บรรยากาศการเมืองท้องถิ่นกลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบ 6 ปี

เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563

หลังการรับสมัครเลือกตั้งระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายนผ่านพ้นไป ผู้สมัครแต่ละรายเริ่มลงพื้นที่หาเสียงขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด

หลายจังหวัดเริ่มมีปัญหาทำลายป้ายหาเสียงสารพัดรูปแบบ เช่น ที่ จ.ปราจีนบุรี ป้ายหาเสียงของนายไพบูรณ์ นาคพันธุ์ ผู้สมัคร ส.อบจ. เขต 6 อ.กบินทร์บุรี ถูกทำลายล้มลง และอีกหนึ่งจุดคล้ายถูกมีดกรีดเป็นทางยาวได้รับความเสียหาย ทั้งหมดจำนวน 2-3 ป้าย

ที่ จ.กำแพงเพชร ป้ายหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 3 คณะก้าวหน้า ถูกสาดสีดำใส่ ทำให้ป้ายเสียหาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ. ที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน มีแนวโน้มทำให้เกิดความแตกแยกในพื้นที่ได้

สํานักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. จึงมีหนังสือถึง ผบช.ภ.1-9, สันติบาล, ตชด., สตม., สยศ.ตร., กมค. และ สงป. สั่งการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจัดการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.

ตอนหนึ่งระบุว่า ให้ ภ.1-9 และ ภ.จว. ประสาน กกต.เขต/จว. เพื่อขอทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมทั้งความต้องการของ กกต.เขต/จว. ในการขอรับการสนับสนุนจาก ตร. นอกเหนือจากการจัดกำลังตามแผนของ ตร. เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการจัดกำลังพล

ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ถือปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พิทักษ์เลือกตั้ง/62) โดยเคร่งครัด

ให้เปิดศูนย์อำนวยการและควบคุมการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งประจำ ภ.จว. (ศลต.ภ.จว.) ตั้งแต่ 12-26 ธันวาคม 2563 (15 วัน) โดยจัดชุดป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง (ปป.ลต.), จัดกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ห้วงวันที่ 2-6 พฤศจิกายน, จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานที่เลือกตั้ง

ให้ ภ.จว.เป็นหน่วยรับผิดชอบในการพิจารณาจัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในแต่ละภารกิจให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สถานการณ์ เช่น พื้นที่ล่อแหลมหรือมีแนวโน้มที่จะมีความขัดแย้งสูง เป็นต้น

ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงคราม รวมทั้งกำชับเรื่องการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการตำรวจในสังกัด และอบรมชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติให้กำลังพลที่จะทำหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น

ทาง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ออกมาเด้งรับนโยบายอย่างรวดเร็ว โดยเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งให้กวาดล้างผู้มีอิทธิพล ซุ้มมือปืนรับจ้าง ก่อนการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. หลังการข่าวรับทราบข้อมูลว่า บางพื้นที่ซุ้มมือปืนเริ่มมีความเคลื่อนไหว ซึ่ง ผบ.ตร.กำชับว่าดูแลให้ดีอย่าให้มีเหตุ

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์กล่าวอีกว่า เราดูสถิติและแผนประทุษกรรมของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เวลามีการเลือกตั้งแล้วข่มขู่ยิงหัวคะแนน ซึ่งมีจังหวัดทางภาคใต้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.พัทลุง

โดยได้ส่งตำรวจจากกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ทำงานร่วมกับทีมหนุมานกองปราบปราม ลงพื้นที่ช่วงหาเสียงเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มซุ้มมือปืนและกลุ่มฮาร์ดคอร์

หากหลักฐานข้อมูลชัดเจนก็ดำเนินการกวาดล้างทั้งซุ้ม ถ้าปล่อยไว้คนพวกนี้จ้องแต่จะยิงผู้บริสุทธิ์ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเฉพาะจังหวัดเล็กๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ผู้มีอิทธิพลรู้จักตำรวจเกินครึ่งเมือง เวลาตำรวจจะขยับอะไรรู้ก่อนทุกที

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์กล่าวด้วยว่า ต้นเดือนธันวาคมจะมีการเข้าค้นเป้าหมายที่เราคิดว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล เป็นการป้องกันไว้ก่อน

ทั้งนี้ พอเราออกนโยบายให้หน่วยปฏิบัติลงไปในพื้นที่เขาก็ระวังตัวกัน มีบางจังหวัดที่ผู้มีอิทธิพลพยายามติดต่อเข้ามาพูดคุยว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซุ้มมือปืน ตนก็ตอบกลับไปว่า อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุต้องโดนยกทั้งซุ้ม อย่าให้มีเหตุ ไปว่ากันในเรื่องดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่การมาเอาชีวิตกัน มันไม่ถูกต้อง แล้วพี่น้องประชาชนจะไปยืนอยู่ตรงไหน ขอให้ไปแข่งกันช่วยเหลือประชาชน

มันเป็นเรื่องงานมวลชน ไม่ใช่มาข่มขู่กัน จนได้มาปกครองท้องถิ่น แล้วความเจริญจะมาจากที่ไหน มันไม่ได้มาจากการทุ่มเทความรักให้กับประชาชนในพื้นที่ แต่ข่มขู่เอาชีวิตคน แล้วไปครอบงำการจัดซื้อจัดจ้าง รับเหมาก่อสร้างที่มีผลประโยชน์กัน แบบนี้ยอมไม่ได้

“ใกล้เลือกตั้งเสร็จ ผมจะนำกำลังลงไปในพื้นที่ที่มีการข่าวว่าจะรุนแรง ไม่ให้ขยับเลย มันต้องทำก่อน ระหว่างและหลังเลือกตั้ง เราต้องลงไปก่อนเป็นการป้องกันว่าเอาจริง ผมเป็นหน่วยเสริมท้องที่บางจังหวัดที่รุนแรงเอาไม่อยู่ ไปให้การสนับสนุน เราเป็นส่วนกลางลงไปมันเหมือนทัพหลวง พอลงไปแล้วทุกอย่างต้องนิ่ง”

ผบช.ก.กล่าว