หน้า 8 : “ศูนย์” ที่น่ากลัว

เป็นธรรมดาของคนที่พูดเยอะ โต้ตอบด้วยอารมณ์

โอกาสพลาดย่อมสูงกว่าคนพูดน้อย คิดเยอะ

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ การตอบคำถามนักข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่อง นปช. จะเปิด “ศูนย์ปราบโกงประชามติ 7 สิงหาคม”

“ก็เปิดไปสิ ไปร่วมมือกันมา จับมาก็จับตัวเองด้วยแล้วกัน”

และตามด้วยถ้อยคำประชดประชันยาวเหยียด

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เอ่ยปากอนุญาตให้ นปช. เปิดศูนย์ปราบโกงฯ

“ช่องโหว่” นี้เอง กลายเป็นประเด็นให้ “จตุพร พรหมพันธุ์” ย้อนศร นายทหารและนายตำรวจที่พยายามจะขอความร่วมมือไม่ให้แถลงข่าวและเปิดศูนย์ปราบโกง

เพราะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูดชัดเจนว่าอนุญาตให้ตั้งศูนย์ฯ

ใครที่สวนทางแสดงว่าขัดนโยบาย

“จตุพร” เล่นแรงถึงขั้นใช้สำนวน “ถ่มน้ำลายรดฟ้า”

“ศูนย์ปราบโกง” จึงกลายเป็น “หอกแหลม” ทิ่มแทงใจ คสช.

 

“ประชามติ” เปรียบเสมือน “กรวดในรองเท้า” ของ คสช.

ยิ่งเดินยิ่งเจ็บเท้า

ยิ่งเดินยิ่งรำคาญใจ

การตั้ง “ศูนย์ปราบโกง” ของ นปช. คือการเพิ่ม “กรวด” ในรองเท้าของ คสช.

เพราะโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดของครู ก-ข-ค มีอยู่สูงมาก

ยิ่งใช้คนมาก ยิ่งคุมลำบาก

โอกาสที่เจ้าหน้าที่บางคนพลาดจึงมีอยู่สูงยิ่ง

แทนที่จะไปรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ

กลายเป็นรณรงค์ให้คนออกมารับร่างรัฐธรรมนูญ

อีกไม่นานคงได้เห็นคลิปทำนองนี้

และจะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองต่อไป


แม้ “ศูนย์” ของ นปช. จะเป็น “ข่าวใหญ่”

ดูภาพเหมือนน่ากลัว

แต่มีคนบอกว่า “ศูนย์” ที่น่ากลัวกว่า

กลับไม่ใช่ “ศูนย์ปราบโกงประชามติ”

แต่เป็น “ศูนย์เปอร์เซ็นต์” ของธนาคารทหารไทย

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0% ที่ประกาศออกมาเป็น “ใบเสร็จ” แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจไทยชัดเจนที่สุด

สภาพคล่องของแบงก์ล้น

ไม่มีคนกู้ไปในลงทุน มีแต่คนฝาก

รัฐบาลที่พยายามเล่นเกมจิตวิทยาประกาศว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว พ้นจุดต่ำสุดแล้ว

เจอดอกเบี้ย 0% เข้าไป

ถึงกับพูดไม่ออก บอกไม่ถูก