ฟ้า พูลวรลักษณ์ | สิ่งที่สำคัญมากในทางการเมืองคือ Ideal

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๗๙)

๑สิ่งที่สำคัญมากในทางการเมืองคือ Ideal

หากแปลง่ายๆ มันคือ อุดมคติ

Ideal คือแม่ของ Ideas

Ideas มากมายกำเนิดมาจาก Ideal ที่แตกต่างกัน ในโลกนี้มีหลายอุดมคติ และบางอุดมคติก็ขัดแย้งกัน

หากขัดแย้งกันหนักๆ ก็เกิดสงคราม

๒ประเทศไทยตอนนี้มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งทาง Ideal นั่นคือ เรามีคนชูสามนิ้วกลาง ที่เป็นตัวแทนของ

๑ สันติภาพ

๒ เสรีภาพ

๓ ภราดรภาพ

แต่อีกหนึ่ง Ideal สามนิ้ว หมายถึงนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ซึ่งหมายถึง

๑ ชาติ

๒ ศาสนา

๓ พระมหากษัตริย์

สามนิ้วเหมือนกัน แต่ต่างความหมาย และขัดแย้งกันอย่างลึกซึ้ง

๓สองอุดมคตินี้ ที่จริงก็เก่าแล้ว อย่างสามนิ้วแรก ก็มีมานานหลายร้อยปีแล้ว แต่ทว่าสามนิ้วหลัง มีมานานกว่า นับพันปีแล้ว อันหนึ่งก็เก่า แต่อีกอันหนึ่งเก่ายิ่งกว่า เรียกว่าบรมเก่า

อาจจะมีวันหนึ่ง ที่มีคนชูสามนิ้วด้วยความหมายที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง นั่นคือสิ่งใหม่ แต่วันนี้ยังไม่มี และสามนิ้วแรกนั้น ก็ยังห่างไกลจากความเป็นจริง เอาแค่ภราดรภาพ ก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น

ภราดรภาพ หรือความเป็นพี่น้องกัน นั่นหากแปลความหมายอีกที คือความเสมอภาคกันนั่นเอง

ที่จริงวันนี้เราเสมอภาคกันมากกว่าอดีต

มองย้อนหลับไปร้อยสองร้อยปีก่อน โลกไม่ใช่แบบนี้

๔ปัญหาของไทย คล้ายจะหนัก แต่หากเทียบกับอีกปัญหาหนึ่งที่หนักกว่าสิบเท่า ปัญหาของเราก็กลายเป็นเบาไปเลย

ปัญหาที่หนักกว่าสิบเท่า คือปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ เรื่องที่ชาวมุสลิมทั่วโลกประท้วงชาวฝรั่งเศส ในข้อหาที่ว่า พวกเขาสนับสนุนการมีเสรีภาพในการวาดการ์ตูนล้อเลียนพระศาสดาของพวกเขา

เราจะโทษมาครงประธานาธิบดีของฝรั่งเศสก็ไม่ได้ ที่เขาแข็งกร้าว เพราะเขาเป็นชาวฝรั่งเศส เป็นตัวแทนของชาติ การที่เขายืนหยัด เหนียวแน่นในเรื่องของการแสดงความคิดเห็น ปฏิเสธการข่มขู่ ความก้าวร้าว มันเป็นไปตาม Ideal ของฝรั่งเศสจริงๆ และมีมานานแล้ว ก่อนชาติอื่น และเข้มข้นกว่า

นี้คือ Ideal ของพวกเขา สิ่งที่อาจทำให้มนุษย์มากมายยอมตาย

ทางฝั่งมุสลิมบ้างล่ะ การที่ศาสนานี้มีพวกหัวรุนแรง ถึงขนาดว่ารับไม่ได้ ต้องออกมาไล่ตัดคอชาวฝรั่งเศส และประกาศจะฆ่าชาวฝรั่งเศสนับล้าน เพียงแค่ความผิดที่ว่ามาลบหลู่พระศาสดาของพวกเขา

นี้เป็นสภาวะที่เป็น Ideal ของพวกเขา พวกหัวอ่อนหรือปานกลาง อาจจะปฏิเสธความรุนแรง แต่ในส่วนลึก เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ศาสนาอิสลาม คือมนุษย์สองร่าง ที่มีวิญญาณเดียว

มันเป็นเช่นนี้มาช้านาน และนี้แหละคือศาสนาที่อบอุ่น อ่อนหวาน รักสงบ เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อย่างยากจะเปรียบได้

แต่มันก็มีเชื้อแห่งความรุนแรงอย่างสุดขีด ซึ่งบางคนอาจแกล้งมองไม่เห็น ไม่ยอมรับ แต่ทว่ามันมีอยู่จริง เป็นวิญญาณร่วมในนั้น นี้คือหนึ่งวิญญาณ แต่มีสองร่าง

นี้เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าปัญหาในเมืองไทยเราสิบเท่า มันร้ายแรงอย่างเหลือเชื่อ และไม่รู้จะจบลงยังไง

ชาวฝรั่งเศสถือว่าเสรีภาพในการแสดงออก เป็น Ideal ของพวกเขา ไม่ได้ผิดอะไร ไม่อาจถอยให้กับความก้าวร้าว การข่มขู่ ความหยาบคาย เรียกได้ว่า พวกเขารักเสรีภาพอย่างสุดโต่ง

