ศาลตัดสินธรรมนัสได้ไปต่อ ส่อกระเทือนงานการเมืองประชาธิปัตย์ ที่สงขลาและภาคใต้/บทความพิเศษ

บทความพิเศษ

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

[email protected]

 

ศาลตัดสินธรรมนัสได้ไปต่อ

ส่อกระเทือนงานการเมืองประชาธิปัตย์

ที่สงขลาและภาคใต้

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนทูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

หลังจากเวลา 15.00 น. ของวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ชี้โทษจำคุก ตปท.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ส่งผลถึงไทย ซึ่งถึงแม้ ร.อ.ธรรมนัสจะรอดในแง่นิตินัย แต่พฤตินัยท่านยังถูกสังคมตั้งคำถามอีกมาก สังเกตจากโลกโซเซียล เช่นคำว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไม่ดีที่ไหนก็ได้ กลับมาไทยเป็นได้ทุกตำแหน่งใช่ไหม ตัดสินอย่างนี้ หมายความท่านทำจริงที่ออสเตรเลีย?…ตรรกะวิบัติมาก?”

“ในขณะเดียวกันการตัดสินของศาลครั้งนี้หรือหลายๆ ครั้งเหมือนมีธงว่าไม่ผิด เพียงหาเหตุผลมารองรับ มันจะยิ่งทำให้คนเห็นต่างจากรัฐ โดยเฉพาะนักศึกษา เยาวชนคนรุ่นใหม่ เด็กๆ ลุกขึ้นมาแสดงพลังโดยเฉพาะกับศาล”

สำหรับการตัดสินของศาลครั้งนี้ ยังผลให้ท่านได้เป็นรัฐมนตรีต่อ ทำให้ราศีของธรรมนัสยิ่งจับมากขึ้น ทั้งในพรรคพลังประชารัฐและรัฐบาล

ซึ่งแน่นอนที่สุด การขับเคลื่อนทางการเมืองที่จังหวัดสงขลาและภาคใต้ จะสามารถสานต่ออย่างแน่นอน จะยิ่งส่งผลต่อเจ้าของพื้นที่ภาคใต้อย่างพรรคประชาธิปัตย์

แต่ก็เป็นผลดีกับประชาชนคนสงขลาและภาคใต้ที่จะมีคนแข่งขัน ทำผลงานทางการเมืองและแก้ปัญหาประชาชนหลังจากพรรคนี้ครองภาคใต้มานาน

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งที่ 85/2564 เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแบ่งงานให้รัฐมนตรีแต่ละคน แต่ละพรรครับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ที่เห็นเด่นชัดคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดิมดูแลพื้นที่จังหวัดพะเยา เชียงราย และหนองบัวลำภู แต่กลับเปลี่ยนมาให้ดูแลพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต ที่เป็นความรับผิดชอบเดิมของนายนิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งทำให้เห็นว่าอาจจะเป็นการเตรียมพื้นที่เลือกตั้งในอนาคตให้กับพรรค พปชร. และในคำสั่งยังได้มอบหมายให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เข้าไปคุมจังหวัดพะเยา เชียงราย และหนองบัวลำภู ให้ ร.อ.ธรรมนัสแทนด้วย

จากการสัมภาษณ์ครั้งนี้ของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สะท้อนความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน แม้สุดท้ายรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม จะออกมาแก้คำสั่ง ตามที่ประชาธิปัตย์ร้องขอ

อย่างไรก็แล้วแต่ ปรากฏว่า 30 เมษายน 2564 ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวก้อย ส.ส.พลังประชารัฐในพื้นที่สงขลา ลงพื้นที่พบตัวแทนชาวบ้านเพื่อแก้ปัญหาราคาพริก

