เผยแพร่ |
---|
ระหว่างการไปเยือนพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ของ”ไทยไม่ทน”ที่นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ กับ การไปเยือนของ”กลุ่มะลุ ฟ้า” ที่นำโดย ไผ่ ดาวดิน
แม้ว่าเป้าหมายจะตรงกัน นั่นก็คือ ต้องการให้พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล
กระนั้น ท่าทีและท่วงทำนองก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ท่าทีของ “กลุ่มไทยไม่ทน” อาจนุ่มนวลในเบื้องต้นเพราะสายสัมพันธ์พื้นฐานระหว่าง นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ กับ พรรคประชาธิ ปัตย์ แนบแน่นเป็นอย่างสูง
แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มอบหมายให้ นายแทนคุณ จิตต์อิส ระ เป็นผู้มารับหนังสือจาก”กลุ่มไทยไม่ทน”ก็ได้เกิดวิวาทะอย่างเดือดดุกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ด้วยความร้อนแรง
ประการหลังแทบไม่ต่างจากท่าทีของ”กลุ่มทะลุฟ้า”มากนัก
เพียงแต่กรณีของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นเรื่องของถ้อยคำสำนวนและโวหาร ตรงกันข้าม คนรุ่นใหม่กลับคึกคักด้วยการร้องตะ โกนด่าและสาดสีเข้าใส่แม้กระทั่งพระแม่ธรณีของพรรค
ความไม่พอใจต่อ”กลุ่มไทยไม่ทน”อาจถือเป็นเรื่องระหว่าง นายแทน คุณ จิตต์อิสระ กับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังเป็นเรื่องที่ตกค้างจากยุคพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลและปราบปราม”คนเสื้อแดง”
แต่เมื่อประสบเข้ากับขบวนของ”กลุ่มทะลุฟ้า”กลับกลายเป็น การปะทะด้วยถ้อยคำและปฏิบัติการสาดสีจากเยาวชนคนรุ่นใหม่
หากใครติดตามการเคลื่อนไหวของ”กลุ่มทะลุฟ้า”จากบริเวณ หน้าพรรคภูมิใจไทยต่อเนื่องไปยังบริเวณหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็จะประจักษ์ใน 2 บทบาทที่ขัดแย้งและกลมกลืนกัน
บทบาทของ”มวลชน”ร้อนแรงอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยโวหาร ไม่ว่าจะด้วยปฏิบัติการสาดสีและเผาหุ่นสำแดงความแค้นเคือง
ตรงกันข้าม บทบาท”แกนนำ”กลับเป็นการห้ามปราม ทักท้วง
แม้จะมีปฏิกิริยาจากภายในพรรคประชาธิปัตย์ร้อนแรงถึงระนาบที่อาจมีการแจ้งความหรือฟ้องร้องต่อศาลสถิตยุติธรรม แต่ไม่ปรากฏ ท่าทีใดๆจากพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ
กระนั้นก็เชื่อได้เลยว่าการปะทะในทางความคิดจะไม่ยุติ
ไม่ว่าจะต่อพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะต่อพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะต่อพรรคประชาธิปัตย์
นี่คือช่องว่างระหว่าง”คนรุ่นเก่า”กับ”เยาวชนคนรุ่นใหม่”