ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | สำเริงคดี |
ผู้เขียน | ทรงวาด |
เผยแพร่ |
เคิร์ก ดักลาส พระเอกยุค macho man คนสุดท้ายผู้กลายเป็นตำนาน สิ้นลมหายใจเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่งจะครบ 103 ขวบไปเมื่อท้ายปีที่แล้วนี่เอง
อดีตพระเอกคางบุ๋ม เล่นหนังมาแล้ว 88 เรื่อง
ประเดิมเริ่มแรกด้วย The Strange Love of Martha Ivers
แต่มาขึ้นแท่นซุป”ตาร์ใน Champion เมื่อปี 1949
ทว่าหนังที่คนรู้จักและจำเขาได้ดีน่าจะเป็นเรื่อง Spartacus ที่ได้ 4 ออสการ์ โดยมีเคิร์กเล่นนำและควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ด้วย
ยุคทองของเขาปิดฉากลงหลังหนังเรื่อง Tough Guys ที่ปะทะบทกับเพื่อนซี้ เบิร์ต แลงคาสเตอร์ ออกฉายในปี 1986
เคิร์กน้ำตารื้นเมื่อลงรายละเอียดตรงนี้
“ผมคิดถึงเบิร์ต แลงคาสเตอร์ เราสู้กันมาเยอะ และผมก็คิดถึงเขามาก ยังมีจอห์น เวย์น อีกคน แม้เขาจะเป็นรีพับลิกันและผมเป็นเดโมแครตก็ตาม” เวย์นเคยทำให้เขาช็อกด้วยการดุว่าอย่างแรงคราวที่เขารับบทวินเซนต์ แวนโกะห์ ในหนัง Lust For Life เมื่อปี 1956
“”เราต้องเล่นบทตัวละครที่กร้าวแกร่งแข็งกระด้าง” เวย์นตวาดลั่น ซึ่งผมพยายามอธิบายว่า “แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่เรื่องที่ทำให้เชื่อนะ จอห์น มันไม่ใช่ความจริง ตัวคุณก็ไม่ใช่จอห์น เวย์น จริงๆ คุณก็รู้””
อย่างไรก็ตาม การถกเถียงตีความบทนั้นก็น่าจะมีส่วนที่ทำให้เคิร์กได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้
ชีวิตส่วนตัวของคุณทวดพระเอกไม่โลดรุ่งเหมือนในจอ
หลังเป็นซุป”ตาร์ไม่นานนักเขาก็หย่ากับภรรยาคนแรก ไดอาน่า ดีล (แม่ของไมเคิล ดักลาส อภิชาตบุตรในวงการมายาของเคิร์ก และโจแอล น้องชาย) ในปี 1951
พอถึงปี 1954 เขาแต่งงานใหม่กับแอน บายเดนส์ ได้ลูกชายอีกสองหน่อคือ ปีเตอร์กับเอริก แต่แม้ว่าจะใช้ชีวิตคู่กับแอนมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเธอก็อายุ 100 ปีเข้าไปแล้ว แต่เคิร์กยอมรับว่าเขาไม่ใช่สามีที่สัตย์ซื่อถือคติรักเดียวใจเดียวสักเท่าไหร่ หากแต่เคยมีกิ๊กหลายคน
บางคนก็เป็นนักแสดงด้วยกัน อย่างเช่น ริตา เฮย์เวิร์ด และแพทริเซีย นีล เป็นต้น
“ผมมันชายโฉด เป็นผู้ชายพื้นๆ ธรรมดาสามัญคนหนึ่ง”
ขณะที่แอนก็ยอมรับว่า “เคิร์กไม่เคยปิดบังเรื่องเจ้าชู้ของเขากับฉันเลย”
ชีวิตคู่ที่อยู่ยั้งยืนยงคงเป็นด้วยความมีน้ำอดน้ำทนของผู้ภรรยานี่เอง
แต่ความเจ็บปวดในครอบครัวมาจากลูก เอริก ลูกชายคนเล็กเสียชีวิตในวัย 46 ด้วยการเสพยาเกินขนาดเมื่อปี 2004
พระเอกคุณทวดระบุด้วยน้ำเสียงขีดเส้นใต้ไว้ว่า “มันเป็นส่วนที่เศร้าสุดสุด” ของชีวิต
คงเป็นด้วยเหตุนี้ เคิร์กจึงคอยเตือนไมเคิลให้ประคับประคองคาเมอรอน หลานปู่วัย 40 ของเขาให้ก้าวพ้นเส้นทางยาเสพติด ซึ่งเคยผลักเจ้าตัวเข้าไปนอนคุกมาพักใหญ่
และที่เขาย้ำนักอีกเรื่องก็คือ ขอให้ไมเคิลรักษาชีวิตครอบครัวที่ครองคู่กับแคทเธอลีน ซีต้าโจนส์ ไว้ให้เปี่ยมสุขและคงมั่น
บางทีย่อหน้าสุดท้ายบั้นปลายชีวิตของ (อดีต) หนุ่มเจ้าชู้ทั้งหลายอาจจะเป็นเหมือนเคิร์กก็ได้ นั่นคือ หวังอยากได้เพียงความรักความอบอุ่นจากครอบครัว คำขอสำหรับวันเกิดปีที่ 103 ของเขาที่บอกกับลูกชายทั้งน้ำตาก็แค่
“พ่อขอให้เราทั้งครอบครัวมากินข้าวมื้อเย็นด้วยกันก็พอ พาลูกๆ มาด้วยนะ ไมเคิล”