มองทะลุใจ ‘พี่ป้อม’ ในวันที่ไม่มี ‘น้องตู่’ ‘ประยุทธ์’ ขยับยึดกองทัพสู้ จับตา ตท.23 ชิงยึด 3 ทัพ ตท.22 ดิ้น-ตท.21 ดัน ‘บิ๊กโต้ง’ สู้/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

มองทะลุใจ ‘พี่ป้อม’

ในวันที่ไม่มี ‘น้องตู่’

‘ประยุทธ์’ ขยับยึดกองทัพสู้

จับตา ตท.23 ชิงยึด 3 ทัพ

ตท.22 ดิ้น-ตท.21 ดัน ‘บิ๊กโต้ง’ สู้

 

การจะไปต่อในสมัยที่ 3 ของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ดูจะไม่ง่ายนัก

ด้านหนึ่ง ต้องมีความชัดเจนเรื่องกองหนุน ทั้งในฝ่ายการเมือง และฝ่ายกองทัพ

โดยเฉพาะท่าทีของพี่ใหญ่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูจะไม่เต็มร้อยกับ พล.อ.ประยุทธ์เท่าใดนัก จนเกิดความระหองระแหงกันมาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ มือซ้ายมือขวาใน พปชร. ออกจาก รมต.แบบไม่บอกไม่กล่าวพี่ใหญ่ จนถึงปัจจุบัน

ปัญหาเกิดขึ้นเพราะ พล.อ.ประวิตรไม่เคยพูดหรือแสดงออกว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯของ พปชร.แค่ชื่อเดียว เมื่อนักข่าวถาม จะบอกแต่ว่า ไม่รู้ๆ

จนที่สุด พล.อ.ประยุทธ์เองต้องเป็นคนบอกกับสื่อเองว่า พล.อ.ประวิตรบอกแล้วว่าจะเสนอชื่อคนเดียว และยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้อยากเป็นนายกฯ แต่สนับสนุนผมเป็นนายกฯ ตลอดไป และยืนยันว่ายังอยู่กับ พปชร. ไม่ได้จะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกดึงจังหวะไว้ก่อน

หลังจากที่ พล.อ.ประวิตรถูกจับตามองเมื่อขึ้นป้ายสวัสดีสงกรานต์ขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ ในนามหัวหน้า พปชร.

แถมทั้งในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ที่ พล.อ.ประวิตรหายตัวไป ไม่ได้เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ ให้รดน้ำดำหัว พร้อมมีข่าวว่า เดินทางไปพักผ่อนที่ยุโรป โดยมีเป้าหมายการเดินทางที่อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นช่วงที่คนใกล้ชิดหลายคนก็เดินกันขวักไขว่ในลอนดอน

แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์เองก็ยังตอบคำถามเรื่อง พล.อ.ประวิตรเดินทางไปพักผ่อนที่อังกฤษ ว่า “ไม่ได้ไปพักผ่อน แต่ไปทำงาน” ก็เท่ากับไม่ปฏิเสธว่า พล.อ.ประวิตรไปอังกฤษ

แต่เมื่อกระแสข่าว “ดีล” หวนกลับมาอีกครั้ง และจับตามองว่า ทริปไปอังกฤษของ พล.อ.ประวิตร มีอะไรในกอไผ่ หรือไม่

ยิ่งเมื่อนายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ไปพบ พล.อ.ประวิตร แล้วต่อมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า ได้ถาม พล.อ.ประวิตร ว่าได้พบอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ แล้วเงียบไป ก่อนจะตอบว่า เขาฝากคิดถึงด้วย

จนถูกตีความกันว่า หมายถึงการยอมรับว่า ไปพบนายทักษิณมาจริง จนกลายเป็นประเด็นฮือฮา แต่ที่สุด นายนิโรธต้องรีบออกมาแก้ข่าวว่า แค่อำเล่น พูดเล่น จึงทำให้กระแสข่าวดีลสะพัดอีกระลอก

พล.อ.ประวิตรต้องออกโรงแก้ข่าวเอง ยืนยันว่า ไม่ได้ไปอังกฤษ ไม่ได้พบกับนายทักษิณ เพราะไม่เคยพบ ไม่เคยคุยกันเลยตั้งแต่ปี 2548 เมื่อเกษียณจาก ผบ.ทบ.

แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อ พล.อ.ประวิตรมากนัก เพราะเชื่อคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ก่อนหน้านี้ไปแล้ว

ความข้องใจยังไม่ทันคลี่คลาย กระแสข่าวดีลพรรค พปชร.กับพรรคเพื่อไทย ก็ยิ่งสะพัด แม้ พล.อ.ประวิตรจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสี่ยงไปพบนายทักษิณด้วยตนเองเลย เพราะคุยผ่านมือถือ หรือคุยกับบ้านจันทร์ส่องหล้าก็ได้

แต่เมื่อจู่ๆ พล.อ.ประวิตรหลุดคำว่า มีคนสำรองไว้มั้ง จนเป็นที่มาของคำว่า นายกฯ สำรอง เพราะตอบคำถามเรื่องการตีความการเป็นนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยิ่งทำให้กระแสข่าวลือมาโยงใยกันอย่างเหมาะเจาะ

ที่สำคัญ พล.อ.ประวิตรก็ยังแทงกั๊กเมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. แม้จะตอบว่า คือ พล.อ.ประยุทธ์ก็ตาม แต่เมื่อถามจะเสนอแค่ชื่อเดียวหรือไม่ กลับตอบว่า ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ พล.อ.ประวิตรอ้างคำพูดว่าจะเสนอแค่ชื่อเดียว

แต่พอนักข่าวซักถาม มีชื่อนายกฯ สำรอง คนที่ 2 และ 3 หรือไม่ และเป็นพลเรือนหรือเป็นทหาร แต่ พล.อ.ประวิตรก็เลี่ยงตอบ แค่บอกว่า ยังไม่รู้

ก่อนที่ต่อมา พล.อ.ประวิตรจะแก้ข่าวเองว่า ไม่ได้พูดว่าจะมีนายกฯ สำรอง พร้อมโบ้ยสื่อที่ออกข่าว “ผมบอกว่า ยังไม่รู้ ยังไม่ถึงเวลา”

ทั้งนี้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เองก็ข้องใจเมื่อเห็นข่าว จนต้องถาม พล.อ.ประวิตรด้วยตนเอง ก่อนที่นายกฯ จะมาบอกสื่อว่า ท่านไม่ได้พูดแบบนั้น

 

ท่าทีของ พล.อ.ประวิตร ยิ่งทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งหวาดระแวง ว่าพี่ใหญ่ทำอะไรที่ตนเองไม่รู้หรือไม่ จนต้องมีการเช็กข่าวกันเอง

ท่าทีและคำพูดของ พล.อ.ประวิตรนี้ ทำให้กระแสข่าวดีลยิ่งแพร่สะพัด ที่จะให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ ในดีลกับพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะในสมการไหน ทั้งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เกิดอุบัติเหตุ หรือในการเลือกตั้งสมัยหน้า ที่มีกระแสข่าวมาตลอดว่า พล.อ.ประวิตรมีนายกฯ สำรองในใจแล้ว

ขณะที่ถูกจับตามองว่า อาจจะอยากเป็นนายกฯ สักครั้งหนึ่ง

ย้อนกลับไปก่อนรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ชื่อ ป.ประวิตร เคยตกเป็นข่าวว่า อ.วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ อดีตโหร คมช. แห่งสำนักสุขิโต เชียงใหม่ ที่ทั้ง 3 ป. เป็นลูกศิษย์ เคยทำนายว่า ป. จะเป็นนายกฯ โดยข่าววงในตอนนั้นหมายถึง ป.ประวิตร แต่ในที่สุด หลังรัฐประหาร ป.ที่เป็นนายกฯ คือ ป.ประยุทธ์

“ผมไม่เคยสงสัย และไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ ว่าท่านอยากเป็นนายกฯ มั้ย เพราะท่านเคยบอกแล้วว่าไม่อยากเป็น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเอาไว้เมื่อครั้งที่ถูกถามว่า การขึ้นป้ายใหญ่ ทำให้ พล.อ.ประวิตรถูกมองว่าอยากเป็นนายกฯ

ยิ่งย้อนมองไปถึงสายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ ร.อ.ธรรมนัส ที่ยังแนบแน่น แถมทั้งเพิ่งมารดน้ำสงกรานต์ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะหลุดปากคำว่า นายกฯ สำรอง ออกมา

แม้ว่านายทักษิณจะออกมาช่วยปฏิเสธว่า ไม่ได้พบกับ พล.อ.ประวิตร เพราะตนเองอยู่ดูไบก็ตาม

ดังนั้น สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ตัว พล.อ.ประวิตร คือด่านแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ ไม่ว่าพี่ใหญ่จะเดินเกมเปลี่ยนนายกฯ หรือไม่

