โล่เงิน : รู้จัก “บิ๊กสร้าง” ทหารผู้มาปฏิรูปตำรวจ ถอดรหัส กางดัมมี่ พลิกสีกากี

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคาะระฆังให้สัญญาณปฏิรูปตำรวจอย่างเป็นทางการ เดินหน้าตามโรดแม็ปปฏิรูปประเทศที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

หลังจากใช้เวลาเฟ้นหาผู้เหมาะสมกว่า 3 เดือน

ล่าสุดตกลงใจเทียบเชิญ ครูและรุ่นพี่ เตรียมทหารรุ่น 6 พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ หรือ “บิ๊กสร้าง” เป็นประธานกรรมการ นำคณะผู้ทรงคุณวุฒิสายสีกากี สายวิชาการ นักกฎหมาย นักรัฐศาสตร์ รวม 36 คน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา “พล.ต.อ.บุญสร้าง” อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปัจจุบันนั่งเก้าอี้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมการและที่ปรึกษาในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ถูกจับตามอง

และตั้งคำถามถึงการมานั่งหัวโต๊ะ “ปฏิรูปตำรวจ” ของนายทหารผู้ได้รับการยอมรับในกองทัพ

“พล.อ.บุญสร้าง” เปิดใจถึงบทบาทประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ว่า เข้ามาแบบไม่ทันเตรียมตัว ส่วนตัวแม้โตมากับเพื่อนเหล่าตำรวจ ตท.6 แต่ออกตัวไม่รู้จักตำรวจมากนัก

“นี่คือเรื่องสำคัญ บอกคนที่ชวนว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรมาก แต่เขาบอกไม่มีตัวแล้ว ให้ช่วยหน่อย ผมเป็นทหาร ไม่มีหรอก ดีใจ เสียใจ รู้ว่านี่คือหน้าที่ เมื่อรับแล้ว ต้องทำสร้างสรรค์ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ผมออกตัว ไม่มีความรู้เรื่องตำรวจเลย ผู้ใหญ่บอกรู้อยู่แล้ว แต่ผมมีอย่างอื่นที่เขาต้องการ”

“บิ๊กสร้าง” บอกว่า ใครจะวิจารณ์อย่างไร ไม่กังวล และในสัดส่วนของกรรมการทั้ง 36 คนมีทหารน้อยมาก เพียง 3 คนเท่านั้น ฉะนั้น จะบอกว่าปฏิรูปโดยทหารคงไม่ใช่ ประธานเป็นทหาร แต่จะฟังกรรมการ การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ผม อยู่ที่กรรมการ เวลาถกกันผมจะเป็นคนกลางให้ นำไปสู่การตัดสินใจที่เหมาะสม ตกลงใจฟังเหตุผล โดยไม่ต้องโหวต

“ผมไม่กดดัน ค่อนข้างชินกับการระดมความคิด เปรียบเทียบ ประสานความคิด ให้ได้รับการยอมรับ ไม่ใช่การยกมือแบบการเมือง ชุดนี้จะใช้วิธีการระดมสมอง คุย ประสานความคิด ทุกคนมีวุฒิภาวะแล้ว แต่เชื่อว่าถ้าคุยกันด้วยเหตุผลจะเข้าใจ ทุกคนมีเหตุมีผล ไม่ใช้อารมณ์ เรื่องอารมณ์ผูกพันกับหน่วยของเดิมมีบ้างแต่ไม่มาก ผมว่า 9 เดือน ต้องเสร็จและสำเร็จ เชื่อว่าเสร็จและสำเร็จอย่างน้อยในระดับน่าพอใจ ตอนนี้มีอะไรเอื้อหลายๆ อย่าง ผมว่าตำรวจยุคนี้ไม่ใช่ของเก่า รู้และอยากให้ปรับ ในหลายๆ เรื่องเขารู้”

พล.ต.อ.บุญสร้าง เผยแนวทางการกุมบังเหียน 36 อรหันต์

“ผมไม่มองตำรวจติดลบ เป็นองค์กรที่ไม่ได้แย่กว่าที่อื่น แต่โอกาสสำหรับคนที่มีปัญหา มันสร้างปัญหาได้เยอะหน่อย เปอร์เซ็นต์ตำรวจที่เสียหายคงไม่มากมายอะไรนัก แน่นอนประชาชนมองไม่ดี เป็นอย่างนี้ทั่วโลก แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น มันก็มีมูลอยู่ มีเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้หลายอย่าง ก็ต้องช่วยกัน”

