ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 กันยายน - 1 ตุลาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | หลังลับแลมีอรุณรุ่ง |
ผู้เขียน | ธงทอง จันทรางศุ |
เผยแพร่ |
เมื่อในราวสองเดือนที่ผ่านมา ผมมีกิจธุระไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปค้างแรมแค่หนึ่งคืนแล้วก็กลับพระนคร
ข้อที่แปลกใจมากก็คือ วันที่ผมเดินทางเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เชื่อหรือไม่ครับว่าห้องพักตามโรงแรมต่างๆ ในอำเภอเมืองเต็มเกือบทุกโรงแรม ทำให้ผมงุนงงสงสัยมากว่า ผู้คนเขามาทำอะไรกันที่จังหวัดนี้
ถามใครก็ได้คำตอบแบบเดียวกันว่า เขามาหา “ไอ้ไข่” กันทั้งนั้น
ผมเป็นคนตกยุคตกสมัยเต็มที ต้องซักไซ้ไล่เลียงกันอยู่นานจึงได้ความว่า ไอ้ไข่เป็นรูปไม้แกะสลักเด็กชายอายุประมาณแปดถึงสิบขวบ อยู่ที่วัดเจดีย์ อำเภอสิชล ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เวลานี้กำลังมีชื่อเสียงในเรื่องของการให้โชคลาภ
หรือที่พูดกันโดยย่อว่าให้หวยนั่นเอง
สิทธิการิยะ ท่านว่า การบูชาไอ้ไข่ วัดเจดีย์ เวลาจะบนบานให้ใช้ธูป 3 ดอก แล้วอธิษฐานจิตก็เป็นอันเสร็จพิธี
แต่เมื่อสำเร็จผล ให้แก้บนด้วยของที่นำมาบนและจุดธูปเพียง 1 ดอกเท่านั้น
ของแก้บนที่ไอ้ไข่ชอบ มีตั้งแต่ขนมเปี๊ยะ น้ำแดง ชุดทหาร ตำรวจ ไก่ปูนปั้น หนังสติ๊ก ของเล่น และประทัด
ดูน่ารักน่าเอ็นดูเหมาะกับการบนบานศาลกล่าวกับเด็กอายุ 10 ขวบจังนะครับ
ตรงนี้ผมขอพูดนอกเรื่องไปเสียหน่อยว่า ผมเห็นตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เจ้าพ่อเจ้าแม่หลายแห่ง มีผู้นิยมนำ “ม้าลาย” ไปถวาย
ธรรมเนียมนี้เลยเถิดไปจนถึงศาลของพระผู้เป็นเจ้าหลายองค์ด้วย ผมนึกในใจว่าสัตว์เทพพาหนะ แต่ก่อนร่อนชะไรมีอยู่แค่พญาหงส์ พญาครุฑ หรือโคนนทิ หรือลงมาถึงชั้นเทวดาอีกแถวหนึ่ง พระอินทร์ก็ทรงช้างเอราวัณ พระพายทรงม้า หรือพระเพลิงทรงระมาดหรือแรด อะไรทำนองนี้ ตามตำราของเรา
แต่ก่อนไม่เคยปรากฏว่ามีม้าลายเป็นสัตว์พาหนะของเทวดาองค์ใดเลย เพราะคนไทยไม่เคยรู้จักม้าลายครับ
ม้าลายที่มีสีขาวสลับดำแบบนี้มาจากแอฟริกา ไม่ใช่สัตว์พื้นบ้านของเรามาแต่ดั้งเดิม
เวลาเอารูปม้าลายไปถวายท่าน พระผู้เป็นเจ้าและเทวดาทั้งหลายท่านคงงงอยู่เหมือนกันว่ามีตัวอะไรหว่า หน้าตาพิลึกกึกกือเต็มที
แต่ตอนนี้เห็นจะคุ้นหน้ากันแล้วกระมัง
กลับจากตรอกซอกซอยมาอยู่บนถนนใหญ่อีกครั้งครับ
เรากำลังพูดค้างกันถึงเรื่องเมืองนครศรีธรรมราชว่าช่วงนี้ขายดีเหลือเกิน นอกจากประสบการณ์ที่ได้เห็นด้วยตัวเองว่าเครื่องบินก็เต็ม โรงแรมก็เต็มแล้ว เมื่อไม่กี่วันมานี้อ่านข่าวทางด้านเศรษฐกิจเขารายงานว่า ในแต่ละเดือนมีคนเดินทางไปนครศรีธรรมราชเป็นแสนคน ทำให้เงินเดินสะพัดมาก เพราะคนไปแล้วก็ต้องจับจ่ายใช้สอย ไม่ใช่เฉพาะแค่ที่วัดเจดีย์ แต่พลอยทำให้คนทั้งจังหวัดมีรายได้เพิ่มขึ้นไปด้วย
เป็นการกู้ภัยด้านเศรษฐกิจที่ได้ผลชะงัดดีนักแล
พอมีข่าวอย่างนั้นก็มีคนเสนอว่า จังหวัดต่างๆ ควรโฆษณาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำนองเดียวกับไอ้ไข่ เพื่อให้คนไปบนบานศาลกล่าวขอโชคลาภโดยเฉพาะอย่างยิ่งขอหวย จังหวัดละสักหนึ่งหรือสองแห่ง ถ้าทำได้แบบนี้เศรษฐกิจก็จะเฟื่องฟูไปทั้งประเทศ
