นงนุช สิงหเดชะ/ปัญหา (ตม.) ที่สนามบินดอนเมือง

บทความพิเศษ/นงนุช สิงหเดชะ

ปัญหา (ตม.) ที่สนามบินดอนเมือง

คล้อยหลังจากที่ผู้บริหารบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เพิ่งประกาศข่าวดีว่าสนามบินดอนเมืองได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ www.flightstats.com ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เก็บข้อมูลเที่ยวบินแบบ Real Time ทั่วโลก ได้จัดอันดับให้สนามบินดอนเมือง มีเที่ยวบินขาออกตรงเวลาที่สุดเป็นอันดับ 4 ในเอเชียแปซิฟิก ได้เพียง 1 วัน

ก็ปรากฏว่าเกิดข่าวด้านลบกับสนามบินดอนเมืองอันเนื่องมาจากความล่าช้าของพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศขาเข้าดึกวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ต้องใช้เวลานาน 4 ชั่วโมงกว่าจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้

ชาวต่างชาติบางคนรอนานถึงขนาดเป็นลมไปก็มี

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ชี้แจงว่า สาเหตุที่ล่าช้าเป็นเพราะวันนั้นมีเที่ยวบินมาลงพร้อมกันจำนวนมากและยังมีเที่ยวบินดีเลย์สะสมเข้ามาอีกทำให้มีปริมาณผู้โดยสารขาเข้ามากกว่าปกติ

พร้อมกับอ้างว่าอยู่ระหว่างปรับปรุงขยายพื้นที่ให้บริการด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งคาดว่าจะเสร็จเดือนกันยายนนี้

แต่ถ้าหากไปฟังการชี้แจงของผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ก็บอกว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะ ทอท. (ซึ่งรับผิดชอบการบริหารสนามบินดอนเมือง) ไม่ได้แจ้งว่าจะมีเที่ยวบินดีเลย์เข้ามาในช่วงดึก ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารเข้ามาพร้อมกันมากเกือบ 5,000 คน ขณะที่ในสภาวะปกติเจ้าหน้าที่ ตม. มีจำนวนเพียงพอที่จะรองรับอยู่แล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะสรุปได้ว่า เกิดจากการไม่ประสานงานระหว่างระหว่าง ทอท. และ สตม. โดยเฉพาะ ทอท. ซึ่งเป็นฝ่ายที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินเข้าออก น่าจะเป็นฝ่ายทำงานเชิงรุกเตรียมรับมือแต่เนิ่นๆ หรือไม่ เพราะ ทอท. น่าจะทราบล่วงหน้านานพอสมควรว่าจะมีเที่ยวบินใดดีเลย์บ้าง เพราะการดีเลย์เกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในฤดูมรสุมเช่นนี้ ทอท. ก็น่าจะคาดหมายได้ว่าจะมีเที่ยวบินจากต้นทางใดดีเลย์

เมื่อทราบจำนวนเที่ยวบินที่จะเข้ามาแต่ละช่วงแล้ว ทอท. ได้ประสานกับ ตม. หรือไม่ หากประสานแล้ว ตม. ตอบสนองอย่างไร

หากฟังจากข้อร้องเรียนของผู้โดยสารขาเข้าในวันนั้น พบว่าผู้โดยสารถูกปล่อยให้แออัดกันอยู่เหมือนปลากระป๋องเป็นเวลานาน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกหรือบริหารจัดการใดๆ เลย ทุกคนถูกปล่อยไว้ตามยถากรรม

หากใครเคยใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศขาเข้าของสนามบินดอนเมือง ก็จะเห็นด้วยว่าข้อร้องเรียนเรื่องการบริหารจัดการที่แย่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้นเป็นเรื่องจริง

เพราะตลอดเวลานั้นจะไม่มีเจ้าหน้าที่ชุดพิเศษหรืออาจเรียกว่าผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ ตม. มาดูแลบริหารจัดการผู้โดยสารเลย

ต่างจากสนามบินของประเทศอื่นๆ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากอย่างสนามบินนาริตะของญี่ปุ่นหรืออินชอนของเกาหลีใต้ โดยที่นี่การบริหารจัดการผู้โดยสารมีประสิทธิภาพ เมื่อนักท่องเที่ยวไปถึงหน้าด่านและเข้าแถวรอ จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกนักท่องเที่ยวว่าควรไปช่องไหน

หากช่องไหนแถวยาวมากแล้ว เจ้าหน้าที่จะตัดแถวด้วยการเปิดเลนเพิ่ม เพื่อไม่ให้เกิดสภาพงูกินหางจนการจราจรติดขัด

ที่นาริตะนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งมาเดินตรวจเอกสารว่าผู้โดยสารเตรียมไว้ครบหรือยัง เพื่อป้องกันปัญหาก่อนที่ผู้โดยสารจะไปถึงเคาน์เตอร์ ตม. ถัดจากนั้นก็เป็นชุดเจ้าหน้าที่สำหรับสแกนนิ้วล่วงหน้า (ไม่ต้องเสียเวลาสแกนนิ้วที่เคาน์เตอร์ ตม.)

