ส.ส.ร.-รัฐธรรมนูญในฝัน ก้าวที่ “ไกล” ของ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร”

“รัฐธรรมนูญที่สร้างขึ้นมา เพื่ออภิสิทธิ์ชนคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อปกครองและกดขี่ให้คนอีกกลุ่มหนึ่งยอมให้ปัญหาทั้งหมด ปัญหาโครงสร้างต่างๆ อยู่ในฝุ่นใต้พรม ต้องปล่อยให้กลุ่มอภิสิทธิ์ชนเป็นเหลือบไรเกาะกินประเทศนี้ เอาเปรียบกินรวบประเทศนี้แต่เพียงผู้เดียว นี่แหละคือปัญหา ใครบอกว่ารัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวกับปากท้อง นี่มันยิ่งกว่าปากท้อง”

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหารัฐธรรมนูญปี 2560 ที่นำมาสู่อีกหลายวิกฤต หลายปัญหาทางการเมืองในปัจจุบัน

วิโรจน์มองว่า วันนี้เราเห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้ว อย่างคดีเหมืองทองคำตกลงแล้วคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นคนคนเดียวกันนี้ วันก่อนบอกไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกล่าวว่าจะรับผิดชอบเอง มาถึงวันนี้ไม่รับผิดชอบแล้วจะเอาเงินหลวงมารับผิดชอบค่าดำเนินการคดีเรื่องเหมือง ในหลักร้อยล้าน และยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินสู้คดีอีกเท่าไหร่ อันเป็นผลพวงคำสั่งของคุณประยุทธ์ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือถ้าแพ้คดี จะต้องจ่ายอีกกี่หมื่นล้าน เพราะความเสียหายจากคุณประยุทธ์

คำถามคือ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้” เราปล่อยให้คนที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีอำนาจสั่งการออกคำสั่งปกครองบังคับทุกคนในชาติได้อย่างไร

ปล่อยให้คนหนึ่งคน ที่ในวันนี้ไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแต่ถืออำนาจบาตรใหญ่ลุแก่อำนาจสั่งให้คนนั้นคนนี้ทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ตามอำเภอใจของตัวเองโดยไม่มีความรับผิดชอบได้อย่างไร

วันนี้บอกประยุทธ์คนเดิมได้ตายไปแล้ว แม้ว่าบางคนอยากจะให้ประยุทธ์คนนั้นตายไปจริงๆ ก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ประยุทธ์คนนี้ยังอยู่และยังอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ไม่พร้อมจะรับผิดชอบอะไรที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ในฐานะหัวหน้ากบฏ-ก่อรัฐประหารเลยนะ ถ้าคุณไม่กล้าที่จะรับผิดรับชอบ แล้ววันนั้นคุณสั่งการได้อย่างไร

“เราเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Spiderman ที่ว่าความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับพลังที่ใหญ่ยิ่ง แต่ (นายกฯ ไทยเรา) นี่จะเอาแต่อำนาจ แต่ไม่เอาความรับผิดชอบไม่ได้”

คดีเหมืองเป็นแค่หนึ่งในเคสของปัญหาของความบิดเบี้ยวในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังมีอีกหลายกรณีเลยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเกิดขึ้นกับองค์กรอิสระ

ยกตัวอย่างเช่น การสรรหาคุณสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ที่คณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช.ระบุว่า การเคยดำรงตำแหน่ง สนช.มาก่อน ไม่เข้าลักษณะต้องห้ามเป็นได้ แต่ในกรณีของ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก คณะกรรมการสรรหา กสม.บอกว่า เคยเป็น สนช.มาก่อน เข้าลักษณะต้องห้ามเป็นไม่ได้

เราจะเอาระบบลักลั่นแบบนี้หรือ ประเทศเราจะเอาอย่างนี้หรือ คือฉันจะเอาใคร ฉันต้องการอะไรก็จะเอากฎหมายมาเพื่อประโยชน์ให้ตัวเองให้ได้ตามอำเภอใจ

แต่ถ้าฉัน-กลุ่มบุคคลอภิสิทธิ์ชนไม่เอาอย่างนี้ก็จะเอากฎหมายมา “ด้น” เพื่ออ้าง-เพื่อปฏิเสธหรือเล่นงานฝ่ายตรงข้ามฝ่ายที่คิดไม่ตรงกับตัวเองไปเรื่อยๆ แบบนี้ มันไม่ได้!