แบบนี้ไม่ต้องมีรัฐมนตรีกระทรวงการคลังก็ได้ครับ เราว่าของเรากันเองก็พอเอาตัวรอดได้
แต่ต้องระวังให้ดีนะครับ เพราะของอย่างนี้มียุคสมัย
เมื่อปีหรือสองปีก่อนใครต่อใครก็พากันไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อไป “คำชะโนด” นัยว่ามีพญานาคอยู่ที่นั่น ผู้คนก็ล้นหลามหลั่งไหลกันไปขอหวย ได้บ้างเสียบ้างไปตามท้องเรื่อง
แต่มาถึงวันนี้คำชะโนดออกจะตกอันดับไปเสียแล้ว จับหางเสียงที่คนคุยกันได้ความว่าไอ้ไข่กำลังมาแรง
ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณเตือนใจเราว่า “หวย” เป็นของสำคัญนักหนา วันไหนหวยออก ร้านค้าหลายแห่งไม่เป็นอันทำมาหากิน คนกว่าครึ่งค่อนประเทศใจคอรวมกันอยู่ที่เดียวคือที่สำนักงานสลากกินแบ่งของรัฐบาล
อันว่าการพนันนั้นเห็นจะเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์มาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว จะห้ามปรามกันให้เด็ดขาดเห็นจะไม่เป็นผลสำเร็จ อย่างไรเสียก็คงมีการลักลอบเล่นกันจนได้ ว่ากันว่านักโทษอยู่ในเรือนจำ ยังสามารถพนันกันได้เลยว่าเครื่องบินที่จะบินผ่านเรือนจำลำต่อไปเป็นของสายการบินอะไร
รัฐบาลของทุกประเทศก็ยอมรับความจริงข้อนี้แล้วก็อนุญาตให้มีการพนัน หรือมิเช่นนั้นก็สถาปนาตัวเองเป็นเจ้ามือการพนันเสียเลยให้รู้แล้วรู้รอดไป
ความยากมีอยู่นิดเดียว คือจุดสมดุลอยู่ที่ใด ถ้ามากเกินไป ผู้คนก็ไม่เป็นอันทำมาหากิน หวังแต่รวยทางลัด
ถ้าน้อยเกินไป คำว่าน้อยในที่นี้คือการพนันที่ถูกกฎหมายน้อยเกินไป การพนันที่ผิดกฎหมายก็จะเกิดขึ้นมากเป็นปฏิภาคผกผันกัน
ซึ่งไล่จับเท่าไหร่ก็ไม่มีวันจับได้หมด
อย่างไรก็ดี มีข้อคิดว่า ในขณะที่รัฐบาลยอมให้มีการพนันเกิดขึ้นในระดับที่รับได้ รัฐบาลที่มีคุณภาพมีฝีมือก็ต้องพยายามส่งเสริมการทำมาหากินโดยความซื่อสัตย์สุจริต ส่งเสริมโอกาสให้คนเบี้ยน้อยหอยน้อยสามารถเลี้ยงชีพได้ในช่องทางที่เป็นสัมมาอาชีวะ
คนยากจนต้องมีความสามารถที่จะเข้าถึงทุนและทรัพยากรการผลิตได้อย่างเหมาะสม
ผู้ที่เป็นเจ้าของทุนรายใหญ่ต้องไม่เป็นคนที่ค้าขายแบบสลากกินรวบ คือกินเสียคนเดียวไม่แบ่งใคร
ถ้าผู้คนมีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแล้วเป็นเบื้องต้น ส่วนที่จะมีความฝันร่ำรวยเป็นเศรษฐีด้วยการแบ่งเงินไปซื้อล็อตเตอรี่ของรัฐบาลหรือซื้อหวยใต้ดินบ้างก็ไม่ห้ามกันครับ
แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนว่า คนยิ่งจน หวยก็ยิ่งขายดี
เศรษฐกิจในยุค New Normal นี้ ดูเหมือนจะเดินเข้าไปในทางตำราที่ว่า
วันที่ผมเขียนบทความเรื่องนี้ประเทศไทยยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าวันที่มติชนสุดสัปดาห์เล่มนี้วางตลาด เราหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเจอแล้ว
ขออนุญาตฝากความคิดเห็นของคนตัวเล็กตัวน้อยคนหนึ่งคนนี้ไปให้ท่านรัฐมนตรีอ่านให้ดูนะครับ
เผื่อท่านจะให้ความหวังกับผมได้บ้าง
หรือถ้าท่านไม่มีนโยบายอะไรจะแถลง ให้เลขท้ายสองตัวสามตัวมาก็ยังดี บนหรือล่างผมไม่เกี่ยงครับ
จะได้พอชุ่มชื่นหัวใจในยามนี้