“ผมเชื่อว่าตำรวจเองก็อยากแก้ไข ไม่มาต่อต้านอะไร ผมเชื่อว่าตำรวจอยากปฏิรูปยิ่งกว่าพวกเราที่ไม่ใช่ตำรวจเสียอีก เพราะถ้ามันไม่ดี เขาต้องทนอยู่กับสิ่งนั้น ฝืนความรู้สึก เขาต้องรู้สึกยิ่งกว่า ผมและทหารอีกหลายคนตอนที่ปรับโครงสร้างทหาร ส่วนที่เข้าใจ เขาก็อยากให้มันเปลี่ยน ผมว่าแรงต้านจากตำรวจก็คงมีบ้าง แต่ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความตั้งใจของกรรมการ คงไม่ยากนักที่จะชักชวนให้เข้าใจ และอีกอย่างไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบทันที แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ตำรวจมีเวลาปรับตัว”

“ผมเห็น ประทับใจและอยู่ในใจเสมอ คือตำรวจชั้นผู้น้อย เขาลำบาก ชีวิตลำบาก ทำงานก็เครียด คนที่ชวนก็บอก นั่นแหละที่เราต้องการ ประธานน่าจะต้องมีความรู้สึกอันนี้ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง คือดูแลการทำงานและสวัสดิการของตำรวจชั้นผู้น้อยให้สวัสดิการดี และประสิทธิภาพต้องดี”

พล.อ.บุญสร้าง เผยเป้าหมายปฏิรูป

“ตํารวจกับทหารไม่เหมือนกันในข้อใหญ่ๆ ตำรวจต้องทำงานด้วยตัวบุคคลได้ คนเดียวมีอำนาจตามกฎหมาย สามารถทำงานได้ ทหารต้องไปหน่วย พลทหารมีการศึกษานิดๆ หน่อยๆ ยิงปืนเป็นพอทำงานได้แล้ว แต่ตำรวจต้องทำงานได้ด้วยตัวคนเดียว เขาต้องมีอะไรหลายๆ อย่าง แต่เรื่องที่เหมือนกันคือเราใช้อาวุธ อีกอย่างเราต้องดูแลลูกน้อง ในทางที่ถูกต้องและต้องมีระบบที่เราดูแลได้ง่าย ไม่ใช่ระบบที่ใช้กำลังของตนเอง มันเป็นไปไม่ได้ แล้วทุกวันนี้ให้ตำรวจดูแลลูกน้องด้วยกำลังของตนเองมันเป็นไปได้ยาก มันไม่มีระบบ ตรงนี้เราต้องศึกษา หรือที่บอกว่า ลูกน้องต้องดูแลเจ้านาย มันคงมีความจริงอยู่บ้าง แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด”

“ที่ต้องทำคือ ให้ตำรวจชั้นผู้น้อยอยู่อย่างสบายใจ ไม่เคร่งเครียดเพราะความขาดแคลน ต้องไปดูว่าตำรวจมีระบบการดูแล ความเป็นอยู่กันอย่างไร หลายอย่างดูแบบอย่างทหารได้ นี่คือสิ่งที่ทหารตำรวจต้องมีเหมือนกัน คือการดูแลสวัสดิภาพสวัสดิการของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว ซึ่งสำคัญมาก” พล.อ.บุญสร้าง ย้ำถึงเป้าหมายการปฏิรูป พร้อมชูไอเดีย ปั้นตำรวจท้องถิ่น ภายใต้ กอ.รมน.จังหวัด ว่า

“ทำตำรวจท้องถิ่น อยากให้จบสิ้นการทำงานในจังหวัด ไม่ต้องขึ้นมาข้างบน การปฏิบัติการสั่งการทั้งหลายให้จบในจังหวัด ปัญหาระดับท้องถิ่นต้องการความรวดเร็ว แล้วตำรวจจะชำนาญพื้นที่มากขึ้น ตำรวจบางคนไปอยู่ที่บ้านเกิด ไปอยู่ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น การทำงานไม่ต้องสนใจข้างบนมากนัก สนใจผู้บังคับบัญชาในที่นั้น การประสานงานท้องถิ่นจะดีขึ้น อันนี้เป็นแนวโน้มการปกครองท้องถิ่นอยู่แล้ว ผมว่าน่าจะดี ผมว่าตำรวจก็เห็นด้วย”

