ต่างประเทศอินโดจีน : รัฐประหารกับการเลือกตั้ง

ผลการเลือกตั้งที่เมียนมาเมื่อ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ภายใต้การนำของออง ซาน ซูจี ได้ชัยชนะตามความคาดหมาย

ในผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของอีเวย์มัล องค์กรอิสระเพื่อติดตามการนับคะแนน ปรากฏว่า จนถึงขณะนี้ เอ็นแอลดีกวาดที่นั่งรัฐสภาเมียนมาทั้งสภาล่างและสภาสูง ซึ่งมีทั้งหมด 642 ที่นั่ง ในส่วนที่ต้องเลือกตั้งไปแล้วถึง 366 ที่นั่ง

มีวี่แววว่าจะทำได้ถึง หรือเกินกว่า 377 ที่นั่งตามที่ทางพรรคตั้งเป้าเอาไว้ และได้เสียงเกิน 322 ที่นั่งที่เป็นเสียงข้างมากเด็ดขาดไปแล้ว

พรรคฝ่ายค้านสำคัญที่เป็น “ตัวแทน” ของกลุ่มทหารอย่างพรรคสหสามัคคีเพื่อการพัฒนา (ยูเอสดีพี) เพิ่งได้ที่นั่งในรัฐสภาเพียง 21 ที่นั่ง ในขณะที่มีพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆ ได้ที่นั่งรวมกันอีก 48 ที่นั่ง

ยูเอสดีพีทำได้แย่กว่าที่เคยทำได้เมื่อ 5 ปีก่อนที่ 41 ที่นั่งด้วยซ้ำไป

 

คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพ (ยูอีซี) บอกว่าผลอย่างเป็นทางการคงต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์

ทั้งหมดไม่ได้เกินจากที่บรรดาผู้สันทัดกรณีคาดหมายเอาไว้

ปัญหาก็คือ ยูเอสดีพีประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้

อู ถั่น ฮเตย์ ประธานพรรค ยืนยันว่าความถูกต้องชอบธรรมของการเลือกตั้งหนนี้ยังเป็นปัญหา

โดยเฉพาะเมื่อมี “เหตุอื้อฉาว” เกิดขึ้นมากมายทั้งในกระบวนการเลือกตั้งและการนับคะแนน

ยูเอสดีพีกังขาตั้งแต่เรื่องทะเบียนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ความโปร่งใสในการทำหน้าที่ของคณะอนุกรรมการการเลือกตั้ง ไปจนถึงปัญหาในการนับคะแนน ที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้

ทางเลือกของยูเอสดีพีมีอยู่ 2 ทาง ทางหนึ่งคือ ยื่นคำร้องแย้งผลการเลือกตั้งที่เป็นปัญหาเป็นรายๆ ไป อีกทางหนึ่งก็คือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อยูอีซี เพื่อให้จัดการเลือกตั้งใหม่

อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายเลือกตั้งของเมียนมาเท่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ยูอีซีคือผู้ชี้ขาดในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง

นั่นทำให้เอ็นแอลดีไม่ได้วิตกกังวลใดๆ กับถ้อยแถลงของประธานยูเอสดีพีในครั้งนี้

 

สิ่งที่น่าวิตกมากกว่าเป็นท่าทีของกองทัพต่อการเลือกตั้งครั้งนี้

เหตุผลก็เพราะว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ขณะที่เหลือเวลาอีก 3-4 วันจะถึงวันเลือกตั้ง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไล ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ออกมาให้สัมภาษณ์แบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ” กับ “ป๊อปปิวลาร์ นิวส์” สื่อเมียนมาในนครย่างกุ้ง

ถล่มทั้งยูอีซี แล้วก็ทั้งรัฐบาลเมียนมาภายใต้การนำของซูจี คู่ต่อกรสำคัญที่สุดตั้งแต่สมัยที่กองทัพพม่ายังกุมอำนาจอยู่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

มิน อ่อง ไล พูดเตือนเอาไว้ราวกับตาเห็นว่า ความ “อ่อนแอ” และ “ด้อยประสิทธิภาพ” ของยูอีซี จะส่งผลให้ผลการเลือกตั้งที่ปรากฏออกมาเป็นปัญหา ไม่ได้รับการยอมรับ

นายทหารผู้กุมอำนาจสูงสุดในกองทัพเคยประสานเสียงกับยูเอสดีพี ตั้งข้อกังขาต่อความน่าเชื่อถือและความลำเอียงของยูอีซีมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความกังขาต่อองค์กรอิสระที่รัฐบาลแต่งตั้งนี้โดยตรง

และเป็นครั้งแรกที่มิน อ่อง ไล ออกมาพูดถึงเรื่องนี้โดยตรงต่อสาธารณะ โดยไม่ไยดีต่อข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะว่าไปก็คือเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องทำตามคำสั่งรัฐบาล

 

ความเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกันระหว่างผู้บัญชาการทหารสูงสุดกับพรรคการเมืองในครั้งนี้ ทำให้ข่าวลือทางลบกระหึ่มขึ้นอีกครั้งในเมียนมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงการทูตที่เชื่อว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเอ็นแอลดีกับกองทัพที่ตกอยู่ในสภาพถูก “แช่แข็ง” ตลอด 5 ปีที่ผ่านมากำลังเปลี่ยนแปลง

กลายเป็นจุดเดือดที่อาจลงเอยด้วยการยึดอำนาจรัฐประหารอีกครั้งหนึ่งแล้ว