ครัวอยู่ที่ใจ l ทางรอดอยู่ในครัว : เทวดาต้องรักฉัน / อุรุดา โควินท์

 

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: เทวดาต้องรักฉัน

 

ในที่สุดเราก็ได้กินข้าวใหม่จากสุรินทร์ คนขายบอกว่าเป็นข้าวเทวดาเลี้ยง ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยา เม็ดข้าวไม่ค่อยงาม คงเพราะเทวดาไม่มีเวลาลงมาดูนาทุกวัน แต่ข้าวอร่อยมาก

มากแบบที่ ถ้าหิว ฉันเดินไปตักข้าวราดน้ำปลากิน-ก็ยังอร่อย

ข้าวใหม่คือของขวัญจากฤดูกาล เป็นของขวัญที่จะอยู่กับเราอย่างมากก็สามเดือน ข้าวใหม่ที่แท้ต้องหอม มียางข้าว มีความหนึบ ได้กลิ่นข้าวทันทีที่เปิดถุง และเมื่อซาวข้าว น้ำข้าวจะขุ่น

อันที่จริง แค่เดือนหน้า ข้าวก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เดือนนี้ฉันจึงกินข้าวเกือบทุกมื้อ ไม่ค่อยนึกถึงอาหารเส้น หรือขนมปัง แถมฉันยังขี้เหนียวข้าวมาก เหลือติดหม้อสองสามช้อนก็เก็บใส่ถุง

ข้าวหุงติดก้นหม้อ ฉันเอามาทำข้าวต้ม กินกับไข่เจียว หรือเต้าหู้ยี้ และถ้าข้าวต้มเหลือ ฉันก็เก็บข้าวต้มไว้อีก

ฉันไม่ทิ้งข้าวเด็ดขาด เทวดาต้องรักฉัน เพราะฉันกินข้าวของเขาทุกเม็ด

 

“เรากินข้าวต้มมาสองวันล่ะ กินอีกจะเบื่อมั้ย” ฉันถาม (เบื่อ ไม่เบื่อ ก็จะทำล่ะ)

“ได้น่ะ ไม่เบื่อหรอก” เขาว่า

วันก่อนเรากินข้าวต้มกุ้ง เมื่อวาน เรากินข้าวต้มกับต้มเกี๋ยมฉ่ายเต้าหู้ยี้และไข่เจียว ฉันเผลอใส่ข้าวลงหม้อเยอะไปหน่อย ข้าวต้มก็เลยเหลือ

“อุ่นข้าวต้มซ้ำ ข้าวจะเนียนนุ่ม มียางขึ้นอีก” ฉันบอกเขา

เขาพยักหน้า ยิ้ม ดูตาแล้ว อ่านได้ว่า ได้หมดล่ะ ทำมาเถอะ หิวแล้ว

ฉันมักเตรียมมื้อเช้า ตอนที่เขาพาหมาไปเดินออกกำลังกาย เขากลับมาไม่เกินสิบนาทีก็ตั้งโต๊ะได้ แต่วันนี้ ฉันมัวลังเล ยังไม่ได้ตัดสินใจ จึงสายไปสักหน่อย

ฉันรีบเข้าครัว หยิบข้าวต้มจากตู้เย็นออกมาอุ่น

อ่ะ มีซุปกระดูกที่เหลือจากทำข้าวต้มกุ้งวันก่อนด้วย

นั่นทำให้ฉันคิดว่า จริงๆ แล้ว เราทำโจ๊กได้ เพราะข้าวต้มน่ะ ถ้าอุ่นอีกทีก็เกือบจะเป็นโจ๊ก แค่ใส่ซุปนี้ลงไป ปรุงอีกนิดหน่อย

วันก่อน ฉันเห็นเพื่อนใน FB ทำข้าวต้มหมูแบบใช้หมูรวนปรุงรส ดูน่ากินมาก ทำบ้างดีกว่า แต่จะใช้ซุปกระดูกที่มีอยู่ด้วย

 