 

นี่ยังไม่นับคดีนาฬิกายืมเพื่อน ที่ผ่านมา ป.ป.ช.มีแต่กระดาษเปล่า สุดท้ายก็จบที่ยืมใช้คงรูป มันค้านความรู้สึกของประชาชนเต็มไปหมด

นี่ยังไม่นับรวมนโยบายของรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐที่บอกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท อาชีวะเงินเดือน 18,000 ปริญญาตรี 20,000 บาท งดเว้นภาษีแม่ค้าออนไลน์ ลดภาษีคนธรรมดา นโยบายอะไรต่างๆ เต็มไปหมด สุดท้ายแล้วนโยบายเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในคำแถลงของรัฐบาลและไม่เคยถูกทำจริงๆ เลยในทางปฏิบัติ ทั้งที่รัฐบาลอยู่ในตำแหน่งหน้าที่มาปีกว่าแล้ว

“จะเอาระบบแบบนี้หรือ ที่นักการเมืองพูดอะไรก็ได้ สุดท้ายแล้วไม่ต้องทำก็ได้ แต่ถ้าเป็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามผมว่าถูกเล่นงานแล้ว”

ส.ส.วิโรจน์กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างการระบาดของ covid-19 ทำให้เกิด New Normal คำถามคือแผนปฏิรูปประเทศ-แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีได้มีการปรับยุทธศาสตร์ปรับแผนให้สอดคล้องกับวิถีใหม่หรือยัง

“คุณไปบังคับไปบอกให้ประชาชนคนตัวเล็กๆ ให้ New Normal แต่แผนยุทธศาสตร์ชาติวันนี้ แผนปฏิรูปประเทศเป็นตราสังมัดประเทศ เหนี่ยวรั้งประเทศไม่ให้พัฒนา เพื่อตรึงความเหลื่อมล้ำและสร้างสถานะพิเศษให้กับอภิสิทธิ์ชนอย่างไม่จบไม่สิ้นอย่างนี้ นี่ไงคือปัญหาของรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น”

นี่จึงเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างขึ้นมาเพื่ออภิสิทธิ์ชนคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อปกครองและกดขี่ให้คนอีกกลุ่มหนึ่งยอมให้ปัญหาทั้งหมด ปัญหาโครงสร้างต่างๆ อยู่ในฝุ่นใต้พรม ต้องปล่อยให้กลุ่มอภิสิทธิ์ชนเป็นเหลือบไรเกาะกินประเทศนี้ เอาเปรียบกินรวบประเทศนี้แต่เพียงผู้เดียว นี่แหละคือปัญหา

ใครบอกว่ารัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวกับปากท้อง นี่มันยิ่งกว่าปากท้อง มันเป็นปากท้องจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งแล้วส่งผลต่ออีกรุ่นหนึ่งต่อไปด้วยซ้ำ เพราะความเหลื่อมล้ำมันจะสืบทอดต่อไปเรื่อยๆ และเราไม่มีทางที่จะลืมตาอ้าปากได้เลย

คนที่รวยก็จะรวยอยู่วันยังค่ำ เกิดกี่ชาติก็จะรวย

ส่วนคนที่จน เกิดก็จน ตายก็จน ลูกที่เกิดมาก็จน หลานเหลนก็จน จนซ้ำจนซ้อนแล้วมันจะเป็นอย่างนี้ กฎหมายที่ลักลั่น หลายมาตรฐาน พวกเขาทำอย่างไรก็ถูก ไม่ใช่พวกเขาก็แล้วแต่ชะตา มีชนักปักหลังเอาไว้ หัวอ่อนหน่อยยอมรับใช้ก็รอด

ไม่ต้องไปดูไกล แค่คนในพรรคเดียวกับเขาออกมาให้สัมภาษณ์ บอกว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อก หลังปรับ ครม. ปรากฏว่าคดีของภรรยาก็ถูกดันขึ้นมา ใครเรื่องมากนักก็เจอ เรื่องสนามฟุตซอลก็มา เราจะเอาแบบนี้หรือ?

