ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 มีนาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง |
เผยแพร่ |
สมุนไพรเพื่อสุขภาพ/โครงการสมุนไพรเพื่อการพึงพาตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org
สมัครใจอยู่บ้าน
สุขสำราญกับสมุนไพร
“อย่าประมาท แต่ก็อย่าประสาทด้วย” พระไพศาล วิสาโล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทยกล่าวเตือนสติเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เมื่อวันประชุมสามัญประจำปี 11 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา
“สถานการณ์นี้คาดเดาไม่ถูก เพราะเป็นของใหม่ ผลกระทบก็ค่อนข้างแรง จริงๆ โลกก็มีประสบการณ์กับโรคระบาดนี้มาโดยตลอด ไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรงที่สุดก็เมื่อ 100 ปีที่แล้ว คนตายประมาณ 20-50 ล้านคน ครั้งนี้แม้ว่าโควิด-19 รุนแรงน้อยกว่าเมื่อ 100 ปีที่แล้ว แต่ว่าผลกระทบก็กว้างไกล อิตาลีปิดประเทศ หลายเมือง หลายประเทศก็ยุติการเดินทาง หรือการชุมนุมต่างๆ บ้านเราก็คงมีสถานการณ์ทำนองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ก็คงลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าช้าหรือเร็ว จนกว่าจะถึงจุด peak ก็ให้ดูแลตัวเองให้ดีอย่าประมาทแต่ก็อย่าประสาท
ถ้าประมาทก็เป็นภัยกับตัวเราและเป็นภัยกับคนอื่นด้วย ก็คือแพร่เชื้อไปโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ถ้าประสาทก็สร้างปัญหาให้คนเหมือนกัน ไปกว้านซื้อหน้ากากอนามัยจนขาดตลาด จนคนที่ต้องใช้จริงๆ ไม่มีใช้ คนที่เป็นหวัด เป็นวัณโรค หรือคนที่ดูแลเขา หมอ พยาบาลไม่มีหน้ากากอนามัยใช้ ก็เป็นเพราะความประสาทของผู้คน รักษาใจของเราอย่าให้ตื่นตระหนก รักษาความเป็นมนุษย์ของเราให้ได้”
ดูกันแล้วสังคมไทยกำลังเดินมาถึงให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมรวมกลุ่มและเดินทางไปไหนมาไหนน้อยลง หรือให้อยู่กับบ้าน ทำงานออนไลน์ ฯลฯ มากขึ้น
บางคนบอกว่าอดทนวันนี้ จะสุขสบายวันหน้าแน่นอน จึงชวนผู้อ่านตั้งสติ ลดความตื่นตระหนก
มาสนุกกับการปรุงอาหารสมุนไพร หรือปรุงสมุนไพรในครัวเรือน เพื่อดูแลสุขภาพในวันที่อยู่แต่ในบ้าน
หลายคนแห่ไปซื้อของกักตุน แต่ทางมูลนิธิเชื่อมั่นว่าเมืองไทยไม่ขาดแคลนอาหารแน่นอน ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ประเทศเราเป็นแหล่งผลิตอาหารชั้นนำของโลก
สถานการณ์ไวรัสอาจทำให้ยากลำบากในการขนส่ง แต่กำลังการปลูกผัก ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ยังทำได้แน่นอน
จึงเชิญชวนไปตลาดด้วยสติปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับการไปที่คนอยู่กันมากๆ แล้วไปหาซื้อกะเพราสดมากินกัน
งานศึกษาวิจัยสมัยใหม่พบว่า กะเพรามีสารออกฤทธิ์ช่วยให้คลายความเครียดหรือทำให้เรามีความสุขขึ้น
ผัดกะเพราใส่เนื้อสัตว์ไม่ต้องมากแต่ใส่กะเพรามากๆ กินกับไข่ดาว ข้าวร้อนๆ ผัดใส่พริกเผ็ดๆ
เชื่อว่ากินแล้วอร่อยและมีความสุขแน่นอน
กะเพราเป็นยาสมุนไพรทำเป็นเครื่องดื่มประจำบ้านได้ด้วย เช่น ต้มน้ำกิน วิธีนี้มีการใช้แพร่หลายในอดีต ถือว่าเป็นยากลางบ้าน การต้มน้ำยากะเพราทำให้ถูกวิธีมีกลิ่นหอม คงฤทธิ์ยาคือน้ำมันหอมระเหยไว้
คนโบราณจึงแนะว่า ให้เอากะเพราทั้งใบและก้านมาสัก 1 กำมือ ล้างน้ำ แล้วใส่ลงหม้อ เติมน้ำพอท่วมยา ปิดฝาต้มให้เดือดเพียง 5 นาที ให้รินน้ำยาแบบอุ่นๆ และให้จิบกินไปทีละนิด ใช้แก้อาการท้องอืด
