เปิดหู | Olin MattiBlue : Sober เพลงเมาๆ เซอร์ๆ จากศิลปิน X นักจิตวิทยา

อัษฎา อาทรไผท

เมื่อได้ฟังเพลงผ่านการเวลามาได้กว่า 4 ทศวรรษ นานๆ ทีจะมีเพลงเมาๆ ออกมาให้ฟังกันเป็นพักๆ ในมวลหมู่เพลงเมาๆ ทั้งหลาย ถ้าผมเปิดลิ้นชักสมองของผมออกมาดู ถ้าย้อนลึกหน่อยก็จะเจอเพลงลุงขี้เมาของคาราบาว ใกล้มาหน่อยน่าจะเป็นเพลง “ดื่ม”ของโจอี้บอย “รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป” ของ Groove Riders และ “ดื่ม” ของ อพาร์ทเมนต์คุณป้า  ส่วนในยุคใหม่นี้ก็เป็นเพลง “ร้อยแก้ว” ของว่าน ธนกฤต กับเพลง “หมดแก้ว” ของ The Parkinson

แต่ละศิลปินนำเสนอความเมาในเรื่องราวและเหตุผลต่างๆ กันไป เพลงเมาแต่ละเพลง บางทีดื่มเพราะอกหัก บางทีแค่ให้ลืม บางทีฉลอง บางทีเบื่อการเมือง ทั้งหมดทั้งสิ้นมีจุดหมายเพื่อให้เมา และลืมเรื่องที่ไม่อยากจำให้สิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติกันมาช้านาน

เพลงที่ผมอ้างอิงถึงทั้งหมดและอีกหลายๆ เพลงจากศิลปินไทยที่ทำเพลงเมาออกมา เล่าเรื่องราวผ่านเนื้อร้องเคล้าเสียงดนตรีออกมาด้วยภาษาไทย แต่การเมาครั้งล่าสุดนี้ Olin MatiBlue แม้พวกเขาจะเป็นไทยแท้ แต่เขาเมามาเป็นภาษาอังกฤษเลย ซึ่งผมไม่ฟันธงว่าเป็นเพลงเมาของคนไทยที่ทำเป็นภาษาสากลรายแรกไหม แต่สำหรับหูผมนี่คือรายแรก แถมแนวดนตรีก็มีความสดใหม่ตามยุคสมัยมากๆ

เพลง Sober เนื้อหารวมๆ เล่าถึงการร่ำสุราให้เมา ปล่อยจิตใจล่องลอยไปตามเมรัย เพื่อที่จะไม่ต้องนึกถึงเธอคนนั้น จะได้ปล่อยเธอไป สำหรับเพลงนี้ Olin MattiBlue บอกเลยว่าพวกเขาเขียนด้วยหลักการเดียวกับทุกๆ เพลง นั่นคือใช้หลักจิตวิทยามาดำเนินเรื่องราวของเพลง มีการนำเหตุการณ์ ความรู้สึกคน และการกระทำ ถักทอออกมาเป็นเพลงที่ไม่ได้บอกแค่ว่าเจออะไรมาแล้วเป็นอย่างไร แต่ลงถึงรายละเอียดว่าไปโดนอะไรมา รู้สึกอย่างไร บรรยากาศเป็นอย่างไร กระทำอะไร เพื่อให้เกิดอะไร แล้วมันผลลัพธ์เป็นเช่นไร ด้วยเนื้อเพลงสั้นๆ แต่ลงละเอียดถึงก้นบึ้งจิตใจคน

ส่วนภาคดนตรี แม้ปกติผมจะชอบฟังเพลงที่มีเครื่องเป่าด้วย แต่สำหรับศิลปินรายนี้ไม่ต้องเป่าผมก็ชอบ เพราะพวกเขามีลายเซนต์ทางดนตรีชัดเจน ดนตรีมีความฟุ้ง ความหลอนนิดๆ นำเสนอด้วยเครื่องดนตรีสามชิ้น กีตาร์ลอยๆ ไม่ซับซ้อนแต่เท่ห์และนัวร์ เบสกระดุกกระดิกกระตุกต่อมขยับ และกลองชัดถ้อยชัดคำแต่นิ่มนวลน่าฟัง กับเสียงร้องเซอร์ๆ คลุกเคล้าออกมาเป็นอาหารหูอร่อยเหาะ และไม่ได้อร่อยกันแค่ในประเทศ ผมว่าอร่อยแบบอินเตอร์ ที่หากชาวต่างชาติมาได้ฟัง ก็จะฟังเข้าใจ และจิตใจล่องลอยไปกับเพลงของพวกเขา ผมเห็นว่าการที่วงสมัยใหม่ทำเพลงออกมาเป็นภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่ดีงามมากๆ เพราะมันทำให้เพลงเดินทางข้ามพรมแดนไปได้สุดขอบโลก แต่ก็ไม่ใช่ทุกศิลปินจะทำได้แบบนี้