แต่อีกด่านหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องสร้างแนวร่วม กองหนุนให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกองทัพ ที่จะต้องเป็นกองหลัง ที่จะทำให้ไม่ต้องพะวงหลังอีก จึงมีสายตรงถึงกัน และพบปะกินข้าว ดินเนอร์ด้วยกันเดือนละครั้ง

และพยายามเลี่ยงที่จะแทรกแซงกองทัพในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย จึงปล่อยไฟเขียวมาตลอด

ขณะที่กองทัพเรือนั้น แม้บิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. จะดึงบิ๊กจอร์จ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ รอง เสธ.ทหาร กลับมาเป็น ผช.ผบ.ทร. ตั้งแต่ 1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

แต่ก็มีเสียงบอกเล่ามาให้ถึงสื่อว่า ไม่ได้หมายความว่าจะให้ พล.ร.อ.เชิงชายขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนต่อไป แต่แค่ให้มีตัวเลือกแคนดิเดต ผบ.ทร เพิ่มขึ้น และให้ทำงานแข่งกัน เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศใน ทร. และไม่ทำให้ พล.ร.อ.เชิงชายกลายเป็นเป้า

กระนั้น ก็คงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ได้วางตัว พล.ร.อ.เชิงชายเป็น ผบ.ทร.คนต่อไปในตุลาคม 2565 แทนตนเองที่จะเกษียณราชการ เพราะถือเป็นการคืนความชอบธรรมให้ พล.ร.อ.เชิงชายที่ไม่ได้ขึ้น 5 ฉลาม ทร.ในโยกย้ายตุลาคม 2564 แต่ถูกเตะไปเป็นรอง เสธ.ทหาร ที่ บก.ทัพไทย ทั้งๆ ที่เป็นคนเก่งของ ตท.22

อีกทั้งในการไปตรวจการฝึกการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการฝึก ทร.ที่สนามฝึกบ้านจันทเขลม จันทบุรี เมื่อ 21 เมษายน 2565 ก็ปรากฏชัดว่า เป็นเสมือนการเปิดตัว โชว์ตัว พล.ร.อ.เชิงชาย

เพราะมีแค่บิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. ที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ทร.เท่านั้น ที่มาร่วมชมการฝึก ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ 2565

และจัดให้ พล.ร.อ.ธีรกุล และ พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ยิงปืนกลเบา M249 Minimi ประชันฝีมือกัน ในขณะที่ พล.ร.อ.สมประสงค์ ยิงปืนกล M60E4 ถึงขั้นที่สื่อจ้อง และไปรุมถ่ายภาพ พล.ร.อ.เชิงชายมากกว่า ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.ธีรกุลเสียอีก เพราะสถานภาพของ พล.ร.อ.เชิงชาย คือว่าที่ ผบ.ทร. มากกว่าเป็นแคนดิเดต

แต่ก็ไม่อาจมองข้าม พล.ร.อ.ธีรกุล ตท.21 ที่มีความอาวุโส เพราะครองอัตราพลเรือเอกพิเศษแล้ว และเคยได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร.ครั้งก่อน แต่ถูกแก้โผให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ตท.20 ที่อาวุโสกว่า ทั้งยศและรุ่น ข้ามจากรองปลัดกลาโหม มาเป็น ผบ.ทร.

เรียกได้ว่า นอกจาก พล.ร.อ.สมประสงค์มีความชอบธรรมแล้ว ยังมีพลังเพื่อน ตท.20 ทั้ง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม เสนอ และบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร.ในเวลานั้น ยอมแก้ชื่อจาก พล.ร.อ.ธีรกุล เป็น พล.ร.อ.สมประสงค์ ที่อาจเรียกได้ว่า เป็นการเมือง เพราะ พล.อ.ณัฐมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม หนุนหลัง จึงทำให้ พล.ร.อ.ธีรกุลเป็น ผบ.ทร.ตกสวรรค์ ได้รับการเสนอชื่อแต่โดนเปลี่ยน

จึงมีข่าวสะพัดใน ตท.21 รุ่นของบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด และบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. สนับสนุนให้ พล.ร.อ.ธีรกุลเรียกคืนความชอบธรรม แถมทั้งอาวุโสที่สุด หากไม่ได้เป็น ผบ.ทร. ก็ควรได้เป็นปลัดกลาโหม

พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ,พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์

แต่ทว่า โอกาสน้อย เพราะเต็งหนึ่งคือบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม ลูกรักบิ๊กป้อม และน้องรักบิ๊กตู่ จ่ออยู่แล้ว แม้จะเป็น ตท.24 มีอายุราชการถึงกันยายน 2568 ก็ตาม