หากอยู่บ้านสมัครใจกักตัวเอง นั่งๆ นอนๆ แล้วท้องอืด ก็จะบรรเทาได้ดี แนะนำให้กินแต่น้อยอย่ากินมากไป รสมันเผ็ดร้อนมาก
กินมากไม่ดีท้องจะร้อนหรือกลายเป็นปวดท้องได้
เมนูที่สุดยอดในวัฒนธรรม อยู่บ้านทั้งทีมีเวลาตำน้ำพริกกินแน่นอน สมุนไพรที่ใช้กับน้ำพริกมีมากมาย ขอเชิญชวนเลือกสมุนไพรหลักๆ สัก 9 ชนิด ให้เลขมงคลให้ชีวิตปลอดภัย เชิญไปตลาดหาได้แน่ไม่มีของหมด ได้แก่
- พริก จะเป็นพริกขี้หนู (Capsicum frutescens L. (C.minimum Roxb.)) หรือพริกชี้ฟ้า (Capsicum annum L. var. acuminatum Fingarh) มีสรรพคุณหลัก รสเผ็ดร้อน เป็นยาขับลม บำรุงธาตุ ช่วยย่อย และเจริญอาหาร
- กระเทียม (Allium sativum Linn.) คืออาหารสมุนไพรสืบเนื่องมาหลายพันปี ปรุงกินเป็นยาอายุวัฒนะ กินบำรุงร่างกาย ปัจจุบันมีการใช้ดูแลสุขภาพเกี่ยวกับช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด ป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด แก้ไข้หวัด ใช้กำจัดเชื้อราพวกกลากเกลื้อนได้ด้วย
- หอมแดง (Allium ascalonicum ) ก็เป็นสมุนไพรที่มนุษย์รู้จักนำมาใช้ประโยชน์มานานนับพันปีไม่น้อยกว่ากระเทียม สรรพคุณอันโดดเด่น แก้คัดจมูกจากหวัดหรือภูมิแพ้
- กระชาย (Rotunda (L.) Mansf.) ใครก็รู้จัก หมอยาดั้งเดิมยกให้เป็นโสมไทย เพราะมีถิ่นกำเนิดในแถบบ้านเราลองเคี้ยวรากหรือเหง้ากระชายดูจะพบกับรสร้อนเผ็ดขม สรรพคุณใช้แก้ปวดมวนในท้อง แก้บิดมูกเลือด ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ลมจุกเสียด และนิยมกินบำรุงกำลัง
- ตะไคร้ (Cymbopogon citratus (DC.) Stapf.) ใส่ในต้มยำทำแกงต่างๆ น้ำตะไคร้รสอร่อย สรรพคุณ มีรสฉุน สุขุม แก้หวัด ปวดศีรษะ ไอ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ บำรุงไฟธาตุ ทำให้เจริญอาหาร ขับปัสสาวะได้
- มะขาม (Tamarindus indica L.) หมายถึงมะขามเปรี้ยวเป็นยาโบราณ ฝักอ่อนทำน้ำพริก ฝักดิบทำมะขามแช่อิ่ม ใบอ่อนใบแก่ กินได้และใช้รักษาโรคผิวหนัง แก้ไอ ขับเสมหะ มะขามเปียก เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ไอ ขับเสมหะ ฯลฯ น้ำมะขามเปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นเครื่องดื่มช่วยลดความร้อนในร่างกายด้วย
- มะนาว (Citrus aurantifolia (Christm.) Swingle) ลูกกลมๆ ให้รสเปรี้ยวในอาหารไทยนี้มีความสำคัญยิ่งนัก น้ำมะนาวมีกรดที่ดีต่อร่างกาย ช่วยลดไข้ แก้กระหายน้ำ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ และช่วยบำรุงผิวพรรณด้วย
- ข่า (Alpinia galanga (L.) Willd) ใครเคยกินน้ำพริกข่า ตำเมี่ยงข่าไก่ ฯลฯ เชื่อว่าชอบแน่ๆ ข่ามีรสเผ็ดร้อน แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และขับลม ลดการอักเสบ แก้ท้องเสีย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และฆ่าเชื้อราด้วย
- มะเขือพวง (Solanum torvum Sw.) นำมาตำน้ำพริกกะปิเพื่อให้รสกลมกล่อมต้องใส่มะเขือพวง เพราะรสขมและขื่นน้อยๆ จะช่วยลดรสแหลมๆ ของเครื่องปรุงอื่นให้อร่อยยิ่งขึ้น มีงานศึกษาพบว่าเส้นใยอาหารในมะเขือพวงมีส่วนช่วยให้ลดน้ำตาล ลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และช่วยความสมดุลของระบบขับถ่าย
ถ้าจำเป็นต้องสมัครใจอยู่บ้าน 14 วัน บอกได้เลยว่า มีสมุนไพรให้ทำกินเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มได้ครบทุกวันไม่มีเบื่อ แต่กลับช่วยสร้างเสริมสุขภาพได้ชัวร์