ประวัติศาสตร์เบื้องหลังสงครามของปูตินในยูเครน : ศึกนอกศึกในของปูติน (จบ)/การเมืองวัฒนธรรม เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ

การเมืองวัฒนธรรม

เกษียร เตชะพีระ

 

ประวัติศาสตร์เบื้องหลังสงครามของปูตินในยูเครน

: ศึกนอกศึกในของปูติน (จบ)

 

ข่าวกรองอเมริกันบ่งชี้ว่าบรรดาผู้ช่วยด้านการทหารและข่าวกรองของประธานาธิบดีปูตินได้ให้ข้อมูลข่าวสารผิดๆ แก่เขาเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ทำให้ทำเนียบเครมลินตึงเครียดยิ่งขึ้น (https://www.pbs.org/video/march-30-2022-pbs-newshour-full-episode-1648612803/)

ท่ามกลางแรงกดดันหนักหน่วงจากภายนอกนำโดยสหรัฐกับฝ่ายตะวันตก และการข่าวกับการวางแผนยุทธการที่ผิดพลาดของแวดวงผู้ตัดสินใจในเครมลิน สถานการณ์และฐานอำนาจของปูตินเป็นเช่นใดบ้าง?

Anatol Lieven ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียและยุโรปตะวันออกให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ในรายการวิทยุ Behind the News ของ Doug Henwood เมื่อ 3 มีนาคมศกนี้ว่า https://www.leftbusinessobserver.com/Radio.html#S220303) :

ศึกนอก

: มาตรการแซงก์ชั่นกับความไม่พอใจของชาวรัสเซีย

ดั๊ก เฮนวูด : แล้วเรื่องปฏิกิริยาของฝ่ายตะวันตกล่ะครับ? มาตรการแซงก์ชั่นมันได้ผลขนาดนั้นจริงๆ หรือ? และตอนนี้เราก็ได้ยินพวกปากมอมออกเคเบิ้ลทีวีมาพูดเรื่องโจมตีชาวรัสเซียหรือประกาศเขตห้ามบินอะไรทำนองนี้ (หมายถึงข้อเสนอของโจ มันชิน วุฒิสภาชิกอเมริกันพรรคเดโมแครตจากมลรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย https://thehill.com/homenews/sunday-talk-shows/597055-manchin-calls-for-keeping-no-fly-zone-as-one-option-to-help-ukraine/) เอาเข้าจริงฝ่ายตะวันตกทำอะไรได้มากแค่ไหนกันครับ?

อนาโตล ลีเวน : ผมไม่เห็นพวกเรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบินที่ว่านี้คนไหนจะไปขับเครื่องบินสหรัฐ หรือนาโตด้วยตัวเองสักรายนะครับ เท่าที่ดูผมไม่เห็นจะมีนักบินสักคนในหมู่พวกเขา ก็เหมือนอย่างที่ผมพูดหลาย ครั้งแล้วในไม่กี่วันหลังๆ นี้คือพวกเหยี่ยวลูกไก่ (chickenhawks) นี่มันบินไม่เป็นนะครับ มันได้แต่นั่งหมอบ กระแตอยู่กับพื้นห่างๆ ในระยะปลอดภัยแล้วร้องกระต๊ากๆ ดังลั่น ไม่ได้เรื่องหรอกครับ โดยพื้นฐานแล้ว เราก็มีแต่มาตรการแซงก์ชั่นนี่แหละ

บวกกับผมกลัวการที่เราจะไปสนับสนุนให้ยูเครนก่อการกำเริบต่อต้านรัสเซียในกรณีรัสเซียเข้ายึดครองพื้นที่ซึ่งพอจะเปิดฉากก่อการกำเริบแบบนั้นขึ้นได้น่ะครับ ซึ่งผมเผอิญคิดว่ามันเป็นความคิดที่แย่มาก เอาล่ะครับสำหรับประสิทธิผลของมาตรการแแซงก์ชั่นเหล่านี้นี่ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ฝ่ายตะวันตกกำลังพยายามทำ ก็คือทำร้ายรัสเซียให้หนักหนาสาหัสที่สุดเท่าที่ทำได้โดยไม่วกกลับมาทำร้ายตัวฝ่ายตะวันตกเองและแน่ล่ะครับว่าในกรณีนี้เราหมายเฉพาะถึงชาวยุโรปผู้ต้องพี่งพาการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย เราได้แซงก์ชั่นทุกอย่างที่เราพอทำได้แล้วนอกเหนือจากตัดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติและน้ำมันทิ้ง

