เจาะรถหรูพลังไฟฟ้า-ค่ายยุโรปส่งประกวด เบนซ์ EQS-ปอร์เช่ Taycan-วอลโว่ C40 / ยานยนต์ สุดสัปดาห์ : สันติ จิรพรพนิต

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

เจาะรถหรูพลังไฟฟ้า-ค่ายยุโรปส่งประกวด

เบนซ์ EQS-ปอร์เช่ Taycan-วอลโว่ C40

 

มาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ กับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในยามนี้ของบ้านเรา เพราะมีปัจจัยบวกหลากหลายเหลือเกิน

ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่เคยสูงทะลุ 40 บาท/ลิตร (แก๊สโซฮอล์ 95)

การแพร่หลายมากขึ้นของสถานีชาร์จ แถมราคาค่าชาร์จไฟเมื่อเทียบระยะทางวิ่งเท่ากันถูกกว่าหลายเท่า

โปรโมชั่นต่างๆ แจกแถมโน่น นี่ นั่น รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนที่มีราคาค่อนข้างสูงของรถไฟฟ้านาน 8-10 ปี

ที่สำคัญไม่พ้นมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งลดภาษีสรรพสามิต ภาษีนำเข้า รวมถึงเงินช่วยเหลือให้ผู้ซื้อสูงสุดคันละ 1.5 แสนบาท

ทำให้รวมๆ แล้วราคาลดลงอย่างมาก อาทิ “เอ็มจี” ปรับราคา “ZS EV” ลดลงสูงสุดกว่า 2.46 แสนบาท

ความคึกคักของรถยนต์ไฟฟ้าเขย่าเวที “มอเตอร์โชว์” จนร้อนฉ่า เนื่องจากปีนีมีสารพัดค่ายรถส่งรุ่นเด่นๆ เข้ามาชิงตลาด ซึ่งไม่เพียงรถราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ที่ได้สิทธิเงินช่วยเหลือสูงสุด 1.5 แสนบาทเท่านั้น

บรรดาค่ายรถหรูไม่ยอมน้อยหน้า เพราะแม้ไม่ได้เงินชดเชย แต่ได้สิทธิลดภาษีนำเข้า และสรรพสามิตไปประมาณหนึ่ง

“ยานยนต์ สุดสัปดาห์” ขอนำรถยุโรป 3 รุ่นมาเป็นทางเลือก

 

เริ่มที่รุ่นล่าสุดเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ของไทย ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส” (Taycan GTS)

ออกแบบแตกต่างจากพี่น้องร่วมตระกูล ชุดแต่งตัวถัง Sports Design Package ดูดุดันจากชิ้นงานตกแต่งกันชนหน้า กันชนท้าย และสเกิร์ตข้าง รวมไปถึงโคมไฟหน้า รมดำ 3D track graphics พร้อม daytime running light แบบ LED

ครั้งแรกกับการติดตั้งหลังคากระจก panoramic roof พร้อมเทคโนโลยี “Sunshine Control” อุปกรณ์พิเศษสำหรับปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส ใหม่

แบ่งพื้นที่กระจกออกเป็น 9 ส่วน แต่ละส่วนสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างอิสระ

หลังคากระจกใหม่เพิ่มฟังก์ชั่นในการกรองแสงจากภายนอกด้วยระดับการทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย

ห้องโดยสารตกแต่งโดยสารด้วยวัสดุ Race-Tex สีดำ ชิ้นงานอะลูมิเนียมปัดเงา

ขุมพลังแรงสุดๆ 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ Launch Control

ส่วนโหมด normal ให้กำลัง 517 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งยังเป็นรุ่นแรกที่มีพิสัยทำการสูงสุดถึง 504 กิโลเมตร จากรุ่นอื่นๆ ของปอร์เช่ ทำได้ไม่เกิน 500 กิโลมตร

“ไทคานน์ จีทีเอส” เป็นรถธงอีกรุ่นของปอร์เช่ในปี 2022 หลังจากปีที่แล้วยอดขายในประเทศไทยพุ่งสูงถึง 107% หลักๆ มาจากรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอิน PHEV ที่สร้างยอดจำหน่ายรวมได้มากกว่า 85% ในประเทศไทย

นอกจากนี้ 1 ใน 4 ของรถปอร์เช่ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะเป็นรถไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่

วอลโว่ มากับ “ALL NEW C40 RECHARGE PURE ELECTRIC” ที่แม้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ด้วยรูปโฉมโฉบเฉี่ยวและการทำราคาที่น่าสนใจ กลายเป็นอีกรุ่นเด่นของงานมอเตอร์โชว์

สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม “Compact Modular Architecture” (CMA) พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์คอมแพกต์ ในสไตล์ ครอสโอเวอร์ คูเป้

