วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู / เสถียร จันทิมาธร / กระบวนท่า หักขวาน จมเรือ (54)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร

กระบวนท่า หักขวาน จมเรือ (54)

ความได้เปรียบเป็นอย่างมากของพรรคบูรพานทีคืออะไร ความได้เปรียบเป็นอย่างมากของเหมยฉางซูในท่ามกลางความขัดแย้งคืออะไร

คำตอบคือ การข่าว

คงจำกันได้ว่าในระหว่างการวิเคราะห์สถานการณ์ของอวี้หวังอย่างเคร่งเครียดมีหญิงสาวงดงามนางหนึ่งอยู่เรียงเคียงข้าง

นั่นก็คือ บทบาทของ “ฉินปันรั่ว”

“ฉินปันรั่วแห่งเรือนารีชม้าย คือคนที่องค์หญิงแห่งชนเผ่าฮว๋าซึ่งล่มสลายไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อนรับไว้เป็นศิษย์ นางได้รับความไว้วางใจจากอวี้หวังเป็นอย่างมาก ข้าสืบทราบมาว่า อนุภรรยาของขุนนางในราชสำนักทั้งสิ้น 15 คนล้วนเป็นคนของนาง

นี่คือรายชื่อ

เครือข่ายข่าวสารของนางละเอียดซับซ้อน ทว่ากงอวี่ได้ส่งคนของพวกเราแฝงเข้าไปในเครือข่ายนี้ได้สำเร็จแล้ว เพียงเจ้านายน้อยมีคำสั่ง ข้ามั่นใจว่าสามารถทำลายขุมกำลังของฉินปันรั่วได้”

“อย่าเพิ่งแตะต้องฉินปันรั่ว” นี่ย่อมเป็นคำสั่งจากเจ้านายน้อยเหมยฉางซู

“มีข่าวสารบางอย่างข้าไม่สะดวกส่งถึงอวี้หวังโดยตรง จำเป็นต้องอาศัยนางลำบากแทน ท่านกลับไปปรึกษากับกงอวี่มีรายงานสำคัญ 2 ชิ้นอยู่ที่ข้า พวกท่านหาวิธีสะกิดให้นางตรวจสอบให้ได้”

นี่ย่อมเป็นคำสั่งการ

 

1ทูตส่องอธรรมเซี่ยตงระหว่างทางถูกไล่ล่าเอาชีวิต ทุกคนเข้าใจว่าซิงกั๋วกงเป็นคนบงการ ความจริงกลับไม่ใช่

นักฆ่าเดนตายเหล่านั้นได้รับการว่าจ้างจากหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์โดยมีเจ้าบ้านจั๋วติงเฟิงเป็นผู้สั่งการโดยตรง

2 ผู้เฒ่าสามี-ภรรยาที่มาร้องเรียนถึงเมืองหลวง ทั้งที่ชราภาพขนาดนั้นแต่กลับสามารถหลบรอดจากนักฆ่าซึ่งผู้มีอันจะกินว่าจ้างมา กระทั่งผ่านมาถึงพื้นที่ซื่อชวนก่อนเข้าสู่เขตลุ่มน้ำบูรพา

นี่มิใช่เพราะพวกเขาเคราะห์ดีได้พบกับผู้กล้า แต่เป็นเพราะมีคนลอบคุ้มครองอยู่เบื้องหลัง

และผู้ลอบคุ้มครองอยู่เบื้องหลังเหล่านี้ก็ได้รับคำสั่งจากหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์เช่นกัน

ถ้ามองจากรายงานที่ขัดแย้งกัน 2 ชิ้นนี้จะทำให้สับสนได้ง่าย ข้าอธิบายให้ท่านฟังก็แล้วกัน พอเอ่ยถึงตระกูลจั๋วแห่งหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์ย่อมต้องคิดถึงหนิงกั๋วโหว เซี่ยอวี้ 2 ตระกูลนี้หลังจากมีบุตรชายร่วมกัน ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้น

จั๋วติงเฟิงเป็นชาวยุทธภพ เขาสอดมือยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ต้องได้รับการไหว้วานจากเซี่ยอวี้อย่างแน่นอน ท่านคิดดู เซี่ยอวี้อาศัยจั๋วติงเฟิงคุ้มครองคนแก่คนหนึ่งเข้าเมืองหลวงมาฟ้องร้องซิงกั๋วกง รู้สึกแปลกๆ หรือไม่

