การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ : ทวีปที่สาบสูญ อาจแค่ฝันลมเลื่อมรอเสื่อมไป

เกือบสะดุ้งกับมือยื้อคว้าแขน

เหมือนไฟแล่นวูบเปลวเอี้ยวตามไหล่

เพื่อนเก่าคว้ามือจับ…อุ่นจับใจ

จนก้าวขาตามไปไม่รู้ทิศ…

 

เดินเข้าซอยรอยรถปรากฏเทือก

ตีนในเกือกย่ำไวไปติดติด

เหมือนบางแว่บรู้สึกในนึกคิด

ว่าชีวิตเล่นตลกโชคชะตา

 

อยากจะอยู่ทันใดต้องไปจาก

เชื่อว่าพรากกลับเป็นเห็นมาหา

ตัดรอนเพื่อไม่ให้ใดค้างคา

กลับหวนมาชิดใกล้ได้เคียงเดิน

 

ผ่านรั้วสูงมุ่งไปในอีกตรอก

แลเห็นดอกเก็ดถะหวาและตาเหิน

ซอมพอส้มแตกพุ่มขึ้นคลุมเนิน

สวยเหลือเกินวับวามงามจับใจ

 

แม้เขม่าควันฝุ่นวุ่นวายมาก

เสียงกระชากเครื่องยนต์บนทางใหญ่

แต่จ้องผ่านม่านเทามองเข้าไป

กลับไสวดอกดวงพวงมาลี

 

ราวระย้อยระย้าว่าจะหยาด

ด้วยคมบาดตาเพื่อนเฉือนถูกที่

มอบลออละอวลมวลไมตรี

ดั่งไม่มีสักเรื่องเคยเคืองกัน

 

ถึงห้องเช่าขาวมอมล้อมด้วยตึก

ค่อนข้างลึกเรือนไม้ในรั้วกั้น

เลขหน้าห้องสองสามเรียงตามนั้น

เพื่อนเบือนหันบอกว่า “ห้องห้านะ”

 

เปิดประตูกลิ่นอับจับจมูก

แต่กว้างฟูกดอกแดงแต่งสวยสะ

โต๊ะพับเตี้ยขากางวางกระทะ

สิ่งสัพพะจัดไว้ไม่ปะปน

 

“นั่งก่อนสิห้องเช่าเราอาศัย

ที่นอนไม่เก่าหรอกแค่ออกหม่น

ห้องเคยมีคนร่วมพักแต่หนักจน

เขาก็บ่นฉันก็เบื่อเหลือจะรับ

 

จึงแยกกันฉันบอกเขาออกเถอะ

ก่อนเขยอะขยะจะสุมจับ

น้อยใบแดงก็แต่งได้ให้เช้งวับ

พอรองรับเธอได้ไหมในชั่วยาม”

 

ฟังคำพูดละม้ายคล้ายเสียดส่อ

แต่เพื่อนก็กวาดปัดจัดช่องข้าม

คว้าน้ำเหยือกรินแก้วแล้วยื่นตาม

“มีอะไรอยากถามก็ถามมา”

 

ฉันยืนนิ่งงงงันเหมือนฝันอยู่

ตาสองคู่นานเนิ่นเผชิญหน้า

ครู่หนึ่งเพื่อนเคลื่อนไหวเดินใกล้มา

“รู้ไหมว่าเคยฝันถึงวันนี้”

 

“ฝันอะไร?” ฉันเพียงออกเสียงแผ่ว

“เป็นจริงแล้วเมื่อเจอเธอที่นี่”

“เธอต้องการพบฉัน…”

“ใช่ นั่นซี…

…ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดสักนิดเดียว”

 

มือสองข้างช่างหนักประจักษ์ว่า

บางวาจาเหมือนไฟในโลกเปลี่ยว

นิ้วอาบอุ่นจุนเจือเพื่อโค้งเคียว

จันทร์เสี้ยวเดียวเกี่ยวฟ้ามาแตะใจ

 

มีจันทร์เสี้ยวเกี่ยวฟ้าแหงนหน้าจ้อง

จากบานช่องหน้าต่างเปิดกว้างให้

ลมกลางคืนล่องลอดผ่านยอดไม้

ไกลแสนไกลมีภูเขาที่เราลา

 

เธอลาก่อนจรไกลในทางยาก

ด้วยลำบากขรุขระอนาถา

ฉันแบกความเจ็บช้ำต้อยตามมา

จากแดนป่าสู่เมืองแลกเรื่องกัน

 

เธอหวังจะลาขาดชาติภพเก่า

ให้สิ้นเศร้าสิ้นซากมุ่งบากบั่น

ฉันจะหนักเอาเบาสู้จะรู้ทัน

มานะมั่นเก็บใบแดงเพื่อแปลงทาง

 

จากทางเถื่อนเรือนตั้งหลังคารั่ว

ดีหรือชั่วกลั้วเกลือกขอเลือกบ้าง

จะกระแทกกะเทาะโลกเปราะบาง

จนสว่างใสวับสำหรับตน

 

มองจันทร์เสี้ยวเกี่ยวฟ้าเวลาดึก

ในรู้สึกเคยเหงามืดเศร้าหม่น

พลันจู่จู่รู้ร่วมอย่างท่วมท้น

เราสองคนแท้จริงเหมือนยิ่งนัก

 

มีกรงกรอบครอบเรากว้างเท่าฟ้า

ต่อหนีหน้าไปไหนในกั้นกัก

ที่ล่องหนในนามความชังรัก

คือประจักษ์ประจำย้ำแก่ใจ

เราคือวัชพืชตืดพยาธิ

 

หวังปราสาทงดงามเหนือหนามไหน่

อาจแค่ฝันลมเลื่อมรอเสื่อมไป

เมื่อตราบใดดินแล้งแห้งสิ้นดี

 

จันทร์รูปเคียวเกี่ยวฟ้าเวลาดึก

ยิ่งรู้สึกแจ่มชัดถนัดถนี่

จึงเมื่อเพื่อนเตือนให้นอนก่อนคืนนี้

ก็ถึงทีเก็บกลืนกล้ำซ่อนน้ำหนอง

 


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2