‘รังสิมันต์ โรม’ เข้าสู่พิธีวิวาห์กับ ‘อิวาน่า คูร์เนียวาติ’ ชาวอินโดนีเซีย โดยเป็นที่ฮือฮา เพราะภายในงานมีผู้ตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาชนจงเจริญ” พร้อมชู 3 นิ้ว

‘โรม’ เปิดใจว่า ตื่นเต้นกับการแต่งงาน ซึ่งเกิดขึ้นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้ต้องเตรียมงานใหญ่ถึง 2 งาน เป็นการบริหารจัดการที่ยากพอสมควร

ทั้งนี้ งานแต่งเกิดขึ้นหลัง ‘โรม’ อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง ‘ตั๋วช้าง’ ทำให้สะเทือนถึง ‘ผู้มีอำนาจ’

แน่นอนว่าหลายๆ คนห่วง ‘โรม’ เพราะถูกเพ่งเล็ง แม้แต่ผู้อยู่เคียงข้าง

‘อิวาน่า’ เปิดใจว่า ก็เป็นห่วง แต่เป็นหน้าที่ของเขา สิ่งที่ทำได้คือการสนับสนุนต่อไป

 

แน่นอนว่า ‘อิวาน่า’ หนีไม่พ้นการถูกจับตาเหมือนกับ ‘โรม’

ซึ่งเรื่องนี้ ‘โรม’ ระบุว่า “จริงๆ เป็นสิ่งที่เรารู้และเราเข้าใจว่ามันไม่ง่าย และยิ่งเป็น ส.ส.ที่แต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นชาวต่างชาติ ก็มีข้อกฎหมายเยอะแยะพัวพันไปหมด”

“ยกตัวอย่างแค่จัดงานแต่ง การรับซองก็มีข้อกฎหมายที่เราต้องไปดูเยอะมาก”

“ผมต้องทำหนังสือไปถาม ป.ป.ช. และ กกต. ในการจัดงานแต่งงานว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่เข้ามากระทบ แต่เราก็ต้องแบกรับร่วมกัน ตราบใดที่เรายังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเราก็พอที่จะพิสูจน์ว่า เรามีความโปร่งใส ผมว่าเราก็ไม่ต้องกลัวอะไร”

เลือดนักสู้อย่าง ‘โรม’ ย่อมต้องมีผู้ให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง โดย ‘อิวาน่า’ ได้เล่าให้ฟัง ซึ่งทำให้ ‘โรม’ ถึงกับอมยิ้มว่า การสนับสนุนของตนเองมีหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ด้านจิตใจอย่างเดียว ไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว แต่รวมถึงในเรื่องหลักการที่สำคัญ ก็ทำให้เรามีความเข้าใจ และเรากำลังไปในทิศทางแบบเดียวกัน

“การสนับสนุนของเราทั้งคู่ ไม่ได้มาจากตนด้านเดียว แต่โรมก็สนับสนุนดิฉันเช่นกัน และเราก็พยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อที่เราจะได้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน” อิวาน่ากล่าว

ทั้งนี้ ‘โรม’ กล่าวเพิ่มว่า “เวลามีเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในทางการเมือง อย่างเวลาผมต้องทำหน้าที่บางอย่างที่อันตราย เราก็คุยกัน เพราะถึงที่สุดแล้วเป็นการแบกรับบางอย่างร่วมกัน”

 

ย้อนกลับไปปี 2561 ในยุค คสช. โดย ‘โรม’ ได้ต่อสู้ทางการเมืองริมถนน เพื่อต่อต้าน คสช. และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ต้องขึ้นโรงพักครั้งนับไม่ถ้วน

ช่วงหนึ่ง ‘โรม’ ได้เดินทางไปเรียนหลักสูตรสันติวิธีที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงได้พบกับ ‘อิวาน่า’ โดยเป็นหลักสูตรที่มีนักกิจกรรมจากหลากหลายประเทศเข้าร่วม ซึ่งชีวิตคู่ของทั้งสองช่วงการคบหาดูใจนั้น ก็เหมือนกับคู่รักทั่วไป

แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นคือ ‘อิวาน่า’ ต้องไปหา ‘โรม’ ที่โรงพักหลายครั้ง ได้ฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากมาด้วยกัน จน ‘โรม’ ได้เข้าสภาเป็น ส.ส.สมัยแรก และไม่ละทิ้งอุดมการณ์