เทซุปกระดูกปนกับข้าวต้ม ตั้งไฟอ่อน อุ่นให้ร้อน

ระหว่างนั้น ฉันซอยขิงไว้ ต้นหอมไม่มี ใช้ขึ้นฉ่ายซอยอย่างเดียวได้

อืม เราควรกินไข่สักหน่อย เพิ่มโปรตีน ฉันตั้งน้ำร้อนอีกเตา สำหรับลวกไข่

ไข่ลวกของฉันเกือบๆ จะเป็นไข่ออนเซน เมื่อน้ำเดือดแล้ว ฉันปิดเตา ค่อยๆ หย่อนไข่ลงในน้ำร้อน แช่ไว้ 6-7 นาที โดยแน่ใจว่าน้ำท่วมไข่

ด้วยวิธีนี้ ถ้าไข่ไม่ถูกแช่เย็นมาก่อน เราจะได้ไข่ลวกที่ไม่คาว ใครๆ ก็กินได้ เพราะไข่ขาวสุกทั้งหมด แต่ยังนิ่มอยู่ และถ้าโชคดีได้ไข่สด ไข่ลวกจะงามขึ้นอีก

เอาล่ะ 6 นาทีนี้ ฉันจัดการปรุงหมู ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด เปิดกระทะ ใส่น้ำมันน้อยๆ เอาสามเกลอลงไปผัดให้หอม แล้วเทหมูสับลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอย ผัดต่อให้หมูสุก

ข้าวต้มร้อนแล้ว ซุปกระดูกทำให้ข้าวต้มมีเนื้อหนัง มีรสชาติ

ฉันไม่ปรุงรสข้าวเพิ่ม

แค่ตักข้าวใส่ถ้วย ตักหมูจากกระทะวางด้านบน โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย และขิงซอย

สุดท้าย ตอกไข่ลวกลงไปหนึ่งฟอง

รีบยกใส่ถาด รีบเสิร์ฟ เพราะข้าวต้มต้องกินตอนร้อน

 

“มาแล้ว” วางข้าวต้มบนโต๊ะ เหยาะพริกไทยในถ้วยของเขาแบบพิเศษ เขาชอบพริกไทยมาก มากชนิดเหลือเชื่อเลยล่ะ

“ดูดีนะ เหมือนโจ๊ก แล้วก็เหมือนข้าวต้ม”

“พูว่าต้องอร่อย แต่พูยังไม่ได้ชิม” หัวเราะ “ถ้าจืด เราจะไม่เติมน้ำปลานะ จืดคือตักหมูเพิ่ม”

เราสองคนคลุกข้าวต้มให้เข้ากับหมู ตักคำแรกเกือบพร้อมกัน เราไม่ได้พูดกันเลย กระทั่งหมดถ้วย

ขณะกินถ้วยที่สอง เขาถาม “ถ้าเราไม่ใช้ข้าวต้มที่เละเกือบเป็นโจ๊กมันจะอร่อยแบบนี้มั้ย”

“ไม่” ฉันตอบทันที

มันอร่อยเพราะข้าวเนียนนุ่ม และหนาแน่น อร่อยเพราะมีรสและกลิ่นของซุปในข้าว มันชื่นใจเพราะมีขิง และมันมีรสชาติขึ้นเพราะหมูที่เราปรุง

“หอมกระเทียมเจียว แบบไม่ต้องใส่กระเทียมเจียวเลย” เขาบอก

เพราะกระเทียมอยู่ในหมูแล้ว มีกลิ่นรากผักชี กับพริกไทยด้วย ซึ่งทำให้แตกต่างจากข้าวต้มทั่วไป และแตกต่างจากโจ๊ก

ฉันสะกิดแขนเขา “ชมหน่อยสิ ถ้าชม อาทิตย์หน้าจะทำอีก”

เขาหัวเราะ

“ทำไม่ง่ายนะ ต้องมีข้าวต้มเหลือก่อนเลยล่ะ ไม่งั้นทำไม่ได้”

“อร่อยมาก อร่อยจริงๆ อร่อยที่สุด” เขาพูด แล้วเดินไปตักถ้วยที่สาม