แถมเก้าอี้ปลัดกลาโหมอาจใช้ในการแก้ปัญหาเก้าอี้ ผบ.ทบ. หาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องการจะเปลี่ยน ผบ.ทบ. ไม่ว่าจะโดยทางเลือกไหน ทั้งขยับบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหมเลย

หรือว่าจะขยับบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ที่นั่งเป็น ผบ.ทหารสูงสุด 2 ปีแล้ว ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหมคอแดงคนแรก แล้วให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ที่เป็น ผบ.ทบ.มา 2 ปีแล้ว ขึ้นมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุดแทน เพิ่อเปิดทางให้บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผช.ผบ.ทร. น้องรัก ตท.23 สายทหารเสือราชินี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.เร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องรอจน พล.อ.ณรงค์พันธ์เกษียณกันยายน 2566 เพื่อที่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้มี ผบ.ทบ.ที่เต็มที่กับตนเอง ในยามที่ต้องสู้ศึกการเมือง เพื่อกลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัย

จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ ตท.21 จะผลักดัน พล.ร.อ.ธีรกุลให้ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม แต่สู้ชิงเก้าอี้ ผบ.ทร. ยังมีน้ำหนักมากกว่า เพราะอาวุโสถึง

แต่ในใจของ พล.ร.อ.สมประสงค์ นั้นเตรียมส่ง พล.ร.อ.ธีรกุลไปเป็นรองปลัดกลาโหม เพราะเก้าอี้รอง ผบ.ทหารสูงสุด น่าจะเอาไว้รองรับบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ที่ถูกส่งไปเป็นรอง เสธ.ทหาร บก.ทัพไทย หลังจากมีกระแสข่าวว่าเคลียร์ใจกับ พล.ร.อ.สมประสงค์แล้ว และล้มเลิกความคิดที่จะฟ้องศาลปกครอง จากการที่ถูกโยกย้ายจาก ผช.ผบ.ทร. มาเป็นรอง เสธ.ทหาร

พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ (ซ้าย) กับ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล (ขวา)

ดังนั้น พล.ร.อ.เชิงชายยังคงเป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ทร. ในใจ พล.ร.อ.สมประสงค์ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และเตรียมวางทายาท ตท.23 ไว้ต่อคิว ที่รอวัดใจว่า จะเลือกบิ๊กดุง พล.ร.ท.อะดุง พันธุ์เอี่ยม เจ้ากรมสื่อสารทหารเรือฯ หรือบิ๊กโอ๋ พล.ร.ท.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เจ้ากรมยุทธศึกษา ทร. เพราะโยกย้ายตุลาคมนี้ ทั้งคู่จะขึ้นมาเป็นพลเรือเอก 5 ฉลามทัพเรือ

คาดกันว่า พล.ร.ท.อะดุงจะเป็น เสธ.ทร. ส่วน พล.ร.ท.ชลธิศจะเป็น ผช.ผบ.ทร. แล้วก็ไปชิงเก้าอี้แม่ทัพเรือกันเอง เพราะถ้าใช้สูตรรอมชอม ก็ให้ พล.ร.ท.อะดุงเป็น ผบ.ทร.ก่อน 1 ปี เพราะเกษียณกันยายน 2567 ส่วน พล.ร.ท.ชลธิศเกษียณกันยายน 2568 ยกเว้นว่า ถ้าแรงก็ขึ้นนั่ง 2 ปีรวดเลย

ดังนั้น บนเส้นทางสู่อำนาจแม่ทัพเรือ ทั้ง พล.ร.ท.อะดุง และ พล.ร.ท.ชลธิศ ต้องรวมพลัง ตท.23 เบียด พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผบ.กองเรือยุทธการ จาก ตท.25 ที่จะเกษียณกันยายน 2568 ด้วยเช่นกัน ที่อาวุโสกว่า เพราะครองยศพลเรือเอกแล้ว แต่เสียเปรียบตรงที่ไม่ใช่น้องรักของ พล.ร.อ.สมประสงค์ แม้จะเป็นนายทหารเรือที่เป็นดาวเด่นมาตั้งแต่เป็นผู้บังคับการเรือหลวงจักรีนฤเบศร และ ผช.ทูตทหารเรือ ประจำวอชิงตัน ดี.ซี.แล้วก็ตาม

แต่ ตท.23 ก็ยังไม่ยกธงขาว เพราะยังมีบิ๊กแจ๊ค พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสธ.ทร. เป็นแคนดิเดต ผบ.ทร.อีกคน ที่พร้อมชิงกับ พล.ร.อ.ธีรกุล และ พล.ร.อ.เชิงชาย เพราะก็มีผลงานในฐานะ เสธ.ทร. และการแก้ปัญหาเรือดำน้ำจีนไร้เครื่องยนต์อีกด้วย