แต่ฟังดูแม้แต่ชาวมุสลิมที่อยู่สายกลางๆ อ่อนโยน ก็ยังต่อต้าน ไม่ยอม ด้วยถือว่านี่เป็นการดูหมิ่นพระศาสดาของพวกเขา การเหยียบย่ำศรัทธาของพวกเขา เป็นความผิดที่ร้ายแรงสูงสุด

นี้เป็นความขัดแย้งสุดขั้ว นี้คือการปะทะของสอง Ideal ที่ฉันหวาดกลัวมาช้านาน แล้ววันหนึ่งมันก็ปรากฏตัวขึ้น

ไม่ใช่มาครงถอยไม่เป็น ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จักวิธีการทางการทูต แต่เพราะนี้คือจิตวิญญาณของชาวฝรั่งเศส มาครงไม่อาจทรยศต่อจิตวิญญาณของตัวเองได้

การกระทำดังกล่าว พวกเขาก็ทำมาแล้วกับคนอื่น เช่น การล้อเลียนพระเยซู ซึ่งไม่ได้มีผลรุนแรงอะไร ด้วยพระเยซูในวันนี้ ไม่ได้มีสองร่าง แต่ทว่าในอดีตกาล พระเยซูก็มีสองร่างเช่นกัน ในยุคโน้น หากมีใครมาแสดงความไม่เคารพพระเยซู ก็น่าดูชมเหมือนกัน

แต่วันนี้ การแสดงความคิดเห็นในเชิงล้อเลียน ในภาพการ์ตูน ในหนัง ไม่ได้มีผล หากว่ามี ก็เบาบางเต็มที

ฉันแปลกใจว่าทำไมคริสต์ศาสนาเปลี่ยนแปลงได้ แต่อิสลามเปลี่ยนไม่ได้ ทำไมศาสนาหนึ่งปรับตัว อีกศาสนาหนึ่งไม่ยอมปรับตัว มีอะไรเป็นเหตุผล

หรือหากว่ามาล้อเลียนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นกัน ประการแรก พระพุทธเจ้าไม่ได้มีอะไรให้คนอื่นล้อเลียน หากว่ามี ก็เบาบาง และชาวพุทธไม่ได้มีหัวรุนแรง อยากเก่งก็แค่ส่งจดหมายไปประท้วง คงไม่มีการออกมาไล่ตัดคอชาวฝรั่งเศส มันไม่มีทางไปสุดโต่งเช่นนั้น

ทำไมคริสต์ศาสนา ครั้งหนึ่งก็มีสองร่าง หลังจากการผ่าตัดแล้ว ก็เหลือร่างเดียวได้ ทำไมชาวมุสลิมทำไม่ได้ มันเป็นเพราะ Ideal นี้ลึกเกินแก้ หรือเพราะยังไม่ได้ผ่าตัด

ในโลกนี้ ทุกวันนี้ เหลือเพียงหนึ่งเดียวจริงๆ คือชาวมุสลิม ที่มีเชื้อนี้ อยู่ที่ว่ามันจะปะทุวันไหน

หากมีผู้คลุ้มคลั่ง ฆ่าชาวฝรั่งเศสตายเป็นล้าน นี้คือสงครามโลกครั้งที่สาม และจะรบกันรุนแรงยิ่งนัก รบกันจนกว่าจะรู้เรื่อง

หากถึงวันนั้น อีกหลายชาติคงไม่ยอม โดยเริ่มจากชาติที่มี Ideal ใกล้ชิดกับฝรั่งเศส เช่น อังกฤษ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฯลฯ พวกเขามี Ideal เช่นเดียวกับชาวฝรั่งเศส แต่อ่อนกว่า หากจำเป็น พวกเขาก็ต้องลุกขึ้นสู้ด้วย

ท้ายสุด คือรบจนกว่าจะรู้เรื่อง

ชาวมุสลิมหากชนะ นานาชาติก็ต้องยอมสยบให้กับศรัทธาของพวกเขา ไม่กล้าหือ

แต่หากชาวมุสลิมแพ้ ศาสนานี้ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างใหญ่หลวง ไม่เช่นนั้นก็คงต้องถูกแบนไปจากโลกนี้ การปรับเปลี่ยนนี้ เหมือนการผ่าตัดครั้งใหญ่ ให้เหลือร่างเดียววิญญาณเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าชาวมุสลิมจะทำได้ไหม เพราะการเหลือหนึ่งร่างนี้ ไม่เคยมีมาก่อนเลย ร่างที่เหลืออาจต้องขาดใจตาย

แต่ศาสนาที่มีมาช้านาน ยั่งยืนแบบนี้คงไม่ตายง่ายๆ เหมือนชีวิต ฉันว่าคงมีการปรับตัวมากกว่า แต่ทว่าเป็นการปรับตัวหลังจากชาวโลกเสียหายมหาศาล พอปรับตัวเสร็จก็คงแปลกใจ ว่าทำไมสมัยก่อนไม่ยอมปรับตัว

อะไรทำให้ต้องดื้อรั้นแบบนั้นด้วย