หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๙๓.๑)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๙๓.๑)

 

มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ที่ทุกวันนี้ โลกเราจะเต็มไปด้วยข่าวปลอม เหมือนที่มันอุดมไปด้วยจุลชีพ

ข่าวปลอมมีด้วยกันสามสายพันธุ์ใหญ่ๆ ได้แก่

Misinformation

Disinformation

Malinformation

ก่อนอื่นเราควรแยกแยะก่อนว่า พวกมันคืออะไร

Misinformation คือ ข้อมูลที่ผิดพลาด อันอาจจะเกิดจากเจตนาหรือไม่มีเจตนา แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากความผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจ

เช่น สถิติที่ผิดพลาด การแปลภาษาผิด บางครั้งการตีความคำเสียดสีบางคำ ว่าเป็นความจริง หรือข้อมูลที่เราเข้าใจวันที่ผิด เราเสพโดยเข้าใจว่าข่าวนี้เพิ่งเกิด แต่ที่จริงมันเป็นข่าวของสามเดือนก่อน หรือหลายปีก่อน

ความผิดพลาดนี้อาจเกิดจากความเผอเรอ เกิดจากความไม่ระมัดระวังของตัวเราเอง

Disinformation คือข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้น ปรุงแต่งขึ้น เพื่อสร้างข่าวลือ หรือสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด

เช่น ข่าวที่ว่า วัคซีนเหล่านี้ คนฉีดจะต้องตายในเวลาอีกไม่นาน เพราะมันเข้าไปทำลายโครโมโซมบางตัวของมนุษย์ นี้คือแผนการลดจำนวนประชากรของโลก คราวเดียวหลายพันล้านคน โดยคนที่ต้องการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของโลก

หรือวัคซีนเหล่านี้ เป็นผลิตผลของบริษัทยา ที่ทำมาเพื่อความร่ำรวย จะทำให้มนุษย์ต้องฉีดวัคซีนเหล่านี้ ซ้ำๆ หลายครั้งครา เหมือนยาเสพติด หากฉีดแล้วไม่ฉีดอีก ร่างกายจะเกิดอาการผิดปกติ โครโมโซมจะแตกหักพังทลาย หรือโควิดเป็นไวรัสที่ห้องแล็บทำออกมา หรือหลุดออกมา จะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม

ข่าวสารที่ยิ่งลึกลับตื่นเต้นยิ่งมีคนเชื่อถือ เหมือนนิทานหลอกเด็ก เฝ้าค้นเฝ้าติดตามอ่าน ติดมันอย่างงอมแงม

Malinformation คือข้อมูลที่มีเจตนาร้าย มีมาเพื่อทำร้ายบุคคลบางคน หรือบริษัทบางบริษัท หรือแม้แต่ทำร้ายประเทศบางประเทศ บางครั้งเป็นการตัดต่อข้อมูล ปรุงแต่งคลิป หรือตัดเอาแค่บางคำออกมา หรือการเอาข้อมูลส่วนตัว ออกมาทำข่าว เพื่อทำร้ายคนอื่น แต่ทำทีเหมือนหนึ่งว่า สิ่งนี้มีมาเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ บัดนี้ข้อมูลกลายเป็นอาวุธ สาเหตุอาจมาจากความเกลียดชังส่วนตัว หรือเรื่องธุรกิจ หรือการเมือง

สามสายพันธุ์นี้เกาะเกี่ยวกันแน่นหนา บางครั้งก็แยกไม่ออก เหมือนไวรัสสามสายพันธุ์ หากแต่มันทำลายสังคมของเราอย่างร้ายแรง ตามความกว้างใหญ่ของอินเตอร์เน็ต

ที่น่าเสียใจคือเราแก้ไขไม่ได้ เพราะพวกมันมาเหมือนจุลชีพ มันเป็นสิ่งมีชีวิต มันดิ้นได้ มันกลายพันธุ์ได้

 

ฉันเหนื่อยล้ากับการเผชิญหน้ากับข่าวปลอมเหล่านี้มาก เพราะพวกมันกระหน่ำเข้ามาทุกวันคืน ต่อให้เราตัดแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือออกไป เช่น ข่าวที่มาจากเวบที่หลบๆ ซ่อนๆ เป็นไอ้โม่ง แต่ในแหล่งข่าวกระแสหลัก ก็ยังเจือปนด้วยข่าวปลอมมากมาย บางข่าวมันกระหน่ำยิง ปูพรม จนมนุษย์แยกแยะอะไรไม่ออกอีกแล้ว

ฉันอดคิดต่อไปไม่ได้ว่า ในนวนิยาย SF มนุษย์ได้เดินทางไปในอวกาศกว้าง และเจอมนุษย์ต่างดาวมากมาย เกิดการสงครามระหว่างมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว แต่ที่จริง ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวกว่า ได้แก่

แบคทีเรียต่างดาว

ไวรัสต่างดาว

เชื้อราต่างดาว

ด้วยเพราะดาวเคราะห์ดวงใดที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้ สิ่งมีชีวิตแรกที่อยู่ได้คือจุลชีพ พวกมันคือด่านหน้าและเป็นด่านที่ร้ายกาจที่สุด และพวกมันมีหลากหลายพันธุ์ ขอเพียงหนึ่งในสิบของพวกมันเป็นศัตรูกับมนุษย์ แค่นั้นมนุษย์ก็ยากจะรับมือได้แล้ว

