ปฎิกิริยาสังคมต่อความขัดแย้งระหว่าง “น้าเนค”และ”ทิดไพรวัลย์”ผ่านกระบวนการ”นินทาประเทศไทย”กำลังเป็นสันปันน้ำอันสำคัญเสมือนเป็น”เส้นแบ่ง”ในทางความคิด

คนหนึ่งเป็น”พิธีกร”ผู้มากด้วยความจัดเจน มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจบันเทิง

อีกคนหนึ่งเป็น”ทิดสึกใหม่”ละอ่อนอย่างยิ่งในวงการ

ไม่ว่าจะมองผ่านวงการของ”ฆราวาส” ไม่ว่าจะมองผ่านวงการของ “ธุรกิจบันเทิง” เสมอเป็นเพียงแขก เสมอเป็นเพียงคนแปลกที่เพิ่งเหยียบบาทก้าวเข้ามา

ลำพังการปรับตัวให้เป็น”ฆราวาส”อย่างเรียบๆร้อยๆก็ยากลำ บากอย่างยิ่งอยู่แล้ว นี่ยังบังอาจเข้าไปผาดโผนอยู่ในวงการธุรกิจบัน เทิงอันมากด้วยเขี้ยวเล็บและผลประโยชน์มหาศาล

2 คนนี้”น้าเน็ค”เขี้ยวอย่างยิ่ง “ทิดไพรวัลย์”ไร้เดียงสาอย่างยิ่ง

บางคนเปรียบว่าทิดไพรวัลย์เหมือนกับ”อาฮุย”ที่แรกเข้าสู่ยุทธ จักรก็เข้าไปอยู่ในกรงเล็บของ”ลิ่มเซียนยี้”

หากไม่ได้รับการช่วยจาก”ลี้คิมฮวง”ก็ยากยิ่งจะ”คิดตก”

 

ไม่ทราบว่า”น้าเน็ค”จะเคยอ่าน”ฤทธิ์มีดสั้น”หรือไม่ ไม่ทราบว่า”ทิดไพรวัลย์”จะเคยผ่านสำนวนแปลทั้งของ ว. ณ เมืองลุง และ น.นพรัตน์ หรือไม่

กระนั้น ในยุทธจักรนิยายกำลังภายใน”ฤทธิ์มีดสั้น”หรือ”เซียวลี้ปวยตอ มีดบินไม่พลาดเป้า”ได้รับความนิยมอย่างสูงยิ่ง

รับรู้เป็นอย่างดีในความเป็น”ทารกแห่งบู๊ลิ้ม”ของ”อาฮุย”

ประจักษ์แจ้งในความเขี้ยวอย่างชนิดลากดินของ”ลิ่มเซียนยี้”ซึ่งดำรงสถานะโฉมสะคราญอันดับหนึ่ง งดงามอย่างยิ่ง เย้ายวนอย่างยิ่ง

กระนั้น ในที่สุด”อาฮุย”ก็สามารถหลุดรอดปลอดภัยออกมาได้

นั่นก็เพราะความซื่อ ความใส ความบริสุทธิ์ของ”อาฮุย”

 

ท่าทีในทางสังคมโดยเฉพาะปฏิกิริยาอันเป็นเงาสะท้อนผ่านโลกออนไลน์สัมผัสได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น #ไพรวัลย์ ไม่ว่าจะเป็น #นินทาประเทศไทย

เหมือนกับ”น้าเน็ค”จะครองการนำ แต่ในที่สุดก็เกิดพลิกผัน

เมื่อความเป็นจริงที่เปิดงำอำพรางได้รับการคลี่คลายออกมาเป็นลำดับ ความใสซื่อของ”ทิดไพรวัลย์”กลับกลายเป็น”อาวุธ”

เสมือนกับเป็น”หอกสนองคืน”ไปยังยอดอกของ”น้าเน็ค”