ด้านหน้าคงเอกลักษณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของวอลโว่ด้วยตะแกรงแบบฝาครอบปิดสีเดียวกับตัวถัง ประดับด้วยตราสัญลักษณ์วอลโว่

ไฟหน้าทรงค้อนทอร์ มาพร้อม Pixel Technology Headlight ใช้เซ็นเซอร์กล้องหน้าควบคุมการเปิดปิดของ LED ทั้งหมด 84 ดวง ในไฟหน้าให้เป็นอิสระต่อกันเพื่อไม่รบกวนสายตาของผู้ใช้เลนตรงข้าม

นอกจากนี้ ไฟยังสามารถปรับระดับความสว่างได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของแสงภายนอก รวมถึงส่องสัญญาณไฟ Welcome Light ต้อนรับเมื่อผู้ขับแตะที่มือจับประตูรถ

ไฟท้ายแบบเส้นประที่เดินเส้นไปสู่แผงไฟหลักด้านหลังตัวรถสะท้อนการผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิคได้อย่างลงตัว

ห้องโดยสารเน้นความเรียบหรู แต่ทันสมัย แผงคอนโซลหน้าสไตล์ Topography Translucent Decor ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน

หลังคา Panoramic Glass Roof ให้ความรู้สึกโล่งสบายในห้องโดยสาร ป้องกันความร้อนภายนอกได้สูงถึง 80%

ระบบ Infotainment Built in ใช้แอพพ์จากกูเกิลอย่าง Google Maps, Google Assistant ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอพพ์อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play

หรือจะควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น Volvo Cars App บนสมาร์ตโฟน

 

อัตราเร่งสุดเร้าใจ 0-100 ในระยะเวลาเพียง 4.7 วินาที จากขุมพลัง 408 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตัน-เมตร ระยะทางการขับขี่มากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

แบตเตอรี่มีระบบรองรับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาการชาร์จจาก 0-80% เพียง 37 นาที

ระบบการขับขี่แบบ One Pedal Drive ที่ให้การเร่ง ชะลอ และเบรกด้วยแป้นเหยียบเพียงแป้นเดียว และเริ่มขับโดยไม่ต้องกดปุ่มสตาร์ต

ระบบ Advanced Driver Assist System (ADAS) ใหม่ล่าสุด ช่วยให้กล้องและเซ็นเซอร์รอบตัวรถตรวจจับวัตถุได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฟังก์ชั่นเพื่อช่วยในการขับขี่อื่นๆ อาทิ

Driver Assist with Pilot Assist ช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ

Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วแปรผันเพื่อรักษาระยะห่าง

Collision Avoidance เลี่ยงการชนและหยุดรถอัตโนมัติ

Cross Traffic Alert with Auto Brake แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ

Lane Keeping Aid แจ้งเตือนด้วยแรงสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทางเดินรถ ฯลฯ

จากราคาเปิดตัว 2,750,000 บาท แต่เมื่อได้ส่วนลดด้านภาษีทำให้ลดราคาจำหน่ายเหลือ 2,690,000 บาท

รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 3 ปี

แถมเครื่องชาร์จ Wall Box พร้อมบริการตรวจสภาพระบบไฟฟ้าและติดตั้ง

พร้อมรับค่าชาร์จไฟแรงดันสูงด้วย EA Anywhere Application มูลค่า 25,000 บาท

ปิดท้ายกับค่าย “ดาวสามแฉก” เมอร์เซเดส-เบนซ์ รถพลังไฟฟ้า “EQS 450+ AMG Premium”

ดีไซน์แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าสีดำประดับด้วยลวดลายดาวสามแฉก ไฟหน้าดีไซน์แบบ 3D Helix เชื่อมเข้าหากันด้วยเส้น Light bang ด้านบน

แนวหลังคาส่วนท้ายที่มีลักษณะคล้ายกับรถฟาสต์แบ็ก

ห้องโดยสารหรูหราสุดๆ หน้าจอ OLED ขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ และ 17.7 นิ้วอีก 1 จอ

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า eATS Electric Powertrain กำลังสูงสุด 333 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 570 นิวตัน-เมตร

เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ชุดแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนขนาด 107.8 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้งตามมาตรฐาน WLTP

ชาร์จเร็วจากระดับ 10-80% ในเวลา 31 นาที หรือหากมีธุระด่วนชาร์จเร็ว 15 นาที มีพิสัยทำการไกลถึง 300 กิโลเมตร

ราคาต้องรออีกนิดเพราะตอนนี้ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยเป็นระดับเดียวกับรถหรูของค่ายอย่าง “S-Class” น่าจะพอสมควร แต่หากดูสเป๊ก และรูปลักษณ์แล้ว

สาวกเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมควักจ่ายแน่นอน •