E-DUANG : ​​ประกาศ การต่อสู้ ของราษฎร บนฐาน แห่ง เยาวชนปลดแอก

คำประกาศ”ล้อม”รัฐสภาอันมาจาก”ราษฎร” อันกึกก้องมาจากเยาว ชนปลดแอกประสานเข้ากับแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมรวมถึงกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยใหม่

สำคัญและทรงความหมายเป็นอย่างสูงทั้งในทาง”ความคิด”และในทาง”การเมือง”

หากดูจากป้อมปราการอันใหญ่โตจากรัฐบาล จาก พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยากเป็นอย่างยิ่งที่ปฏิบัติการครั้งนี้จะสามารถเอาชนะได้

ยิ่งคำนึงถึงเป้าหมายที่”กลุ่มราษฎร”ต้องการเข้าไปปกป้อง คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ยิ่งต้องประสบกับกระแสต้านอันใหญ่หลวงยิ่ง

ไม่ว่าจะมาจาก 250 ส.ว. ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐและพันธมิตรอย่าง พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวม พลังประชาชาติไทย หรือแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์

นี่ย่อมเป็นการต่อสู้บนพื้นฐาน “กูจะสู้แม้จะรู้ว่ากูจะแพ้”อย่างเด่นชัดยิ่ง

 

หากมองจากสมมติฐานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมองจากสมมติฐานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อันเป็นไปตามบทสรุปแห่งรายงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ

แนวโน้มของการชุมนุมนับวันแผ่วลง แผ่วลง ย่อมถึงเวลาที่จะต้องรุกอย่างทุกด้าน

ไม่ว่าด้านกฎหมาย ไม่ว่าด้านรัฐสภา

จึงเห็นการเดินหน้าออกหมายเรียก ออกหมายจับประชิดตัวบรรดานักเคลื่อนไหวนับร้อยทั้งในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาคเป็นข่าวประจำวัน

จึงเห็นการออกมาของบรรดา ส.ว.และของขุนพลแห่งพรรคพลังประชารัฐที่พร้อมจะบดขยี้เนื้อหาของร่างแก้ไขเพิ่มเติมอันมาจากภาคประชาชน

สะท้อนให้เห็นความคึกคัก ยืนยันถึงความมั่นใจในการเดินหน้าอย่างเต็มเปี่ยม

 

หากมองย้อนไปยังการลุกขึ้นมาเมื่อเดือนกรกฎาคม การประกาศต่อสู้ในเดือนพฤศจิกายน ก็มิได้เป็นการต่อสู้บนรากฐานอันว่างเปล่า ไร้พละกำลัง

พัฒนาการจาก”เยาวชนปลดแอก”มายัง”ราษฎร”ย่อมเด่นชัด

ในเมื่อนี่เป็นการต่อสู้ในลักษณะ”ยืดเยื้อ”ก็ย่อมเป็นการสะสมกำลังเพื่อสร้างพัฒนาการขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งมากกว่า