“ตำรวจก็อาจไม่เล็กลงมากมาย ตำรวจในพื้นที่ก็คือตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมมุติว่าเขาไปทำงานเน้นการรายงานให้แค่ระดับจังหวัด แต่ยังขึ้นปกครองโดย ตร. แต่การใช้งานปฏิบัติหน้าที่ขึ้นกับจังหวัด ทหารเราใช้คำว่าควบคุมทางยุทธการ โอเปอเรชั่นคอนโทรล จะทำให้สอดคล้องกับการปฏิรูปเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง”

“ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ คือ กอ.รมน. เหมือนในยุคคอมมิวนิสต์ ที่ใช้ได้ผล ยุคนั้นการปฏิบัติงานร่วมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ไปได้ดี จนเราชนะคอมมิวนิสต์ รูปแบบการแก้ปัญหาแบบนั้นจะแก้ปัญหาตอนนี้ได้ เล่นคนละเพลงอยู่ใน กอ.รมน. ใน กอ.รมน. มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ปฏิบัติอยู่ขึ้นกับ กอ.รมน. ไม่ต้องรายงานมาที่ภาค-ตร. ช้า ทำงานไม่ทัน ใน กอ.รมน.จว. อาจเป็นทหารคุมก็ได้ เป็นโครงสร้างที่ทำอยู่มีตำรวจเข้าไป กำลังรื้อฟื้นใหม่ให้แข็งแรง เมืองไทยอาจต้องทำอะไรอย่างนี้”

ทั้งนี้ บิ๊กสร้างยอมรับว่า ต้องออกแบบองค์กรตำรวจใหม่!!

“มีการพูดกันว่า ภารกิจควรจะกว้างขวางเยอะแยะ ตำรวจป่าไม้ ตรวจคนเข้าเมือง ท่องเที่ยว หรือเราต้องการภารกิจแบบที่เป็นตำรวจแท้ๆ หรือไม่ ต้องทบทวนว่า ภารกิจตำรวจต้องแค่ไหน ถ้าต้องการแค่นี้ ภารกิจที่เหลือ ต้องทำยังไง หากให้หน่วยอื่นต้องทำอะไร ต้องมาคิดว่าในประเทศนี้ต้องการให้ตำรวจทำอะไร ตำรวจแท้ๆ ที่ต้องการ ทำแค่ไหน ตำรวจในประเทศไทยเป็นอย่างไร ภารกิจบางอย่างเยอะไปหรือเปล่า”

“5 เดือนแรกจะเห็นตุ๊กตาแล้วว่า ปฏิรูปตำรวจจะออกมาแนวไหน จะนำเสนอให้ประชาชนทราบ จากนั้นช่วง 4 เดือนหลัง ต้องมาปรับ ทำให้ละเอียด อุดช่องโหว่ แก้ไขปรับปรุง 4 เดือน เป็นเวลาอะไหล่ แก้ไขอะไรที่มันไม่เรียบร้อย แก้ปัญหา แก้ออกมาให้ผ่าน ไม่ผ่านก็ต้องแก้กันอีก อะไรที่เป็นปัญหาจริง ที่พูดกันไม่จำเป็นต้องไปหาคำตอบว่ามันมีจริงไหม เราแค่ทำของใหม่ให้มันดี ถูกหลักการ ถ้าสร้างระบบดี ของไม่ดีจะออกไปเอง ถ้าระบบโครงสร้างดี ของไม่ดีค่อยๆ หายไป อยู่ไม่ได้” บิ๊กสร้าง นายทหารสายประนีประนอม หัวขบวนพลิกองค์กรสีกากีกล่าว และทิ้งท้ายว่า

“ครั้งนี้ต้องทำให้เสร็จและสำเร็จ ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่นเพราะมันอยู่ในรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญ และโดยกระแสก็เอื้อ แต่หากปฏิรูปแล้วประชาชนไม่แฮปปี้ก็ถือว่าไม่สำเร็จ”