โดยที่ผ่านมา ‘โรม’ ติดคุกไปถึง 2 ครั้ง และมีคดีติดตัวอยู่จนถึงปัจจุบัน

ส่วน ‘อิวาน่า’ ก็มีแนวทางและอุดมการณ์ที่ไม่ต่างจาก ‘โรม’ เพราะเป็น ‘ศิลปินการเมือง’ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งคู่จึงได้แลกเปลี่ยนทั้งเรื่อง ‘ความคิด’ และ ‘หัวใจ’ ไปพร้อมๆ กัน

 

จนมาถึงคืนวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา งานแต่งของ ‘โรม-อิวาน่า’ เต็มไปด้วย ‘ความหมายแฝง’ โดยเฉพาะการขึ้นกล่าวอวยพรของ ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่ถือเป็นบุคคลสำคัญของ ‘โรม’ เพราะเป็นทั้ง ‘อาจารย์’ และ ‘เลขาธิการพรรค’ สมัยอยู่พรรคอนาคตใหม่

โดย ‘ปิยบุตร’ ได้เขียนคำกล่าวอวยพรด้วยตนเอง โดยเริ่มจากความหมายว่า ‘งานแต่งงาน’ คืออะไร?

งานแต่งงานคือ งานของคนสองคนที่มีความรักต่อกัน และต้องการประกาศความรักของพวกเขาทั้งสองให้ผู้อื่นได้รับรู้และร่วมเป็นสักขีพยานร่วมกัน ดังนั้น ‘งานแต่งงาน’ จึงสัมพันธ์กับ ‘ความรัก’

ทั้งนี้ ตอนหนึ่ง ‘ปิยบุตร’ ได้อธิบายถึง ‘ความรัก’ กับ ‘การปฏิวัติ’ ว่า การปฏิวัติในภาษาอังกฤษเรียกว่า ‘Revolution’ และในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า ‘Révolution’ และในภาษาอินโดนีเซียเรียกว่า ‘Revolusi’ คำนี้มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า ‘Revolvere’ ซึ่งหมายถึงการย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น แต่ปัจจุบันคำคำนี้หมายถึง ‘การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่’ หยั่งถึงรากและขั้นมูลฐาน

พร้อมยกข้อความของ ‘Badiou’ ขึ้นมา โดยอธิบายถึงความคิด ‘ปฏิวัติ’ นั้นคือ ‘เหตุการณ์’ ที่รัฐพยายามเข้ามาผูกขาด ‘ความเป็นไปได้’ เขาไม่ได้บอกว่าอะไรจริงหรือเท็จ แต่รัฐต้องการผูกขาดเพื่อบอกว่า ‘อะไรเป็นไปได้’ หรือ ‘อะไรเป็นไปไม่ได้’ หากเราต้องการความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ต้องเข้าไปต่อสู้ ถึงตรงนี้เพื่อจะบอกว่า อะไรคือความเป็นไปได้ เพื่อเข้าไปสู่ ‘ความเป็นไปได้ใหม่’

พร้อมมองว่า ‘การปฏิวัติ’ นั้นก็คือ ‘ความเสี่ยง’ เพราะเป็นการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ขั้นมูลฐาน ได้แก่ เสี่ยงที่จะต้องออกมาจากพื้นที่ความสะดวกสบาย, เสี่ยงที่จะได้รับอันตราย, เสี่ยงที่จะต้องรับโทษทัณฑ์จากรัฐ, เสี่ยงที่จะล้มเหลว แต่นั่นคือความเสี่ยงที่นำพาเราไปสู่การปลดปล่อยสู่เสรี

‘ความรัก’ ก็เช่นเดียวกัน ที่ ‘Badiou’ มองว่า ความรักก็คือการเข้าสู่ ‘เหตุการณ์’ เมื่อแรกคุณตกหลุมรักใครคนหนึ่ง มันอาจเริ่มจากเข้าไปทำงาน แนะนำตัวเอง อยู่ดีๆ ก็มีอีกคนหนึ่งผ่านเข้ามา ทันใดนั้น คุณรู้สึกประหลาดใจอย่างถึงที่สุด ควบคุมความคิดจิตใจไม่ได้ รู้สึกรักคนคนนี้เข้า มันไม่มีเหตุผลกำกับ มันไม่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ แต่มันคือเหตุบังเอิญอันคาดหมายไม่ได้ แล้วคุณก็ใช้เสรีภาพนั้นเข้าสู่ฉากใหม่ ฉากที่มีทั้งความสุข ความทุกข์ ความดีใจ ความเสียใจ ความบ้าคลั่ง ทุกๆ อารมณ์พรั่งพรูเข้ามาราวกับเป็นพายุดีแซสเตอร์

