ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 กุมภาพันธ์ 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
คําประกาศใน “ม่านน้ำตา” ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ต่อปัญหาผลประโยชน์ในกองทัพ
จนเป็นหนึ่งในสาเหตุความขัดแย้งที่ทำให้เกิดเหตุสลดกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา
ตอนหนึ่งที่ว่า
“ผมขีดเส้นตายภายในเดือนกุมภาพันธ์สำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วและยังพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทหาร และย้ายจากกองทัพบกไปอยู่หน่วยงานใด
ต้องย้ายออก เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีบ้านมาอยู่”
คนในกองทัพ โดยเฉพาะนายทหารชั้นผู้น้อย (อีกตามเคย)
ฟังแล้ว ไม่รู้จะโห่ร้องยินดี
หรือร้องไห้ไปกับ “นาย”
เพราะประเด็น “บ้านหลวง” นี้ เป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาล
มีการพูดกันมานาน พอๆ กับเรื่องเกณฑ์ทหาร
แต่ก็ไม่เห็นจบเสียที
แถมบางครั้งเรื่องบ้านหลวง กลายเป็นประเด็น “การเมือง” ทิ่มแทงกันเลือดสาด
กระนั้น ก็คา-คากันอยู่เรื่อยมา
การที่ “บิ๊กแดง” ขึงขังจะจัดการเรื่องนี้
ถ้าทำได้จริง ก็คงมีคนอนุโมทนา
แต่ก็มีเงื่อนไขว่า ต้องทำให้เสมอหน้ากัน
อย่าให้กลายเป็นเหลาไม้ไผ่ แล้วกลายเป็นบ้องกัญชา
คือ แทนที่นายทหารชั้นผู้น้อยจะได้ประโยชน์
แต่กลับเดือดร้อน ต้องหาที่อยู่กันใหม่
หลังหน้าทนหน้าหนาไม่ยอมย้าย
ด้วยไม่รู้จะไปไหน
ส่วนนายทหาร “ชั้นผู้ใหญ่” นั้นชิล-ชิล
ด้วยกรมสวัสดิการทหารบกมีระเบียบชัดเจนว่า ทหารสามารถอาศัยบ้านพักหลวงต่อได้
โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าพักในบ้านพักรับรองได้ ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาชั้นสูงหรืออดีตผู้บังคับบัญชาที่ดำรงตำแหน่งชั้นสูง
มียศ พล.อ. หรือเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารมาก่อน
เพียงแต่ต้องขอผ่อนผัน หรือดำเนินการร้องขอ โดยผ่านความเห็นของคณะกรรมการ ก่อนเสนอให้ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้อนุมัติ
ทั้งนี้ กองทัพได้จัดสร้างบ้านพักรับรองไว้ส่วนหนึ่ง
เพื่อรับรองอดีตผู้บังคับบัญชาที่ทำคุณงามความดีให้กับกองทัพและเสียสละเพื่อประเทศชาติ
ตลอดจนเพื่อผู้บังคับบัญชาอยู่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี
ส่วนค่าใช้จ่าย ผู้เข้าอาศัยจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง มิได้ใช้งบประมาณของกองทัพ
การคืนบ้านพัก ที่ผ่านมากองทัพไม่เคยเร่งรัด
เพราะอดีตผู้บังคับบัญชา “สามารถ” จะคิดได้เอง
พิจารณาตามนี้
ก็คงคาดหมายได้ว่า ผู้ที่จะเดือดร้อนเรื่องต้องย้ายบ้านออกนั้น
ย่อมไม่ใช่นายทหารชั้นผู้ใหญ่
ที่หลั่งน้ำตา
นอกเหนือจากบิ๊กแดงบนโพเดี้ยมแล้ว
ก็คงเป็นนายทหารชั้นผู้น้อย หรือระดับกลาง อีกตามเคย