วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมายฉางซู : จากเหมยฉางซู ไปยังหลินซูห์

เสถียร จันทิมาธร

จากเหมยฉางซู ไปยังหลินซูห์ (81)

คําถาม คำตอบ ระหว่างหนีหวงจวิ้นจู่กับเหมยฉางซู เป็นคำถาม คำตอบอันสะท้อนลักษณะในทาง ประวัติศาสตร์อันพร้อยด้วยรอยแผลและความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง

เริ่มจากคำถาม “เขาตายในสนามรบแล้วจริงหรือ”

ตามมาด้วยการยอมรับว่า “ใช่” อันนำไปสู่อีกคำถามหนึ่ง “เขาตายที่ไหน” และนำไปสู่คำตอบอันชัดถ้อยชัดคำ “ภูเหมยหลิง”

แต่ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าคือ “ซากกระดูกฝังอยู่จุดไหน”

“เจ็ดหมื่นสหาย ทอดกายทั่วพสุธา” สะท้อนให้เห็นว่าศึกที่ภูเหมยหลิงเป็นศึกที่มีความสูญเสียเป็นอย่างสูง เป็นศึกที่สร้างผลสะเทือนอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง

เห็นได้จากความสงสัย “แม้แต่ศพของเขาก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น”

เห็นได้จากความข้องใจที่ว่า “แม้แต่กระดูกสักชิ้นก็หาไม่พบ” อย่าได้แปลกใจหากพร้อมกับคำถามหนีหวงปิดตาแน่น นิ้วมือจิกบนสาบเสื้อ แต่คำตอบจากเหมยฉางซูล้วนยืนยัน “สงครามล้วนทารุณโหดร้าย

ซากศพทบทับเท่าภูเขา จะมีใครจดจำได้ว่าคนไหนคือหลินซูห์”

“นั่นก็ใช่แล้ว” หนีหวงผงกศีรษะด้วยท่วงท่าอาการอันเลื่อนลอย “ข้าเข้าใจความทารุณโหดร้ายของสงครามดี นับแต่อดีต จะมีสักกี่คนที่กลับมาได้โดยซากศพไม่บุบสลาย”

สายตาอ่อนโยนของเหมยฉางซูตกลงบนร่างนาง

“จวิ้นจู่ หากต้องการเซ่นไหว้เขา ป่าเขียวพงไพรทั่วหล้าล้วนสถิตด้วยวิญญาณวีรชน” เป็นวิญญาณวีรชนนับได้ 70,000 สหาย ทอดกายทั่วพสุธา

“ท่านพูดถูก เขามิได้ยึดติดในสิ่งเหล่านี้”

หนีหวงพึมพำเบาๆ ประโยคหนึ่ง พลันช้อนสายตาคู่งามขึ้น แววตาเปลี่ยนเป็นแหลมคมดั่งปลายมีด “หากท่านเป็นคนกองทัพอัคคีแดงสมควรเรียกขานเขาว่าขุนพลน้อย ไฉนเรียกชื่อหลินซูห์ของเขาโดยตรง”

สีหน้าเหมยฉางซูแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

ริมฝีปากที่เดิมซีดจางยิ่งเพิ่มความเผือดสี ไม่ทราบด้วยปิดบังไม่อยู่ หรือด้วยไม่คิดปิดบังต่อไป ดังนั้น เขามิได้ตอบคำถามข้อนี้

ตรงข้ามกลับเบือนหน้าหลบไปอีกทางหนึ่ง

เห็นเช่นนั้นหนีหวงยิ่งรุก “เมื่อเนี่ยตั๋วเล่าถึงประมุขพรรคของเขาน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่อย่างที่ท่านอ้างว่าทุกคนต่างสถานการณ์กัน”

เป็นการรุกไล่อย่างชนิดประสานสายตาอย่างไม่ยอมแพ้

“ข้าไม่เข้าใจมาตลอดว่าไฉนความเจ็บปวดของเนี่ยตั๋วจึงลึกล้ำปานนั้น ต่อให้ข้าเคยเป็นเพียงคู่หมั้นของสหายร่วมเป็นร่วมตายของเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องพยายามหลบหน้าข้าเช่นตอนนี้

เว้นเสียแต่เขารู้ว่า…”

“หนีหวง” เหมยฉางซูตัดบทนางด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “เนี่ยตั๋ว แค่ยังคิดไม่ตก เขาจะค่อยๆ ดีขึ้น ท่านอย่าได้คิดมาก”

หนีหวงตะลึง สีหน้ารวดร้าวสุดบรรยาย

ไอขาวอันระบายออกมาท่ามกลางความหนาวเย็นทำให้เบื้องหน้าสายตาของนางพร่าพรายเป็นห้วงๆ หลังสูดหายใจลึก นางถลันเข้าไปคว้าแขนขวาของเหมยฉางซู กระชากสายรัดข้อมือออก

รูดปลายแขนเสื้อคลุมขนสัตว์ขึ้นด้านบนโดยแรงจนถึงข้อศอก

เหมยฉางซูปล่อยให้กระทำตามอำเภอใจ มิได้ขัดขืน ทั้งมิได้ปกปิด มีเพียงดวงตาลึกดั่งบ่อน้ำคู่นั้นเท่านั้นที่ถูกปกคลุมด้วยความเศร้าระทมบางๆ ชั้นหนึ่ง

หนีหลวงจับแขนเหมยฉางซูพลิกไปพลิกมาอยู่หลายรอบ

ทว่าส่วนที่เปิดเปลือยให้เห็นทั้งหมดมีเพียงความเกลี้ยงเกลาขาวสะอาด ไม่ปรากฏร่องรอยเป็นเครื่องหมายใดๆ จึงค่อยคลายมือออกอย่างมึนงง ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ใหญ่

จากนั้นยังคงกระชากดึงคอเสื้อเหมยฉางซูอย่างไม่ยอมแพ้

สำรวจมองในตำแหน่งกระดูกไหปลาร้าอย่างจริงจัง เคร่งเครียด ปรากฏว่าที่เห็นยังคงเกลี้ยงเกลาขาวสะอาด ปราศจากริ้วรอยใดๆ

ทำไมหนีหวงจวิ้นจู่ต้องจริงจังเคร่งเครียดปานนั้น