เผยแพร่ |
---|
ปรากฏการณ์เงินบริจาคผ่านเส้นทางการเสียภาษีเงินได้ไปยังพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนสูงถึง 12.6 ล้านบาทกำลังก่อผลสะเทือนอย่างสูงในทางการเมือง
ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิด”ปฏิกิริยา”กระทบกระทั่งกันขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์
หากแต่ยังก่อให้เกิดภาวะตระหนกตกประหม่ากระทั่งตัวสั่นงันงกขึ้นภายในกลุ่ม”กองเชียร์” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เพราะพวกเขาเคยคิดว่าเมื่อมีปฏิบัติการรุกไล่กระทั่งนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ได้อย่างเบ็ดเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทุกอย่างก็น่าจะราบรื่น
แม้จะเห็นการเคลื่อนไหวของ”คณะก้าวหนน้า”ผ่านการเลือกตั้ง นายกอบจ. ผ่านการเลือกตั้งระดับเทศบาล ก็แทบไม่ได้มีผลสะเทือน
ขณะที่กล่าวสำหรับพรรคก้าวไกล การแตกแยกและเกิด”งูเห่า” รวมถึงการนำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่น่าจะมีอะไรน่าตระหนกเหมือนกับในยุคของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้
กระนั้น ที่พวกเขาหลงลืมไปโดยเจตนาก็คือ ผลสะเทือนจากชื่อเสียง และเกียรติภูมิของพรรคอนาคตใหม่มิได้จบสิ้นเพียงเพราะการยุบ ตรงกันข้าม กลับต่อยอดไปยังพรรคก้าวไกล
ปรากฏการณ์”งูเห่า”แทนที่จะเป็นการทำลาย กลับกลายเป็นการแยกและขับเน้นความเป็นพรรคก้าวไกลอย่างเด่นชัด
จุดเด่นเป็นอย่างมากก็คือ จุดเด่นที่แสดงออกผ่านบทบาทในเวทีรัฐสภาที่มีการนำเสนอ”วิธีวิทยา”ทางการเมืองอย่างเป็นระบบสร้างวความแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นอย่างสิ้นเชิง
ยิ่งกว่านั้น จุดที่ยิ่งวันยิ่งสร้างความโดดเด่นเป็นความหวังของ พรรคก้าวไกลคือตัวตนที่เด่นชัด แตกต่างจากพรรคการเมือง”เดิม”
จึงไม่แปลกที่จะได้รับเงินบริจาคมากถึง 12.6 ล้านผ่านภาษี
ความหมายของผลสะเทือนนี้มิได้อยู่ที่ตัวเลข 12.6 ล้านบาทซึ่งเหนือ กว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคกล้า พรรคพลังประชารัฐ หากแต่อยู่ที่จุดแห่งความมุ่งมั่นของประชาชน
เชื่อได้เลยว่ายิ่งวันจำนวนเงินบริจาคก็จะยิ่งเพิ่มทวี
เป็นการเพิ่มทวีท่ามกลางความต่อเนื่องและพัฒนาของพรรคก้าวไกลอันต่อยอดมาจากพรรคอนาคตใหม่อย่างมีพลัง
กระทั่งก่อให้เกิด”กัมมันตะ”ใหม่ในทางการเมืองขึ้นมา