นั่นย่อมหมายความว่ารัสเซียยังคงจะได้กระแสรายรับระหว่างประเทศไหลเข้าไป (อนึ่ง หลังบันทึกการสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้ว การแซงก์ชั่นก๊าซและน้ำมันจากรัสเซียกำลังทำท่าจะเกิดขึ้น) แต่ในอีกแง่หนึ่ง มาตรการแซงก์ชั่นที่กำหนดขึ้นแล้วจะกระทบรัสเซียอย่างหนัก และหนักหนาสาหัสกว่าที่รัสเซียได้คาดไว้ โดยเฉพาะการแซงก์ชั่นธนาคารกลางของรัสเซีย และอย่างน้อยก็จะนำไปสู่การโดดเดี่ยวรัสเซียจากระบบเศรษฐกิจตะวันตกทั้งหลายยกเว้นด้านพลังงาน

“จุดอ่อนอย่างหนึ่งของระบอบอัตตาธิปไตยก็คือคุณไม่มีคนในระบบเหล่านั้นที่จะบอกความจริงต่ออำนาจหรือมีความสามารถที่จะบอกความจริงต่ออำนาจได้ และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เราได้เห็นในรัสเซีย” แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศอเมริกัน, PBS NewsHour, 30 March 2022

ยิ่งกว่านั้น บรรดามาตรการที่ฝ่ายตะวันตกนำมาใช้และมาตรการตอบโต้ที่รัสเซียงัดมาใช้บ้างจะกระทบกระเทือนรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างสากลของเหล่าชนชั้นนำรัสเซียอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกชนชั้นนำรุ่นเยาว์ผู้คุ้นชินกับชีวิตแบบนั้นแล้ว นี่ย่อมไม่ส่งผลสะเทือนต่อผู้นำวงในรอบตัวปูตินเองเพราะคนเหล่านี้เป็นพรรค์นักเลงจริงและไม่ต้องสงสัยเลยว่ารักชาติอย่างลึกซึ้ง และพวกเขาปักใจเด็ดเดี่ยวเอามากๆ และแน่ล่ะครับว่าเหี้ยมเกรียมสุดๆ ด้วย

แต่กระนั้นผมก็คิดว่าเราพึงระลึกว่าในคริสต์ทศวรรษที่ 1980 เมื่อลูกหลานของชนชั้นนำโซเวียตเริ่มตระหนักว่าตัวเองอาจใช้ชีวิตได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนั้นขนาดไหนในรัสเซียที่กลายเป็นแบบตะวันตกเมื่อเทียบกับโซเวียตรัสเซียนั้น ความตระหนักดังกล่าวมีบทบาทใหญ่โตมโหฬารในการล่มจมของลัทธิคอมมิวนิสต์และการแตกสลายของสหภาพโซเวียต

ถ้าคุณเสียบตัวเองเข้าไปในแวดวงชนชั้นนำรัสเซียที่กว้างออกไปและสดับตรับฟังดูว่าพวกเขาพูดอะไรกันในที่รโหฐาน รวมทั้งสิ่งที่พวกนั้นบางคนกระทั่งเริ่มพูดต่อสาธารณะแล้วด้วยซ้ำ คุณจะเห็นว่าพวกเขาพากันวิตกกังวลจริงๆ และพวกเขาเข้าใจดีกว่าประชากรรัสเซียที่เหลือรวมแม้กระทั่งพวกที่มีการศึกษาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะกระทบพวกเขาอย่างเลวร้ายเพียงใด ถ้าหากมันดำเนินไปในระยะเวลาอันยาวนาน

ถ้าหากยูเครนกลายเป็นหล่มให้จมปลักยาวนานแล้ว ผมคิดว่า ความไม่พอใจปูตินจะเพิ่มสูงลิบลิ่วทีเดียว

ทว่าเอาเข้าจริงไม่มีใครรู้แน่หรอกครับ แต่ถ้าความไม่พอใจเพิ่มขึ้นสูงพอ สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นได้มากกว่าการปฏิวัติบนท้องถนนอย่างที่เกิดในยูเครนเมื่อปี ค.ศ.2014 หรือจอร์เจียก็คือการรัฐประหารจากภายในระบอบปูตินเองเพื่อเขี่ยเขาและเจ้าหน้าที่ระดับสุดยอดอื่นอีกบางคนทิ้งเสีย มันคงเป็นการรัฐประหารที่ค่อนข้างสุภาพ คือมีคณะตัวแทนเข้าพบปูตินแล้วนำเรียนอย่างสุภาพยิ่งว่าเราเคารพประวัติผลงานของ ฯพณฯ นะขอรับ เราขอรับประกันทรัพย์สินและความปลอดภัยส่วนบุคคลของ ฯพณฯ กับครอบครัว แต่เราเกรงว่าได้เวลาที่ ฯพณฯ จะต้องไปแล้วล่ะขอรับ