ส่วนที่สนามบินอินชอน แม้คนจะเนืองแน่นเป็นปลากระป๋องจนน่าตกใจ แต่เอาเข้าจริงก็ใช้เวลาไม่นานอย่างที่ตกใจแต่แรก กลับเร็วกว่าที่คาดด้วยซ้ำ

นี่ก็คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อินชอนติดอันดับสนามบินยอดเยี่ยมตลอดกาล

ตัดกลับมาที่สนามบินดอนเมือง เท่าที่พบมีช่องสำหรับพาสปอร์ตไทย ซึ่งจะอยู่ด้านซ้ายสุดเพียงช่องเดียวซึ่งเป็นมุมอับมีเสาบัง (ตามที่เคยประสบในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา-แต่ตามข้อมูลล่าสุด ผอ.สนามบินดอนเมืองบอกว่ามีช่องอัตโนมัติ 4 ช่อง) ที่เหลือเป็นช่องสำหรับพาสปอร์ตต่างชาติ ปัญหาจะเกิดขึ้นทันทีถ้าหางแถวของต่างชาติยาวมากจนมาขวางทางเดินสำหรับผู้โดยสารไทยที่จะเข้าไปยังช่องซ้ายสุด

ถ้าใครไม่ได้เดินทางบ่อยก็จะไม่ทราบว่าช่องพาสปอร์ตไทยอยู่ตรงไหน โดยเฉพาะช่วงที่ผู้โดยสารแน่นไปหมด เนื่องจากป้ายบอกทางก็มีน้อยไม่ค่อยชัดเจน ต้องเล็งอยู่นานจึงจะเห็น ระหว่างที่มองหานี่แหละการจราจรจะติดขัดเพราะบางคนก็ไปซ้ายทีขวาที ขวางกันไปมา

เนื่องจากพาสปอร์ตไทยมีอยู่ช่องเดียว แต่บางวัน บางช่วงเวลา มีผู้โดยสารคนไทยเข้ามาเยอะมาก ขณะที่ต่างชาติมีน้อย ช่องสำหรับชาวต่างชาติค่อนข้างว่าง แต่ช่องสำหรับคนไทยก็ยังคงมีช่องเดียว ทำให้เสียเวลานานโดยไม่จำเป็น

ทั้งที่น่าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเพิ่มช่องพาสปอร์ตไทยไปก่อน หรืออย่างน้อยก็ควรมีเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าให้ไปช่องของต่างชาติได้

ปัญหานี้จะบรรเทาลงถ้ามีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่ต้นทาง คอยสอดส่องว่าช่องไหนแถวยาวแล้ว รอนานแล้ว ก็ควรจะได้รับการแก้ปัญหาในแต่ละสถานการณ์ไป แต่สังเกตมานานแล้ว ดอนเมืองยังไม่สามารถปรับปรุงจุดนี้

จะดีกว่าไหมหากจะจัดให้เจ้าหน้าที่มาคอยดูแลส่วนนี้แล้วทำหน้าที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ตม. ประจำเคาน์เตอร์ เช่นว่า ตอนนี้ควรเปิดช่องพาสปอร์ตไทยเพิ่ม หรือเปิดช่องพาสปอร์ตต่างชาติเพิ่ม

ดังนั้น ควรไปพิจารณาว่าหน่วยงานใดควรจัดชุดเจ้าหน้าที่มาดูแลผู้โดยสารขาเข้าบริเวณหน้าด่าน ตม. เพราะถ้าถาม ตม. ก็จะบอกว่าเจ้าหน้าที่ขาดแคลนเนื่องจากถูกลดกำลังคนและแต่ละคนทำงานหนักมากจนแทบไม่ได้พักผ่อนอยู่แล้ว

ไม่แน่ใจว่าผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทอท. และ ตม. เคยเดินทางไปดูงานสนามบินต่างประเทศบ้างหรือไม่ เพื่อที่อย่างน้อยจะได้นำมาปรับปรุงของตัวเอง โดยเฉพาะในยามที่เรากำลังเน้นสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและเห็นอยู่ว่าจำนวนต่างชาติเข้ามามากขึ้นทุกปี

ถ้ายังนึกภาพไม่ออกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเขาทำกันยังไง แค่ลองไปเดินห้างสรรพสินค้าแล้วสังเกตการบริหารจัดการบริเวณเคาน์เตอร์จ่ายเงิน

หากช่วงไหนคนน้อยเขาจะปิดเคาน์เตอร์บางส่วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีเวลาไปทำอย่างอื่น แต่เมื่อใดก็ตามที่จำนวนลูกค้ารอจ่ายเงินค่อนข้างมากจนแถวยาวแล้ว พวกเขาจะสังเกตเห็นและเปิดเคาน์เตอร์เพิ่มทันทีแล้วเรียกร้องเชิญชวนว่าจ่ายทางนี้ได้ค่ะ

นี่คือการรู้จักใช้กึ๋นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

แต่ที่หน้าด่าน ตม. ของสนามบินดอนเมือง ไม่เห็นการบริหารจัดการแบบที่ห้างทำได้ จึงสมควรจะรีบปฏิรูปโดยไว

ที่จริงสภาวะแบบนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ว่าจะในรัฐบาลเลือกตั้งหรือรัฐบาลทหาร

การที่ผู้ร้องเรียนไปโยงว่าเพราะปัจจุบันรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ ตม. ทำงานแบบเผด็จการ อำนาจนิยม จึงไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้องและเป็นการลดทอนน้ำหนักการร้องเรียน เนื่องจากสาธารณชนก็จะคิดว่าใส่อารมณ์การเมืองเป็นพิเศษเพราะไม่ชอบรัฐบาล

เสร็จแล้วคนก็จะคิดกลับกันว่าถ้าเกิดปัญหาแบบเดียวกันนี้ในรัฐบาลเลือกตั้ง เสียงร้องเรียนจะดุเดือดขนาดนี้หรือไม่

และจะตำหนิไหมว่าเป็นถึงรัฐบาลเลือกตั้งทำไมทำงานแย่อย่างนี้