หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๘๓) /ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ
ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๘๓)


สิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ ยังแบ่งได้ออกเป็น
๑ สิ่งมีชีวิตที่คิดแบบปัจเจกชน
๒ สิ่งมีชีวิตที่คิดแบบ hive mind
สิ่งที่สองคือคิดแบบมด แบบผึ้ง แบบตัวปลวก คือการคิดแบบเอาเผ่าพันธุ์ตัวเองเป็นหลัก และไม่มีสิ่งที่เรียกว่าปัจเจกชน ความอยู่รอด ความก้าวหน้าของเผ่าพันธุ์ย่อมสำคัญสูงสุด
ชีวิตแต่ละปัจเจกชน ย่อมสละได้หมด ย่อมไร้คุณค่าอันใด หากเทียบกับราชินี
และชีวิตที่เสียไป ก็แทนที่ใหม่ได้ ตราบใดที่ราชินียังอยู่
นี้คือ hive mind


จะเห็นว่าสองสิ่งมีชีวิตนี้แตกต่างกันมาก เรียกว่าคนละจักรวาลเลยทีเดียว
แบบแรก คือชีวิตของพวกเรา เราล้วนมีความเป็นส่วนตัว มากน้อยขึ้นกับสติปัญญาของเรา ความตื้นลึกของจิต
แต่ hive mind เป็นอีกหนึ่งระบบ เวิ้งว้าง กว้างใหญ่
ทุกวันนี้ ในโลกของเรา เรายังไม่เจอสิ่งมีชีวิตที่มี hive mind ที่มีสติปัญญา พอที่จะมาเป็นคู่แข่งกับเราได้ เราจึงปลอดภัย
แต่ในจักรวาล หากเราเจอมนุษย์ต่างดาวที่เป็น hive mind อะไรจะเกิดขึ้น
เพราะเราต่างกันมาก เหมือนอยู่คนละจักรวาล เราจะสื่อสารกันได้หรือ
หากต้องต่อสู้กัน ใครจะชนะ


ในเกมหมากรุก สมมุติเราต้องเล่นกับสิ่งมีชีวิตที่เป็น hive mind เขาจะคิดล่วงหน้าเราไปหลายก้าว เราจะเล่นกับเขาได้ยากมาก
เขาคิดแบบเผ่าพันธุ์ ไปไกลลิบลับ
เขาเป็นเซียนหมากรุก ในขณะที่เรายังเป็นมือใหม่


สิ่งมีชีวิตที่เป็น hive mind อาจจะไม่มีสิ่งต่อไปนี้เลย
๑ ปรัชญา
๒ กวี
๓ วรรณกรรม
๔ ประวัติศาสตร์
๕ วัฒนธรรม
และอื่นๆ
สิ่งเหล่านี้หายไปหมด และถูกแทนที่ด้วยสิ่งอื่น สิ่งที่เราไม่รู้จัก คิดไม่ออก
นี้คือความแตกต่างที่ลึกซึ้งยิ่งนัก และต่างฝ่ายก็ไม่สนใจอีกฝ่ายเลย เพราะ mind set ของเราต่างกันมาก จนความเห็นอกเห็นใจ ไม่เกิดขึ้นเลย เราไม่สงสารเขา และเขาก็ไม่สงสารเรา เราไม่รักเขา และเขาก็ไม่รักเรา
ในโลกของเรา ไม่มีคู่แข่งที่เป็น hive mind เรามีมด มีผึ้ง มีปลวก แต่พวกมันยังเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ไร้สติปัญญาที่จะมาเทียบกับมนุษย์ได้ เราปลอดภัย
แต่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ เราไม่รู้
มันอาจมีอยู่ เราอาจเจอกัน
และอาจเกิดสงครามใหญ่


ในแง่ความคิด หากเราต้องทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตที่เป็น hive mind เราต้องจู่โจม ทำลายราชินีของมัน เพราะไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งปานใด จุดอ่อนของมันก็ชัดเจน
หากราชินีของมันตาย พวกมันก็ตายยกรัง แต่อย่าเพิ่งดีใจ เพราะพวกมันยามไร้ราชินี หากให้เวลาสักนิด พวกมันก็สร้างราชินีใหม่ได้ ก็ผึ้งงานธรรมดานี่แหละ สามารถพลิกเปลี่ยน กลายมาเป็นราชินี
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งมีชีวิตที่เป็น hive mind ย่อมต้องปกป้องราชินีของมันอย่างสุดความสามารถ เรียกได้ว่า มีระบบรักษาความปลอดภัยไม่รู้กี่ชั้น
สิ่งสำคัญคือ สิ่งที่พวกเขาพูด สิ่งที่พวกเขาทำ เราไม่รู้ว่าอะไรอยู่เบื้องหลัง เราไม่รู้จุดหมาย นี้คือหมากรุกที่เราเล่นได้ยาก
พวกเขาคือเซียนหมากรุก เพราะวิธีการคิดของพวกเขา ก้าวกระโดดไปไกลลิบลับ
ในโลกของเราทุกวันนี้ มีสิ่งมีชีวิตที่คิดอะไร คล้ายไปทาง hive mind บ้างไหม คำตอบคือมี เช่นชาวจีน พวกเขามีความเป็น hive mind พอสมควร แน่ละ เทียบไป ก็แค่เล็กน้อย แต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่มนุษย์โลกเองก็อาจฉีกออกเป็นสองเผ่าพันธุ์ ที่แตกต่างกันลึกซึ้ง วันหนึ่ง เราจะอยู่บนหลักการที่แตกต่างกันมาก จนไม่อาจเจรจากันได้
คนจีนใช้ลัทธิคอมมิวนิสต์ และทำงานได้ดี เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันจะทำงานแบบนี้ไปได้นานเท่าไร แต่มองดูการสร้างโครงการยักษ์มากมาย ทุกโครงการเหล่านี้ แสดงความแตกต่างบางอย่างที่น่ากลัว
การขุดอุโมงค์ที่มีความยาวเกินจินตนาการ การสร้างสะพานข้ามมหาสมุทร การสร้างทางรถไฟข้ามดวงดาว สิ่งเหล่านี้ คนปกติทำไม่ได้ แต่คนที่มีความเป็น hive mind ทำได้ ขนาดเขามีความเป็น hive mind แค่ผิวๆ ยังก่อให้เกิดความแตกต่างได้ระดับนี้
ทำให้คิดว่า ถ้า mind set นี้ลึกล้ำกว่าเดิม อะไรจะเกิดขึ้น


แต่เมื่อคิดลึกลงไป สิ่งมีชีวิตที่มี hive mind อาจเป็นมนุษย์เรานี่เอง
หากพัฒนาการทางอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย คอมพิวเตอร์เหล่านั้นพัฒนาต่อไปเรื่อย จนถึงจุดหนึ่งที่ทะลุทะลวง
หากจิตสำนึกของมนุษย์เปลี่ยนไป และไปแบบกู่ไม่กลับ พวกเราก็กลายเป็น hive mind
แต่เราจะเปลี่ยนไปหมดเลยหรือ หรือว่าเปลี่ยนเป็นบางคน บางคนไม่เปลี่ยน เปลี่ยนไปบางชาติ บางชาติไม่เปลี่ยน ถ้าเช่นนั้นคงเป็นสงครามใหญ่สุดบนโลก สงครามระหว่างชนสอง mind set ที่คุยกันไม่ได้อีกแล้ว
เรามองโลกไม่เหมือนกันอีกแล้ว