แต่ก็อย่างที่ผมพูดมาแล้วแหละครับ ผมไม่คิดว่าจะมีรัฐบาลรัสเซียชุดไหนซึ่งสืบทอดอำนาจต่อจากปูตินจะยอมจำนนง่ายๆ อย่างไม่มีเงื่อนไขในยูเครน ในความหมายที่ว่าจะยอมสละไครเมียและดอนบาส และยอมเห็นชอบให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต และยกเลิกการค้ำประกันใดๆ ให้แก่ชนส่วนน้อยชาวรัสเซียในยูเครน ผมไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีรัฐบาลรัสเซียชุดใดยอมตามอย่างนั้นเว้นเสียแต่ว่ารัฐรัสเซียจะมีอันล่มสลายลง

ตอนนี้ที่ผมกลัวมากก็คือคนมากหลายในสถาบันด้านความมั่นคงของอเมริกาต้องการใช้เรื่องนี้ทำลายรัฐรัสเซียลงไป การทำแบบนั้นย่อมสาปส่งเราเข้าสู่สงครามไม่รู้จบกับรัสเซียโดยพ่วงเอาผลพวงทุกสิ่งทุกอย่างที่มันจะนำมาต่อเศรษฐกิจโลกด้วย มันย่อมสาปส่งยูเครนให้ทำสงครามไม่รู้จบโดยประชาชนชาวยูเครนต้องรับเคราะห์กรรมอย่างสยดสยอง

ทว่านอกจากนั้นโครงการแซงก์ชั่นที่ตั้งเป้าเปิดเผยอย่างที่ชาวรัสเซียมากหลายดูออกว่าไม่เพียงแต่เพื่อกำจัดปูตินแค่นั้นแต่เพื่อทำลายรัฐรัสเซียด้วยก็อาจก่อให้เกิดผลกลับตาลปัตรตรงกันข้ามกับที่หวังไว้ทีเดียว

สำหรับเรื่องที่ว่าชาวรัสเซียสนับสนุนระบอบปูตินแค่ไหนเพียงใดนั้น เราไม่รู้หรอกครับ ที่เรารู้ก็คือมาตรการแซงก์ชั่นทำนองเดียวกันที่ตั้งเป้าให้เกิดการเปลี่ยนระบอบในคิวบาเอย อิรักเอย เวเนซุเอลาเอย อิหร่านเอย เกาหลีเหนือเอย ล้วนแต่ล้มเหลวหมด ล้มเหลวทั้งเพโดยไม่มีข้อยกเว้น และฉะนั้นทั้งหมดที่เราพอพูดได้คือก็ใช่ล่ะมันอาจส่งผลแตกต่างไปก็ได้ในกรณีรัสเซีย แต่มันไม่มีมูลทางประวัติศาสตร์ให้เชื่ออย่างนั้นเลยนะครับ

ศึกใน

: ฐานอำนาจของปูติน

ดั๊ก เฮนวูด : ใครคือฐานอำนาจของปูตินครับ ใครกันที่แวดล้อมเขาอยู่? เขามีฐานเสียงอยู่ในหมู่ชนชั้นนำไหม รึว่ามันค่อนข้างเป็นแค่กลุ่มพวกพ้องเล็กๆ เท่านั้นเอง?

อนาโตล ลีเวน : ปูตินได้รวบรวมสถาบันอำนาจกว้างขวางกว่านั้นขึ้นมาซึ่งติดค้างเขาหลายต่อหลายด้านด้วยกัน และเขาก็ได้ข่มขู่พวกคณาธิปัตย์เก่าทางการเงินและเศรษฐกิจที่เหลือรอดอยู่จนเชื่อง และได้การสนับสนุนทางสาธารณะของคนเหล่านั้น

แต่คนพวกนี้มีสันดานหยันโลก เห็นแก่ตัวและเหี้ยมเกรียมยิ่ง พวกเขาจะไม่ยืนหยัดอยู่กับปูตินหรอกถ้าคิดว่าผลประโยชน์สำคัญยิ่งของตนตกอยู่ในอันตราย หรือว่าการยืนหยัดอยู่กับปูติน หมายถึงทรัพย์สมบัติและตำแหน่งฐานะของตัวเองจะถูกทำลายลง

ส่วนพวกวงในซึ่งได้แก่ผู้คนที่ติดค้างหรือสังกัดปูตินอย่างหมดตัว กล่าวคือ มีภูมิหลังและอุดมการณ์เดียวกันนั้น เป็นกลุ่มคนเล็กนิดเดียวที่ส่วนใหญ่คือ อดีตเคจีบีหรือเชื่อมโยงในแง่ต่างๆ กับเคจีบี (KGB ย่อจาก Komitet Gosudarstvennoy Bezopasnosti หมายถึงคณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐของสหภาพโซเวียตเดิม) และพวกเขาครองตำแหน่งสุดยอดทั้งหมดในรัฐบาล อย่างน้อยก็ในด้านความมั่นคง