แต่จุดสนใจในกองทัพไม่ได้อยู่ที่ใครจะเป็น ผบ.ทร.คนใหม่เท่านั้น เพราะในส่วนของกองทัพอากาศ ก็ต้องมีการตั้ง ผบ.ทอ.คนใหม่ แทน พล.อ.อ.นภาเดชที่จะเกษียณ

แม้ตัวเต็ง ผบ.ทอ.คนใหม่ที่เบียดกันอยู่ตอนนี้คือ บิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ (ตท.22) รอง ผบ.ทอ. ที่มีอายุราชการถึงกันยายน 2567 และบิ๊กต้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา (ตท.22) ผบ.คปอ. ที่เกษียณกันยายน 2566 แต่เป็นน้องรักน้องเลิฟ นักบินเอฟ 16 ของ พล.อ.อ.นภาเดช

แต่ ตท.23 ก็เสียดายความสามารถ และครบเครื่องของบิ๊กหนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา ผช.ผบ.ทอ. ที่เคยเป็นตัวเต็งในยุค พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เป็น ผบ.ทอ. แต่เมื่อเกิดอำนาจเปลี่ยนขั้วในยุคบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ เป็น ผบ.ทอ. ล้างบางบิ๊กนัตใหม่ โอกาส พล.อ.อ.ชานนท์จึงน้อยลง

แต่ก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง

พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา

ที่ถูกจับจ้องมากที่สุด คือเก้าอี้ ผบ.ทบ. ที่รอวัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะกล้าเปลี่ยนหรือไม่ เพราะกระแสข่าวลือยังสะพัดอย่างต่อเนื่อง

แต่มีรายงานข่าวว่า ในการพบปะหารือ หรือรับประทานอาหารร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่เคยพูดหรือแสดงทีท่าใดๆ ที่ส่อเค้าจะเป็นไปตามกระแสข่าวเลย

เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็ทำหน้าที่ ผบ.ทบ.ได้ดีในการพัฒนา ทบ. เพียงแค่เพราะเว้นระยะห่างจากการเมือง และบุคลิกลักษณะนิ่งๆ เงียบๆ จึงทำให้ถูกมองว่า ไม่สนับสนุน ไม่ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเห็นได้ว่า ผบ.เหล่าทัพชุดนี้ก็ล้วนทิ้งระยะห่างกับฝ่ายการเมืองเช่นกัน โดยเฉพาะการงดการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง

ยิ่งหากจะต้องดัน พล.อ.เจริญชัย แกนนำ ตท.23 เป็น ผบ.ทบ. แล้วต้องขยับทั้ง พล.อ.เฉลิมพล และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ อาจจะส่งผลกระทบต่อกองทัพมากเกินไป

แม้จะเข้าใจได้ว่า ธรรมชาติของการแต่งตั้งโยกย้าย อาจมีทั้งกองเชียร์และกองแช่ง เพื่อนใครใครก็รัก จึงทำให้เกิดกระแสข่าวลือต่างๆ ออกมา

“ท้ายที่สุดอยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ที่ทุกคนพร้อมปฏิบัติตาม เพราะแต่ละคนสามารถเป็น ผบ.เหล่าทัพได้ แต่อยู่ที่ท่านจะพิจารณาว่า ในแต่ละห้วงเวลา ใครเหมาะกว่ากันในสภาวการณ์มากกว่ากัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าใครดีกว่ากัน หรือมีความบกพร่องใด” แหล่งข่าวระดับสูงระบุ

 

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีทีท่าที่จะผ่าตัดกองทัพ จัดทัพวางตัว ผบ.เหล่าทัพส่งท้ายก่อนหมดรัฐบาล และวางตัว ผบ.เหล่าทัพที่ไว้วางใจชุดใหม่ก็ตาม แต่ในกองทัพก็มีการแข่งขันกันระหว่างรุ่น

จนมีข่าวลือถึงการที่กำหนดการเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาของบิ๊กติ่ง พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.22 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ หลุดไปในโซเชียล และปลุกกระแสโจมตีการใช้งบประมาณของ ทบ. ที่สงสัยกันว่า หลุดจากใน ทบ.หรือไม่

ยิ่งการเมืองทำให้เก้าอี้นายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ร้อนในช่วงปลายรัฐบาลเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งต้องเสริมแกร่งให้ตนเอง เพราะอำนาจในมือยังมีที่ไม่เคยใช้ อาจจะได้ใช้