือนให้เข้าใจและยอมรับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าใครหรือสิ่งใดก็ตาม
เมื่อมองย้อนกลับไปกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นให้ลึกพอ จนได้เห็นร่องรอยชีวิตที่ผ่านมา ที่บางครั้งอาจต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่จากร่องรอยชำรุดในอดีต
หลายคนซ่อมชีวิตตัวเอง
อีกหลายคนเรียนรู้ที่จะสร้างตัวเองใหม่จากชีวิตที่ผุพัง จากเศษซากที่ไร้ประโยชน์ก็อาจมีค่ามากพอ ที่จะกระตุ้นเตือนให้สร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา
และบ่อยครั้งของที่ชำรุดก็ให้บทเรียนในการสร้างสิ่งที่คงทน
สําหรับผมเชือกที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เศษเชือกผุเปื่อยธรรมดาๆ ที่เคยถูกใช้งาน เมื่อมองย้อนกลับเข้าไปในอดีตของเชือกเส้นเล็กๆ นี้ ผมมองทะลุผ่านความผุพังจนเห็นเรื่องราวในอดีต จนพบกับความหมายของคำว่าหน้าที่ และกับความจริงของเวลาจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง การยอมรับและพยายามเข้าใจความจริงที่ไม่ยั่งยืนเป็นสิ่งที่ควร
ขณะเดียวกันการทำหน้าที่ให้ดีในวันนี้ ก็จะนำมาซึ่งความทรงจำดีๆ ในวันหน้า และเมื่อความจริงของเวลามาถึง ก็คงไม่มีอะไรต้องกลัวกันอีก
แน่นอนว่าการรับรู้มันต่างจากการถูกทดสอบ ในทุกๆ วัน สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวทดสอบเราอยู่เสมอ เราจะใช้สิ่งที่เราเคยรับรู้ รับมือกับความสุขความทุกข์ได้อย่างไร การได้มาและการเสียไป เมื่อเกิดขึ้นเราจะปรับตัวและเปลี่ยนตัวเองในรูปแบบไหน บนพื้นฐานของความไม่ชอบมาพากลของชีวิต ที่มันจะเปลี่ยนแบบทดสอบให้เราอยู่ตลอดเวลา
คงต้องทำใจให้เหนียวแน่นแข็งแรงให้เหมือนดั่งเชือก ที่จะผูกมัดความรู้สึกดีๆ เอาไว้ที่เอว และหากจะมัดสิ่งใดไว้กับสิ่งหนึ่ง ก็คงไม่มีอะไรแน่นเหนียวไปกว่าสายใยของความรักและความเข้าใจ
ขอบคุณมากมายครับ •