ร.อ. ธรรมนัส พร้อมด้วย ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.เขต 4 สงขลา นายวันชัย ปัญญาศิริ ส.ส.เขต 1 สงขลา นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.เขต 2 สงขลา ลงพื้นที่สำนักงาน อ.ต.ก. อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อร่วมประชุมติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะราคาพริก ซึ่งขณะนี้เกษตรกรใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ระโนด อ.สทิงพระ อ.กระแสสินธุ์ ของจังหวัดสงขลา กำลังประสบปัญหาผลผลิตพริกล้นตลาด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิค-19 ทำให้พริกในปีนี้มีราคาถูกลง ส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการขาดทุน

ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยหลังจากเสร็จการประชุมว่า “ได้สั่งการให้ อ.ต.ก.เข้ามาเป็นแม่งานในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร โดยการพัฒนาพื้นที่ของ อ.ต.ก.สงขลา กว่า 21 ไร่ จัดตั้งเป็นศูนย์กลางในการรับซื้อพริกและสิ้นค้าเกษตรจากเกษตรกรทั้งในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง และช่วงนี้ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาตลาดภายในประเทศเพื่อเร่งระบายพริกในช่วงนี้ไห้ได้มากที่สุด”

ในขณะที่นายถาวร เสนเนียม ผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์จับมือ ส.ส.สงขลาเช่นกัน แก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า

“เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัดสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช เมื่อผลผลิตออกในปีนี้ราคาตกต่ำมาก คือราคารับซื้อ ก.ก.ละ 8 บาท ทำให้ขาดทุนมาก ท่านจุรินทร์ รมว.พณ. จึงสั่งการให้นายวิชัย โภชนกิจ ที่ปรึกษา รมว.พณ. ดำเนินการแก้ปัญหา ทางกระทรวงพาณิชย์จึงจัดงบประมาณ 100 ล้านบาทโอนให้จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 30 เมษายน และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา กลัวว่าจะล่าช้า จึงหารือผม นายถาวร เสนเนียม ให้ประสานนายจุรินทร์ นายวิชัย และ ผวจ.สงขลาให้เร่งดำเนินการ ผมจึงประสานทั้ง 3 ท่านให้รีบดำเนินการ”

ได้ข้อสรุปดังนี้ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม ตอนเช้า ผวจ.สงขลานัดประชุมทุกฝ่ายเพื่อสั่งการ และตอนบ่ายลงพื้นที่ดำเนินการทันที และนายวิชัย ตัวแทนนายจุรินทร์ จะมาร่วมดำเนินการด้วย โดยให้ผู้รับซื้อ รับซื้อ ก.ก.ละ 10 บาท ราชการชดเชยให้ชาวสวนพริกอีก ก.ก.ละ 5 บาท รวมชาวสวนพริกจะได้เงินในการขายพริก ก.ก.ละ 15 บาท ทุกฝ่ายพอใจ

“ผมในฐานะเป็นผู้ประสานงาน ขอขอบคุณท่านจุรินทร์ นายวิชัย นายจารุวัฒน์ ผวจ.สงขลา นายเดชอิศม์ ส.ส.สงขลา นายไพเจน นายก อบจ.สงขลา ผู้ประสานผู้นำท้องถิ่น และทุกท่านที่เกี่ยวข้องครับ ส่วนพัทลุง นครศรีธรรมราช ท่านจุรินทร์ นายวิชัย จะรีบดำเนินการต่อไป” นายถาวรกล่าว

 

วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.พะเยา ไม่พ้นสภาพ ส.ส. เพราะเป็นการกระทําผิดในต่างประเทศ

ส่งผลให้หัวหน้าพรรคจุรินทร์และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์อื่นๆ ดาหน้าออกมาขย่มนายอันวาร์

สะท้อนความขัดแย้งในพรรคสูง อันจะเป็นอีกปัจจัยต่อความนิยมพรรคที่ผลงานเชิงประจักษ์ในการร่วมรัฐบาล

ซึ่งต่างจากธรรมนัสและพลังประชารัฐจนถึงชายแดนภาคใต้ (สุไหงโก-ลก) ที่ผนึกกันเร่งงานกันเต็มที่