รายงานพิเศษ : “ระเบียบรัตน์” จัดเต็ม! วิพากษ์สังคมยุคโซเชียล ไลฟ์โชว์นม สังคมเสื่อม!

สังคมแห่งการโชว์นม โป๊เปลือย ภาพหลุดเป็นว่าเล่น ทั้งที่ตั้งใจให้หลุดและที่ถ่ายเก็บไว้ดูเองเล่นๆ หรือกระทั่ง (บาง) รายการสมัยนี้ที่ต้องมี “การโชว์เรือนร่าง” ที่บางครั้งรายการเหล่านั้นพยายาม “ปล่อยของ” ให้ได้มากที่สุด

รวมทั้งยุคนี้ที่เป็นยุคแห่งการ “ไลฟ์สด” ให้ดูให้โชว์กันแบบเรียลไทม์ จากสิ่งที่ควร “สงวนไว้” กลับปรากฏให้ได้เห็น สังคมออนไลน์คนดูกันเป็นแสนเป็นล้าน ซึ่งผู้คนในโซเชียลมีเดียก็ล้วนแสดงความคิดเห็นกันหลากหลาย บางคนรุมประณาม บางคนอยากได้ อยากดูเพิ่ม กระหน่ำแสดงความคิดเห็น “ใช้คำแบบดิบๆ” ไม่ต้องผ่านเซ็นเซอร์ใดๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง

เมื่อสังคม “ไร้ระเบียบ” เช่นนี้หลายคนคงนึกถึง “ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” (แม่แดง) นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข, อดีต ส.ว.จังหวัดขอนแก่น ภรรยา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงในรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทย

หลายคนรู้สึกว่าเธอผู้นี้หายหน้าหายตาไปนาน ซึ่งเมื่อก่อนนี้เวลามีข่าวโป๊เปลือย ผู้หญิงผู้ชายโชว์นั่นนี่ทีไร สื่อหลายสำนักก็อดไม่ได้ที่จะขอสัมภาษณ์สอบถามความคิดเห็นในฐานะที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องสถาบันครอบครัวและสิทธิของสตรี

“ระเบียบรัตน์” ยังคงจัดเต็มเช่นเคย หลังมีพวกไลฟ์สดโชว์สรีระเกลื่อนโลกออนไลน์ บางคนประกาศหาคู่ หาสามีคนที่… บางคนขายของแฝงๆ

ทันทีที่ได้กล่าวคำถามนี้กับระเบียบรัตน์ เธอเลือกตอบด้วยการ “ถอนหายใจแรงๆ!” ก่อนเอ่ยว่า

“มันมีรายการทีวี (ไลฟ์) พวกนี้นะและคนดูเยอะมาก และผู้ชายผู้หญิงที่เข้าไปสู่รายการนี้หน้าตาดีๆ กันทั้งนั้นเลย โฮ้! อ่อนใจเหมือนกัน กล้าที่จะทำอะไรต่อหน้าสาธารณะทั้งสรีระเหลือแค่จะถอดกางเกงในเท่านั้นเอง จริงๆ ถ้ากล้านักก็ใส่จีสตริงไปออกรายการเลย”

ระเบียบรัตน์มองว่า ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าไม่มี Demand แล้ว Supply ก็ไม่เกิด เพราะฉะนั้น สปอนเซอร์ที่วิ่งเข้าหารายการทีวีพวกนี้ มีเยอะมาก เพราะคนชอบดูอะไรแบบนี้

แต่ถ้าขอสปอนเซอร์มาทำเรื่องประเด็นสังคม ประเด็นเรื่องเอดส์ ประเด็นศีลธรรมคุณธรรม ประกาศไปเถอะค่ะ ขอไปเถอะ เงียบ!

ซึ่งเราจะไปตำหนิใครก็ไม่ได้เพราะสังคมมันเป็นแบบนั้นจริงๆ

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชน เมื่อผู้หญิงผู้ชายอายุไม่เท่าไหร่ ออกมาโชว์ทำอะไรเช่นนี้ แล้วเด็กเยาวชนที่เข้ามาดู กลายเป็นเหยื่อของสิ่งเหล่านี้ จะให้เด็กมาเดินตามสังคมแบบนี้ ของคนที่เรียกตัวเองว่า “เน็ตไอดอล” ทำให้หลายครอบครัวแต่งงานกันแต่ขอไม่มีลูก เพราะไม่อยากให้ลูกต้องมาเจอกับสังคมที่มีสภาพเช่นนี้

ฉะนั้น เมื่อผู้หญิงมีเรื่องอะไรพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่รับไม่ค่อยได้แม้กระทั้งผู้หญิงด้วยกันเอง

แต่ผู้ชายชอบมากเลย จะรู้สึกสนุกปากมาก แต่ถามว่าเขาจะเลือกคนพวกนี้มาเป็นลูกเป็นเมียหรือไม่? น่าจะน้อย ยกเว้นเมาแล้วก็พลาดท่า หรือถูกจับแต่งอะไรประมาณนั้น

ทีนี้พอเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นบุคคลที่เขาเรียกกันว่า “เน็ตไอดอล” หรือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงทั้งทางสังคม ทางการแสดง ทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ มันก็จะกลายเป็น “อาหารอันโอชะของสื่อ” ลงกันไม่หวาดไม่ไหว สนุกสนานกันมาก คนถูกลงก็ชอบใจเพราะสมปรารถนาแล้วที่เรื่องของเรามันดังไปทั่วเลย มีคนเข้าไปดูเป็นแสนเป็นล้านวิว