พวกเขายังได้รับแต่งตั้งให้ควบคุมเศรษฐกิจด้านพลังงานส่วนใหญ่ของรัสเซียและตำแหน่งอื่นๆ ด้วย ดังนั้น มันจึงมีความแตกต่างกันมากทีเดียวครับระหว่างกลุ่มวงในเล็กๆ กลุ่มนี้ซึ่งเรียกกันว่าไซโลวิกิ (siloviki) ในภาษารัสเซีย หมายถึงพวกชายชาตรีหรือนักเลงจริง กับสถาบันอำนาจที่กว้างออกไป

คำถามหนึ่งก็คือจะมีใครคนไหนในวงในนี้ไหมที่จะกล้าหันมาแข็งข้อกับปูติน ถ้าหากคนวงในจำนวนมากพอหันมาแข็งข้อกับเขา ปูตินก็เป็นอันจบเห่กัน

แต่ในทางกลับกัน เนื่องจากพวกเขาผูกพันกับปูตินสนิทแนบแน่นปานนั้น และเข้าไปเกี่ยวพันกับสงครามอย่างใกล้ชิดขนาดนั้น มันจึงยากยิ่งสำหรับพวกเขาที่จะแข็งข้อกับปูติน

แล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องกองทัพรัสเซียอีก กองทัพรัสเซียก็เหมือนกับกองทัพโซเวียตก่อนหน้านั้นแหละครับ กล่าวคือ ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย และกองทัพก็ไม่อยากพ่ายแพ้ในยูเครนด้วย

แต่ถ้าคุณติดหล่มจมปลักไม่รู้จบละก็ ถึงตอนนั้นอย่างน้อยพวกเขาก็อาจจะเริ่มกดดันให้ประนีประนอมทางการทูตจริงๆ เพื่อออกมาจากยูเครนเสีย แน่ล่ะว่านั่นหมายถึงในกรณีที่ชาวยูเครนกับฝ่ายตะวันตกพร้อมจะยื่นข้อเสนอประนีประนอมมาให้

มีเรื่องหนึ่งที่ผู้คนยังไม่ทันได้หันไปดูกันนั่นคือชาวยูเครนกำลังพยายามระดมกำลังชายในวัยทหารทั้งประเทศโดยพื้นฐาน พวกเขาจะระดมคนมาได้กี่มากน้อยขึ้นอยู่กับว่ารัสเซียยึดดินแดนไปได้กว้างไกลเท่าไร มันขึ้นอยู่กับว่าคนยูเครนมากมายแค่ไหนที่หนีไปโลกตะวันตก

แต่กระนั้นก็ตาม ถ้าหากยูเครนระดมกำลังคนทุกคนที่ระดมได้แล้ว มันจะมีจำนวนล้นเหลือเฟือฟายกว่ากองทัพรัสเซียที่อยู่ในยูเครนตอนนี้มหาศาล

คราวนี้ถ้าฝ่ายรัสเซียต้องระดมกำลังทหารกองหนุนเพื่อตอบโต้บ้างแล้ว เราก็กำลังพูดถึงบรรดาอดีตทหารกองหนุนผู้เคยรับราชการแล้วออกจากกองทัพไปและมาบัดนี้ก็มีอาชีพการงานและครอบครัวลูกเมียอยู่ ถ้าหากคุณเริ่มบอกชายชาวรัสเซียวัย 28 ปีให้ทิ้งงานดีเงินเดือนสูงและลูกเต้าของตัวแล้วกลับไปสู้รบในยูเครนอันเป็นสงครามที่เกิดขึ้นโดยไม่เคยปรึกษาหารือพวกเขาเลยและพวกเขาได้เฝ้ามองดูภาพบรรดาชาวยูเครนเชื้อสายรัสเซียรวมทั้งผู้หญิงเด็กเล็กที่พูดภาษารัสเซียถูกเข่นฆ่าอย่างชวนเสียขวัญกำลังใจยิ่งมาตลอดละก็ นั่นแหละครับคือจังหวะเวลาที่ระบอบปูตินจะอยู่ในสภาวะลำบากเดือดร้อนจริงๆ

ถ้าหากมันต้องระดมประชากรรัสเซียจำนวนมากมาสู้รบละก็ ถึงตอนนั้นก็เท่ากับว่าปูตินได้ลงนามในคำสั่งประหารตัวเองทางการเมืองเท่านั้นเอง…