ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/’218i Gran Coupe M Sport’ สปอร์ต 4 ประตูแต่งสวย-ขับมันส์

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

‘218i Gran Coupe M Sport’

สปอร์ต 4 ประตูแต่งสวย-ขับมันส์

 

อวดโฉมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู “218i Gran Coupe M Sport” ส่งเข้ามาเขย่าตลาดเก๋งสปอร์ตรุ่นเล็ก หวังชิงชัยกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ “เอ 200 AMG Dynamic” และอาวดี้ “เอ 1 Sportback 35 TFSI S-Line”

รถประเภทนี้ถือเป็นเก๋งเล็ก ออกแนวสปอร์ตจ๋า แน่นอนว่าเจาะกลุ่มวัยรุ่น ขาซิ่งเล็กๆ เรียกว่าพวกที่ชอบขับรถสวยและแรงขึ้นมาหน่อย

บีเอ็มดับเบิลยู “218i Gran Coupe M Sport” เป็นรถนำเข้าทั้งคัน แต่ราคาค่าตัวไม่ได้แพงโดดกว่าคู่แข่ง

เรียกว่าบีเอ็มฯ เจาะตลาดนี้อย่างเอาจริงเอาจังพอสมควร เพราะเป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงมาก คนทำงานระดับเริ่มต้นเป็นหัวหน้า พ่อ-แม่ที่พอมีตังค์ซื้อให้ลูกขับไปเรียน หรือเริ่มทำงานไม่ต้องคิดมากเวลาควักเงิน

แถมยังได้ความเท่ ภาพลักษณ์ และความปลอดภัยตามมาตรฐานรถยุโรปด้วย

 

ภาพลักษณ์ภายนอกมาในแนวสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ด้านหน้าโฉ[เฉี่ยวมากๆ กับกระจังหน้าเอกลักษณ์ไตคู่ แต่พัฒนาให้ล้ำขึ้นไปมองด้านตรงมีมิติมากขึ้น ไฟหน้าเรียวเล็กแบบ Full LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก LED เรียงเป็นเส้นแนวนอน

แต่งขอบต่างๆ ด้วยสี High-gloss Black

แน่นอนว่าพลาดไม่ได้กับสปอยเลอร์หน้า M Sport

เส้นสายด้านข้างซุ้มล้อโป่งขึ้นมานิดๆ รับกันดีกับล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ของ M Sport ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางรันแฟลตขนาด 225/40 เต็มซุ้มล้อพอดี

กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยวและฟิน 3 เส้นเพื่อช่วยลดเสียงปะทะลมเข้าห้องโดยสาร และยังช่วยเรื่องแอโร่ไดนามิกด้วย

ดูด้านหลังไฟท้ายแบบ Full LED เช่นเดียวกับด้านหน้า คาดเส้นสีดำ High-gloss Black เชื่อมต่อทั้ง 2 ฝั่ง

ด้านใต้ติดตั้งดิฟฟิวเซอร์

แต่น่าเสียดายนิดๆ ที่ให้ท่อไอเสียมาอันเดียว

ด้านบนมีเสาอากาศครีบฉลาม

ภาพรวมออกแนวสปอร์ตชัดเจน โดยหลังคาด้านท้ายลาfลงค่อนข้างเยอะ และที่น่าจะถูกใจวัยรุ่นมากขึ้นตรงที่กระจกหน้าต่างแบบไม่มีขอบ

 

ภายในดูกะทัดรัด แต่งเน้นความเรียบง่าย

พวงมาลัย 3 ก้าน M Sport มาตรวัดดิจิตอลออกแบบให้ดูมีมิติมากขึ้น

ขยับมาตรงกลางเป็นจอแสดงผล Display ทัชสกรีน ขนาด 8.8 นิ้ว ทำมุมเอียงเข้าหาผู้ขับขี่ ช่วยให้แค่เหลือบตากHมองเห็นชัดเจน รวมทั้งปรับองศาได้ดีทำให้เวลาขับกลางแดดไม่มีแสงสะท้อนให้รำคาญหรือต้องเพ่งเพราะอาจมองไม่ชัด

ระบบแอร์อัตโนมัติ เครื่องเสียงอยู่ต่ำลงมา

คอนโซลเกียร์ตกแต่งด้วยสีดำ มีปุ่มควบคุมต่างๆ และปุ่มเลือกโหมดเครื่องยนต์ 3 แบบ เบรกมือไฟฟ้า

พลาดไม่ได้กับปุ่มควบคุมแบบหมุนไปมา เอกลักษณ์อีกอย่างของบีเอ็มฯ

เส้นขอบประตูและคอนโซลหน้าฝังไฟสร้างบรรยากาศเอาไว้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ 7 เฉดสี

หลังคา Panoramic Roof ขนาดใหญ่ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

เบาะที่นั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังแท้ Dakota พร้อมรูระบายอากาศ

สัญลักษณ์ “ไตรคัลเลอร์” ประดับไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อให้รู้ว่าเป็นรุ่นพิเศษแต่ง M Sport