แต่พอยอมแล้วทุกอย่างก็จะเงียบ คดีก็จะหายไป

เราก็ต้องถามว่าองค์กรอิสระในวันนี้ ทำหน้าที่ได้ดีจริงหรือไม่ นี่คือพิษร้ายและกลไกสามานย์ที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งสิ้น ถ้าไม่ล้างไม่ยกเลิกทั้งฉบับ ประเทศเราไปต่อไม่ได้ จะถูกเหนี่ยวรั้งให้ความเหลื่อมล้ำมันปกคลุมประเทศอยู่ แล้วคนที่เดือดร้อนทุกข์ยากก็คือประชาชน คนส่วนใหญ่ทั้งสิ้น

นี่แหละคือปัญหาของรัฐธรรมนูญที่เราเห็นได้ในปัจจุบันว่ามันส่งผลอย่างไร

สําหรับ “รัฐธรรมนูญในฝัน” ของ ส.ส.วิโรจน์ คือรัฐธรรมนูญที่มีที่มาจากประชาชน ตอนนี้เราพูดกันถึงเรื่อง ส.ส.ร. จนหลายคนตอนนี้พูดว่าถ้าเรามีสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้วจะจบเลย ผมมองว่ามี ส.ส.ร.ไม่ใช่ว่าจะจบ

เราต้องถามก่อน มันก็เหมือนกับการได้ข้าวมาจานหนึ่ง ถามว่าข้าวจานนี้อร่อยไหม กินอิ่มหรือเปล่า กินแล้วถูกใจหรือไม่ มีอยู่สามประเด็น คือ

1. ที่มา ส.ส.ร.เป็นอย่างไร ถ้า ส.ส.ร.จะตอบโจทย์ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% พวกคุณต้องให้เกียรติประชาชน อย่าดูถูกประชาชน และให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาสูงสุด ธรรมนูญของประเทศให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งทางตรงทั้งหมด

ประการที่ 2 คุณสมบัติของผู้สมัครจะต้องเปิดกว้าง วันนี้ถ้าเราฟังนักเรียน-นักศึกษา สิ่งที่เขาพูด สารที่เขาพยายามจะส่งจะสื่อออกมา เรายืนยันได้แล้ววันนี้ว่าเขามีความเป็นผู้ใหญ่และมีข้อมูล มีการเปรียบเทียบ เขาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่ดีเทียบเท่าผู้ใหญ่ ไม่ใช่สิ บางทีเหนือกว่าผู้ใหญ่บางท่านด้วยซ้ำ

วันนี้เราต้องเปิดกว้าง ไม่ใช่ว่าต้องเอาอายุ 25 วันนี้ผมคิดว่า ส.ส.ร.ต้องอายุ 18 ปี แล้วไม่จำกัดวุฒิการศึกษาด้วย เพราะในยุคในสมัยนี้ คนมีความรู้ ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิอีกต่อไป ไม่ได้เป็นยุคที่ต้องเอาใบปริญญา แต่เป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และทักษะที่มีอยู่

ดังนั้น ส.ส.ร.ต้องเปิดกว้างทั้งอายุและวุฒิ เพื่อจะได้โอบรับความแตกต่างหลากหลายเอาไว้ ต้องมาจากหลายวัยและไม่ควรจำกัดวุฒิ เพื่อจะได้เปิดโอกาสให้สหวิชาชีพต่างๆ เขาด้วย ไม่ใช่เอาเฉพาะคนที่มีการศึกษาระดับสูงเท่านั้น

ประการที่ 3 อำนาจของ ส.ส.ร. ผมย้ำตรงนี้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีมาตรา 255 บังคับอยู่แล้ว ว่าการปกครองยังต้องอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงเป็นมิ่งขวัญภายใต้รัฐธรรมนูญ และที่สำคัญที่สุดคือประเทศไทย ยังคงต้องเป็นราชอาณาจักรที่เป็นรัฐเดียวที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ มาตรา 255 บังคับอยู่แล้ว

ดังนั้น ควรจะให้อำนาจกับ ส.ส.ร.สามารถที่จะทบทวนพิจารณาจะแก้หรือไม่แก้ก็แล้วแต่สภาร่างรัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้ทุกหมวด ทั้งนี้ เพื่อทำให้ธรรมนูญตัวนี้มีความทันสมัยสอดรับกับโลกในอนาคตและเป็นธรรมนูญที่เป็นฉันทามติของทุกคนทุกวัยทุกเพศทุกอาชีพ และทุกๆ คนในประเทศนี้

นี่คือรัฐธรรมนูญในฝันที่ผมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่อยากจะเห็น

ชมคลิปได้ที่