แต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป จะให้คนเขาคิดเหมือนเราไม่ได้ บางคนก็อาจจะรู้สึกอับอายว่าทำไมเรื่องของเรามันไปลงขนาดนั้นในสื่อ เราแค่ไลน์ในกลุ่มเพื่อนเราส่วนตัว หรือบางทีมันมีกรณีที่ดาราหรือใครที่เป็นนางแบบงดงามเนี่ยถ่ายรูปโป๊เปลือยตัวเองไว้ เซฟไว้ในเครื่องตัวเอง เพื่อจะเก็บไว้ดูว่าตอนแก่ตอนสังขารเยอะๆ อย่างอายุเท่าแม่แดง 66 ย้อนกลับไปดูอดีตว่าตัวเองจะแซบขนาดไหน โดยถ่ายตัวเองเก็บไว้ตอนอายุ 20 ต้นๆ แต่ดันหลุดก่อน ซึ่งแนวคิดแบบนี้เป็นแนวคิดที่อิสระ เราจะไปตำหนิเขาไม่ได้เขามีสิทธิที่จะถ่าย เพียงแต่ว่ามันพลาด มันหลุดไปแล้วในโลกโซเชียลมันกลายเป็นเหยื่ออันโอชะ ก็เลยกลายเป็นมีทั้งบวกทั้งลบ

ทางลบก็คืออับอายทั้งครอบครัว พ่อแม่เสียใจทำไมลูกถึงทำตัวแบบนี้ ตัวเองก็อับอาย กระทบไปถึงหน้าที่การงาน

แต่มีบางคนก็สะใจอยากให้ออกมาอย่างนี้ตั้งนานแล้ว คือซ่าอยากดัง อยากเป็นกระแส ประกาศที่จะทำโน่นทำนี่ มีโน่นมีนี่ อะไรอย่างนี้ ซึ่งมันอาจจะขัดกับสังคมไทยเรา

แต่ถ้าย้อนไปเมื่อก่อนสังคมเราปิด 100% เลย เราจะโป๊จะเปลือยเนี่ยก็โป๊เปลือยในบ้าน จะเห็นคนนุ่งกระโจมอก ใส่สไบเฉียง ใส่เสื้อคอกระเช้าก็ถือว่าโป๊

แต่เราอยู่ในขอบเขตในบ้าน แล้วสื่อก็ไม่ได้กว้างไกลอย่างสมัยนี้ ทั้งที่จริงแล้วในสังคมไทยผู้หญิงอาจจะได้รับความเสมอภาคที่สวยงามมากในตัวหนังสือ ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับบอกเสมอภาค ชายหญิงเท่าเทียมกัน แต่ถ้าพูดเรื่องจริงแล้ว ยังไม่ใช่

อย่างที่มีใครเคยพูดไว้ว่าอีก 170 ปีค่อยมาพูดถึงความเท่าเทียมชายหญิงในประเทศไทย

 

ระเบียบรัตน์ยังสะท้อนสังคมอีกว่า สังคมไทยเราเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่และผู้ชายเลือกที่จะครองรักครองเรือนมีหลายคนก็ได้ ถือว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัว (สูง)

แต่สำหรับส่วนตัวยังรับตรงนั้นไม่ได้ ยังอยากให้สังคมไทยเรามีครอบครัวเดียว เพราะมันไม่วุ่นไม่วาย ปัญหาต่างๆ ทั้งอาชญากรรม คอร์รัปชั่น สิ่งเลวๆ จะไม่เกิด และยังอยากให้ผู้หญิงไทยรู้จักรักนวลสงวนตัวมากกว่านี้ ผู้ชายก็ควรให้เกียรติเพศแม่ ให้เกียรติผู้หญิง อย่าดูถูกผู้หญิง สังคมมันถึงจะน่าอยู่

ทิ้งท้ายหลายคนอาจจะมองว่า ระเบียบรัตน์เป็น “ผู้หญิงที่น่ากลัว” แรง ดุ และตรง ต้องบอกว่าเวลาพูดให้สัมภาษณ์หน้าตามันออกมาหมด เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะหน้าตาเรามันโหดร้ายอยู่แล้ว หลายคนที่เห็นระเบียบรัตน์ทีไร ในสื่อก็ออกมาเฉพาะเวลามีเรื่องโป๊เปลือย แล้วพูดแต่ละครั้งก็แลดูว่าโหด แรง ต้องบอกว่าจริงๆ ไม่ได้อยากที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคล “ไปหนักอะไรหัวกับคุณระเบียบรัตน์” เขาด่าขนาดนั้นเลยนะ

มีคนไปตั้งกระทู้ มอบฉายาให้ว่า “ยัยไดโนเสาร์”

บางคนเรียก “ป้าได” ตอนแรกนึกดีใจนึกว่าไดอาน่า แต่ปรากฏว่าไดโนเสาร์ เป็นพวกหัวโบราณล้านปี

ต้องย้ำว่าจริงๆ แล้วไม่อยากไปยุ่งเรื่องสิทธิ แต่มันมีเรื่องสถาบันผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง เราต้องพูดเพื่อปกป้องจุดๆ นี้ อยากให้ลูกๆ มีคุณค่า ณ วันหนึ่งอายุแค่ 20 กว่าหมดคุณค่าแล้ว ถ้าเราทำตัวแบบนี้ แล้วผู้ชายเขาไม่เอา

แต่เชื่อว่าผู้ชายไทยน่ารักที่สุดในโลกแล้ว จะให้ดิฉันไปมีสามีเป็นชาติอื่นเราก็คงไม่เลือก!!