ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

เจาะลึก 2 ล้อบีเอ็มฯ ‘R 18’ สไตล์ทัวร์ริ่ง

กับ ‘ฮอนด้า CB500X’ แอดเวนเจอร์

 

“ยานยนต์ สุดสัปดาห์” ฉบับนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากรถ 4 ล้อ มาเป็น 2 ล้อกันบ้าง

กับ 2 คู่หูทัวเรอร์สองสไตล์ “บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental” และ “R 18 B”

เป็นจักรยานยนต์พรีเมียมที่เน้นเดินทางระยะไกล ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยเต็มพิกัด

R 18 Transcontinental เน้นความเป็นมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งหรูหรา มีกล่องสัมภาระท้ายรถ (top case)

ขณะที่ R 18 B เป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์แบ็กเกอร์เต็มตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทั้งเรียบง่ายและปราดเปรียว พร้อมด้วยกระเป๋าสัมภาระข้างรถที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับฝาครอบไฟหน้ารถ

ไฟหน้าขนาดใหญ่ พร้อมระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการขับขี่

มาตรวัดแบบอะนาล็อก หน้าปัดทรงกลม 4 ช่อง และจอสีแสดงผลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พิมพ์ตัวอักษร “BERLIN BUILT” เสริมความคลาสสิคให้บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B

จอสีแสดงผลแบบ TFT อ่านง่ายและสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่าน BMW Connected App

แชสซีเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น พร้อมแกนหลักชิ้นส่วนขึ้นรูปจากแผ่นเหล็ก สะวิงอาร์มหลังยังยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม

ระบบช่วงล่างแบบเทเลสโคปิก และระบบสะวิงอาร์มที่ติดตั้งโดยตรงบนคานรับน้ำหนักแบบยื่น สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้

คานรับน้ำหนักด้านหลังสามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้และมีระบบชดเชยโหลดอัตโนมัติ

แกนโช้กหน้าแบบเทเลสโคปิกของ R 18 ทั้งสองรุ่นก็มาพร้อมกับปลอกหุ้มโช้ก นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และระบบเบรกเอบีเอส

รุ่น R 18 Transcontinental ติดตั้งเบาะนั่งนุ่มสบายพร้อมระบบอุ่นเบาะที่นั่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความสบายในการขับขี่ทางไกลแม้มีคนนั่งซ้อนท้าย

ส่วนเบาะที่นั่งในรุ่น R 18 B เป็นเบาะที่นั่งสำหรับสองคนที่มีขนาดเล็กลง

R 18 Transcontinental มาพร้อมบันไดข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น R 18 B มากับที่พักเท้าที่กว้างขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่ารุ่นเก่า

ส่วนความบันเทิงได้ผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษ “Marshall” และลำโพงแบบ two-way (แยกซับวูฟเฟอร์) ติดตั้งบนหน้าปัดของฝาครอบไฟหน้ารถ พร้อมด้วยหน้ากากลำโพงสีดำที่แต่งด้วยตัวอักษร Marshall สีขาว

R 18 B มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 1 ลำโพง 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว

ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ติดตั้งระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 2 ลำโพง 4 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว กำลัง 280 วัตต์

 

ขุมกำลังของทั้ง 2 รุ่นเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ หรือบิ๊กบ็อกเซอร์ ที่มีสมรรถนะสูงสุดในรถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาดทั่วไป

ความจุ 1802 ซีซี กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที

มาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐาน 3 โหมด Rain, Roll และ Rock มีระบบเกียร์ถอยหลัง ช่วยกลับรถง่ายขึ้น

ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานอย่างครบครัน อาทิ ระบบควบคุมการขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์ DCC (Dynamic Cruise Control) และระบบควบคุมการขับขี่แบบ Active Cruise Control (ACC)

โดยระบบ DCC จะควบคุมระดับความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง

ส่วนระบบ ACC ช่วยให้ขับขี่สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมระยะห่างจากคันหน้า โดยระบบตรวจจับด้วยเรดาร์ที่ติดตั้งบนฝาครอบไฟหน้ารถ กำหนดให้มอเตอร์ไซค์เร่งความเร็วเพื่อปรับระดับความเร็วได้โดยอัตโนมัติ หรือเปิดใช้งานระบบเบรกมาตรฐานใหม่เพื่อลดความเร็ว

ระบบ ACC ยังช่วยเสริมความปลอดภัยในการเข้าโค้ง ควบคุมความเร็วเข้าโค้ง ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับมุมเอียงของถนน

อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ที่จะช่วยให้การออกตัวขึ้นเขาง่ายขึ้น

นอกจากนี้ มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่น ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันการโจรกรรมและระบบเซ็นทรัลล็อกมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ราคา 1,640,000 บาท

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B ราคา 1,500,000 บาท

ปิดท้ายกับสองล้อจอมลุยจากค่ายญี่ปุ่น ฮอนด้า “New CB500X” หนึ่งในซีรีส์ “500” อันประกอบด้วย CBR500R, CB500F และ CB500X

แต่เพื่อให้เข้ากับภาพรวมของเนื้อหาจึงเจาะลึกเฉพาะ “CB500X” แอดเวนเจอร์ไบก์

ระบบส่องสว่างของไฟหน้าแบบ Full LED ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพความสว่างได้มากขึ้นถึง 25% ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในเวลากลางคืนดียิ่งขึ้น

ติดตั้งโช้กอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ 41 ม.ม. แบรนด์ SHOWA ดิสก์เบรกหน้าคู่พร้อมคาลิปเปอร์แบบ Twin Piston 2 Pots ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ให้ประสิทธิภาพการเบรกเหมือนบิ๊กไบก์ระดับท็อป

คำนวณตำแหน่งท่านั่งออกแบบมาอย่างเหมาะสม การวางองศาของแฮนด์ยกสูงและมีความกว้างกำลังพอดี ทำให้ควบคุมรถได้ง่าย ขับขี่สบาย

ออกแบบความสูงของตัวรถจากพื้นดิน สูงถึง 181 มม. รวมกับการใช้ล้อแม็กหน้าดีไซน์ใหม่ ขนาดใหญ่ 19 นิ้ว และมีน้ำหนักเบา เช่นเดียวกับสะวิงอาร์มที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีน้ำหนักที่เบากว่าเดิม ลุยทั้งแบบออนโรดและออฟโรดได้อย่างเต็มที่

ขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบ แบบ Parallel Twin DOHC ขนาด 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด เสริมด้วยระบบ Assist Slipper Clutch เพิ่มความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์

ฮอนด้า “New CB500X” ราคา 224,900 บาท