สำหรับวง Olin MattyBlue นี้ ไม่ใช่ชื่อบุคคล แต่เป็นการนำชื่อสัตว์เลี้ยงของสมาชิกในวงทั้ง 3 คน มารวมกันเป็นชื่อวง ที่น่าสนใจคือนี่คือวงของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพราะพวกเขาเพิ่งอายุราว 20 ปี จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยกันหมาดๆ โดยคนหนึ่งจบทางด้านจิตวิทยามาเลย ซึ่งเขาคนนี้เป็นผู้เขียนเพลงต่างๆ ออกมา และร้องด้วย อีกสองคนมีดีกรีทางด้านดนตรี การันตีว่าเพลงของพวกเขาปรุงออกมาจากมันสมองสองสาขาวิชา ที่ผสานพลังเข้ากันดีอย่างกับซุปต้มกระดูกอันเข้มข้นแสนอร่อย

หากคุณอยากทำความรู้จักกับ Olin MattyBlue ตอนนี้พวกเขาปล่อยซิงเกิลออกมาได้ 5 เพลงแล้ว มีหลายรสชาดแต่คงกลิ่นของวงได้อย่างชัดเจน โดยขอเล่าพอสังเขปให้ได้กลิ่นเพลงจางๆ ว่า

Laika เพลงที่ชื่อเดียวกับหมาตัวแรกที่ขึ้นไปสู่อวกาศแบบไม่ได้อยากไป พร้อมดนตรีชวนให้นึกถึงความรู้สึกของเจ้าหมาตอนทะลุชั้นบรรยากาศออกไป เปรียบเปรยกับใครที่รู้สึกคล้ายๆ กัน

Rollercoaster เพลงชื่อตื่นเต้นแต่เป็นเพลงช้าๆ หวานๆ ที่ค่อยๆ บิลด์ให้เข้มข้นทีละนิด ไปกับเบสหนึบๆ กลองกระชับๆ และกีตาร์เท่ๆ เสมือนบางห้วงของรักที่บางครั้งก็ทำให้ความรู้สึกเหมือนขึ้นรถไฟเหาะ

Daisy เพลงไม่ช้าไม่เร็ว พรรณนาถึงเธออันเป็นที่รักและคิดถึง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะรู้สึกเหมือนทางนี้ไหม เพลงนี้มีโซโล่เบสแหวกแนวไปอีกแบบ แน่นอนว่าท้ายเพลงดนตรีบิลด์ขึ้นมา จนตอนพีคมีเครื่องเป่าด้วย ก่อนจะจบแบบสงบๆ ด้วยอคุสติกกีตาร์

Time Machine เพลงนี้เริ่มมาก็ฟังสนุกด้วยเสียงกีตาร์มิวท์ ก่อนเบสจะเดินนำเข้าเพลงไปเจอกีตาร์โซโล่ระดับลายเซนต์ของวง ตามดนตรีที่ฟังเหงาๆ ลอยๆ แต่ขยับตามได้ โดยความเข้มข้นของดนตรีจะค่อยๆทวีคูนขึ้นมาจนพีค และจบแบบสงบอย่างสวยงาม ว่ากันตามจริงเพลงนี้ก็เริ่มดื่มกันแล้ว และเป็นเพลงล่าสุดก่อนจะมาถึงเพลง Sober ที่เมาไปเรียบร้อยแล้ว

ผมไม่ได้เป็นคนดื่ม แต่เมื่อได้ฟังเพลงของพวกเขา อารมณ์เคลิ้มๆ ก็คืบคลานมาครอบคลุมจิตใจ ผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาดใจ เลยอยากชวนคุณผู้อ่านมาเมามายทางดนตรีลอยๆ อันสวยงาม ในเพลงของ Olin MattyBlue ไปกับผมครับ