 

แปลกอย่างแน่นอนตามความเห็นของเหมิงจื้อ “แม้เซี่ยอวี้วางตัวเป็นกลาง แต่เซี่ยปี้ลูกชายเขาอุทิศตนรับใช้อวี้หวังอย่างเห็นได้ชัด

ซิ่งกั๋วกงเป็นกำลังสำคัญของอวี้หวัง

ดังนั้น บ้านตระกูลเซี่ยจะให้หมู่บ้านน้ำพุสวรรค์คุ้มครองคนที่จะมาฟ้องร้องซิงกั๋วกงได้อย่างไร เว้นแต่ว่า เซี่ยอวี้ความจริงแล้วเป็นคนของรัชทายาท”

ในความเห็นของเหมยฉางซู “คดีรุกล้ำที่ดินเมืองปินโจวความจริงสืบไม่ยาก ต่อให้คนธรรมดาสามัญก็ยังสืบได้อย่างง่ายดาย แต่องค์จักรพรรดิกลับส่งเซี่ยตงไปสืบ สุดท้ายนางไม่เพียงสืบทราบต้นสายปลายเหตุของคดีรุกล้ำที่ดินได้อย่างละเอียด ซ้ำยังมีผลพลอยได้ตามมา

นั่นก็คือ ได้รู้ว่าพวกที่ลอบคุ้มครองผู้เฒ่า 2 คนนั้นเข้าเมืองเป็นจั๋วติงเฟิงจัดส่งมา

ก็เหมือนกับท่าน นางคิดโยงไปถึงบ้านตระกูลเซี่ยพร้อมกับเข้าใจในบัดดลว่า ความจริงแล้วเซี่ยอวี้ก็คือแขนขาของรัชทายาท แต่เวลานี้เซี่ยอวี้ต้องการคงสภาพเหยียบเรือสองแคมเอาไว้ให้นานที่สุดเพื่อไม่ให้อวี้หวังล่วงรู้ถึงบทบาทที่เขาแสดงในคดีรุกล้ำที่ดิน จึงได้แต่หักขวานจมเรือ ปิดปากเซี่ยตงก่อนนางจะเข้าเมือง”

“เซี่ยตงรู้หรือไม่ว่าเซี่ยอวี้เป็นผู้บงการให้ลอบสังหารนาง”

“รู้”

“ประหลาดจริง ในเมื่อเซี่ยตงรู้ว่าเซี่ยอวี้จะฆ่าปิดปากนาง ไฉนกลับถึงเมืองหลวงตั้งนานยังไม่ยอมเปิดปากสักครึ่งคำ นี่ออกจะผิดจากนิสัยเลือดร้อนไม่ยอมเสียเปรียบใครของนาง” เหมิงจื้อตั้งข้อสงสัย

เหมยฉางซูก็เคยสงสัยเหมือนกัน แต่เมื่อหมกมุ่นครุ่นคิดก็ทราบสาเหตุ

 

เป็นสาเหตุที่เหมยฉางซูพร้อมเปิดให้เหมิงจื้อได้ร่วมรับรู้ “ปีนั้นเนี่ยเฟิงตายในสนามรบ คนที่ลำเลียงศพของเขามาให้นางก็คือเซี่ยอวี้ เพื่อเห็นแก่บุญคุณในครั้งนั้นเซี่ยตงยังคงอภัยให้เขาครั้งหนึ่ง”

เหมิงจื้อปวดแปลบทรวงอกขึ้นมาวูบหนึ่ง

แม้เขาทราบดีถึงฉากจบอันน่าอนาถในปีนั้น แต่รายละเอียดเป็นอย่างไรเขากลับไม่ชัดเจนมาตลอด และไม่เคยกล้าถามออกไปเช่นกัน

ยามนี้ได้ยินเหมยฉางซูเอ่ยถึงเนี่ยเฟิง แม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงชืดชาสีหน้าราบเรียบ แต่เหมิงจื้อไม่ทราบเพราะอะไรกลับรู้สึกเจ็บลึกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ คล้ายมองทะลุผ่านชั้นผิวหนังบอบบางนั้นลงไปได้เห็นเพลิงนรกกำลังแผดเผาอย่างโหดเหี้ยมในซอกหนึ่งของหัวใจดวงนั้น

ภาพเปลวไฟเต้นระริกแจ่มชัดเสียจนไม่อาจทนดูต่อไป