หรือแม้แต่หนึ่งในร้อยของมัน ก็ยังเหลือจะรับมือได้

 

มนุษย์โลกรับมือกับแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ในโลกนี้ได้ สาเหตุหลักมาจากการที่เราอยู่บนโลกนี้มาช้านาน นับล้านปี จนจุลชีพส่วนใหญ่เหล่านี้ปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้

และเราก็รบกับพวกมันมานาน จนพอจะมีอาวุธสู้กับพวกมันได้

แต่บนดาวเคราะห์ดวงใหม่ เราจะรับมือกับพวกมันได้อย่างไร ยาปฏิชีวนะและภูมิคุ้มกันที่เราใช้ได้ผลบนโลก จะไปใช้บนดาวเคราะห์ดวงใหม่ ฉันว่าไม่น่าเป็นไปได้

๑๐

ลำพังเพียงแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ไม่กี่สายพันธุ์บนโลก เราก็แทบจะเอาตัวไม่รอด หากเจอพวกมันมากมายเป็นเซ็ต เราจะรับมืออย่างไรได้

ดังนั้น การเดินทางไปในอวกาศ การท่องไปในจักรวาล จึงดูเลื่อนลอย ยากจะเป็นจริงไปได้ ต่อให้เราใส่ชุดอวกาศป้องกันตัวเองเต็มที่ เราจะไม่การ์ดตกหรอกหรือ สักครู่เราอาจนึกว่าไม่มีอะไร และถอดชุดอวกาศเหล่านี้ออก เราจะการ์ดตก และจุลชีพเหล่านี้ ขอเพียงเล็ดลอดเข้ามาได้เพียงนิดหน่อย หากไร้ภูมิคุ้มกันใดจะป้องกันมนุษย์ ไร้ยารักษาโรคใดที่จะรับมือกับพวกมันได้

พริบตาเดียว มันก็จะขยายตัว แพร่พันธุ์ เป็นแสนเป็นล้าน เป็นโกฏิล้าน

 

๑๑

มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ปราชญ์โบราณมาตรฐานบางสำนัก ถือว่าดนตรีเป็นสิ่งแปลกปลอม เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจมนุษย์ไขว้เขว เลื่อนลอย เช่น สำนักเต๋า สำนักบักจื้อ

ฉันเข้าใจหลักคิดแบบนี้ เพราะตัวเองเคยมีประสบการณ์ นอนหลับอยู่ริมหนองน้ำ ในเช้าวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงเป็ดร้องที่ในหนอง มันเป็นเสียงที่มีพลังมาก ล้ำลึก ยิ่งฟังยิ่งโหยหวน ยิ่งฟังยิ่งประหลาดล้ำ

ฉันนอนฟังอย่างตกตะลึง คิดอยู่ในใจว่า ทำไมเสียงในธรรมชาติจึงล้ำลึก มีพลังได้ระดับนี้ มันทำให้เสียงดนตรีใดๆ ที่ฉันเคยได้ยินมา ล้วนเป็นของปลอม

๑๒

แต่ทว่า ทุกวันนี้ มนุษย์ขาดดนตรีไม่ได้ แม้มันจะเป็นสิ่งแปลกปลอม คงเพราะสังคมมนุษย์ทุกวันนี้ หนวกหูมาก ยากจะได้ยินเสียงใดในธรรมชาติ มันถูกกลบหายไป วันๆ เราได้ยินแต่เสียงรถยนต์ เสียงรถไฟ เสียงเครื่องจักรกล จนตัวเราแห้งเกือบหมดแล้ว เสียงดนตรี แม้ภายในจะมีความดัดจริตบางส่วน มีสิ่งแปลกปลอมแทรกซ้อนอยู่

แต่ทว่า โดยรวมมันคือเสียงหนึ่ง ที่ทำให้เรามีความสุข ปลดปล่อยเราออกจากโลกที่กักขังตัวเราไว้ ในชีวิตของฉัน ที่ไม่ใช่คนชอบฟังเพลงเท่าไรนัก ก็ยังมีเสียงเพลงนับร้อยนับพัน วนเวียนอยู่ในความทรงจำ มันเข้าลึกลงมาในจิตมนุษย์เสียแล้ว หากนี้คือความผิด ก็สุดจะเยียวยาได้

๑๓

ในส่วนนี้ ฉันจำเป็นต้องย้ายข้าง มาอยู่ฝ่ายสำนักขงจื้อ ที่ยกย่องดนตรี ถือมันเป็นคุณธรรมอย่างหนึ่ง เป็นเสาหลักอันหนึ่งของอารยธรรมมนุษย์ คิดด้วยเหตุผล ไม่น่าเป็นไปได้

แต่ทว่า มันซึมลึกเข้าไปในจิตมนุษย์เสียแล้ว หากมันคือของปลอม เราก็เสียคนไปเรียบร้อยแล้ว ไม่อาจแก้กลับคืน

บัดนี้ฉันจำเป็นต้องย้ายข้าง มาอยู่ฝ่าย fake news