แน่นอนทั้งหมดคือ ‘ความเสี่ยง’ ไม่รู้หรอกว่า อะไรจะเกิดขึ้นตามมา ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่มันคือความเสี่ยงที่จะเปิดประตู ‘ความเป็นไปได้ใหม่’ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ แบบที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต

ดังนั้น ‘ความรัก’ ที่ปลอดภัย ควบคุมได้ บังคับทิศทางได้ คาดเดาผลลัพธ์ได้ ไม่มีอยู่จริง ความรักที่ไม่มีความเสี่ยง เป็นไปไม่ได้ เหมือนกับสงครามที่ไม่มีคนตาย ก็เป็นไปไม่ได้

โดยในช่วงท้าย ‘ปิยบุตร’ ได้อวยพรขอให้ทั้งคู่มีและใช้ ‘ความรัก’ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ มันอาจนำมาซึ่ง ‘ความเสี่ยง’ ที่คาดเดาไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ แต่มันก็เหมือนกับตอนนี้ที่คุณทั้งสองตกหลุมรักกัน

จากนั้น ‘ปิยบุตร’ ได้เชิญชวนให้ผู้ร่วมงานร่วมกันรำลึก ‘เพื่อนของเรา’ อีกหลายคนที่ถูกจองจำอยู่ในคุก ซึ่ง ‘เพื่อนของเรา’ เหล่านี้ต้องมาเป็นแขกผู้มีเกียรติในงานนี้ร่วมกับพวกเรา แต่ด้วยอำนาจอันอยุติธรรม ทำให้ ‘เพื่อนของเรา’ ต้องสูญสิ้นอิสรภาพ พวกเขาเหล่านี้ ต่างมีความรักต่อสังคม รักต่อประเทศ ด้วยความรักนี้เอง ทำให้พวกเขาพร้อมรับความเสี่ยงเดินหน้าเปิดประตูความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

 

อย่างไรก็ตาม ‘โรม’ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเผยความในใจตอนหนึ่งว่า “จุดที่น่าเสียดายอยู่จุดนึงคือ แขกบางส่วนที่ผมตั้งใจจะเชิญ แต่ไม่สามารถมาได้ ไม่ว่าจะเป็น ‘ไผ่ ดาวดิน’ ที่ต้องมาเล่นดนตรี หรือ ‘แอมมี่’ ที่มีคิวร้องเพลง 1 2 3 4 5 ในงานด้วย หรือ ‘โตโต้’ และ ‘ทนายอานนท์’ และอีกหลายคน หากไม่ได้ถูกควบคุมตัวอยู่ ก็คงจะได้มาสนุกด้วยกันในงานแต่งนี้เช่นเดียวกัน

หลายคนคงสงสัยว่าเพราะเหตุใดงานแต่งของผมและอิวาน่า ถึงมีบรรยากาศทางการเมืองอยู่ในนั้น นั่นก็เพราะเราไม่สามารถแยกชีวิตของเราออกจากการเมือง เช่นเดียวกันถ้าความรักคือส่วนหนึ่งของชีวิต เราก็ไม่สามารถแยกความรักออกจากการเมืองได้ด้วย

สุดท้ายนี้งานแต่งครั้งนี้ไม่ใช่แค่งานเลี้ยงเฉลิมฉลองของบ่าวสาวที่ได้ครองคู่กันเท่านั้น แต่มันคือการลั่นกลองรบที่ต้องการเห็นสังคมเปลี่ยนแปลง ที่ไม่ใช่เพื่อสองเรา แต่เพื่อทุกคน”

จากนี้ไปชีวิตคู่ของ ‘โรม-อิวาน่า’ แม้จะมี ‘ความเสี่ยง’ รออยู่ แต่ด้วย ‘ความรัก’ เชื่อว่าทั้งคู่จะฝ่าไปได้

เพราะแม้แต่ทะเล ก็ขวางกั้นเขาไม่ได้!!