ส่วนที่นั่งด้านหลังถ้าเป็นคนตัวสูงเกิน 175 ซ.ม.ขึ้นไปอาจอึดอัดนิดหน่อย ศีรษะอาจแทบชนเพดานได้เลย แม้การออกแบบจะทำช่องเว้าบนเพดานเอาไว้แล้วก็ตาม

เช่นเดียวกับที่วางขาค่อนข้างน้อย โดยบีเอ็มฯ ทำเบาะหลังเบาะคู่หน้าเว้าเข้าไปแล้วก็ตาม

ดูลักษณะการออกแบบต่างๆ แล้ว น่าจะเน้นนั่ง 2 คนหน้ามากกว่า ส่วนด้านหลังถ้าตัวไม่ใหญ่หรือเดินทางไม่นานมากพอไหวอยู่

 

กญแจรีโมตพร้อมระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) รถจะคลายล็อกเมื่อเดินเข้าใกล้ในรัศมีสั่งการอัตโนมัติ เช่นเดียวกัน หากเดินห่างออกไปรถจะล็อกอัตโนมัติเช่นกัน

โดยสังเกตได้จากกระจกมองข้างจะพับเก็บเมื่อล็อก และกางออกเมื่อปลดล็อก

ส่วนใครที่ขับรถคนเดียวบ่อยๆ หรือสาวๆ อาจกังวลเรื่องความปลอดภัย หายห่วงได้เพราะสามารถตั้งการปลดล็อกประตูแค่บานคนขับ หรือปลดล็อกทั้งคันก็ได้

การตั้งก็ง่ายๆ จากหน้าจอ Display ในรถนั่นเอง ซึ่งสามารถตั้งระบบต่างๆ ได้ค่อนข้างเยอะ และละเอียดยิบทีเดียว

กดปุ่มสตาร์ต เสียงเครื่องยนต์คำรามทุ้มๆ เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารไม่มากนัก

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1,499 ซีซี TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,600-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบ/นาที

เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ แบบ Steptronic

ความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 215 กิโลเมตร/ชั่วโมง

กดคันเร่งปุ๊บมาทันที ยิ่งเมื่อออกตัวแล้วความเร็วทะยานทันใจสุดๆ เข็มไมล์วาดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยิ่งหากปรับเป็นโหมดสปอร์ต กดทีไรหลังติดเบาะทุกครั้ง ขณะที่พวงมาลัยจะหนักขึ้นนิดๆ เพื่อความปลอดภัย

ส่วนอีก 2 โหมดที่เหลือคือคอมฟอร์9 และอีโค

เสียงลมเข้ามาในตัวรถน้อยมาก ความเร็วระดับ 140-150 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยังแทบไม่ได้ยิน

ช่วงล่างปึ๊กทีเดียว แต่ต้องแลกมาด้วยความนุ่มนวลที่น้อยลง บวกกับยางรันแฟลตแก้มต่ำ เรียกว่าเก็บแทบทุกรายละเอียดของพื้นถนน

แต่หากเป็นวัยรุ่นน่าจะชอบเพราะขับสนุก เร้าใจมากขึ้น

 

ผมลองขับแบบสลาลมตอนถนนว่างๆ ช่วงกลางคืน ไม่มีอาการวาบหวิวให้รู้สึก

เช่นเดียวกับตอนเข้าโค้งหนักๆ หรือกระชากเปลี่ยนเลนแรงๆ รับมือได้ทุกสถานการณ์จริงๆ

รุ่นนี้ไม่มีแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย หากอยากสนุกมากขึ้นต้องตบคันเกียร์ไปด้านซ้าย ขยับขึ้นเป็นลดเกียร์ ขยับลงเป็นเพิ่มเกียร์

พวงมาลัยแม่นยำ บวกกับตัวรถไม่ยาวมาก มุดเข้าช่องว่างระหว่างพื่อนร่วมถนนง่ายขึ้น

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,800 x 4,526 x 1,420 ม.ม.

เห็นความสูงแล้วถือว่าเตี้ยพอสมควร ทำให้การเข้า-ออกตัวรถลำบากนิดๆ โดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลัง

รอบคันมีเซ็นเซอร์ติดตั้งมาให้ หากจอดติดไฟแดงแล้วรำคาญเสียงเตือนตอนมีรถจักรยานยนต์โฉบเข้าใกล้ สามารถปิดการเตือนได้

ระบบตัดเครื่องยนต์อัตโนมัติเพื่อประหยัดน้ำมันก็ปิดได้เช่นกัน

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีมาให้พอสมควร อาทิ ถุงลมรอบคัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC)

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) เซ็นเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบช่วยนํารถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ฯลฯ

โดยรวมแล้วเป็นรถขับสนุก แม้ไม่ได้ซิ่งโหดมากนัก แต่เท่าที่ให้มาก็เหลือเฟือแล้วครับ แถมภาพลักษณ์ก็ดูสปอร์ตจ๋าทีเดียว

บีเอ็มดับเบิลยู “218i Gran Coupe M Sport” ราคา 2,399,000 บาท (รวมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)