เมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็น “ภิกษุณีปลอม” เรื่องต้องแจงให้ชัดโดย “ภิกษุณีของจริง”

ภิกษุณีธัมมนันทา

ผู้เขียนเป็นปลื้มกับสมเด็จพระสังฆราช (องค์ที่ 20) มาก เห็นผู้คนแห่แหนไปเฝ้ารอ เพื่อได้เพียงเห็นท่านที่วัดราชบพิธฯ ก็ยิ่งปีติ ไปอ่านประวัติของท่านก็ประทับใจ อุว้าว ท่านเป็นชาวจังหวัดราชบุรี บรรพบุรุษของผู้เขียนสายมารดา ทั้งยายและแม่เป็นชาวราชบุรีเหมือนกัน

แล้วมันเกี่ยวอะไรไหมเนี่ย

มันไม่เกี่ยว แต่เป็นธรรมดาของปุถุชน ที่อยากจะเกี่ยวกับคนดังประมาณนั้น ความรู้สึกดีเกี่ยวกับราชบุรียังไม่จบง่าย ท่าน บ.ก. เคยลงจดหมายที่มีภิกษุณีเล่าเรื่องที่ไม่สามารถสอบธรรมศึกษาที่นครปฐม เพราะพระภิกษุที่นครปฐมท่านไม่มีนโยบาย มิหนำซ้ำจะให้ไปถอดจีวรใส่ชุดขาวไปโน่น

ปรากฏว่า มีพระผู้ใหญ่ท่านเมตตาช่วยส่งรายชื่อของภิกษุณี 5 รูปจากนครปฐมส่งไปสมัครสอบที่ราชบุรี มิหนำซ้ำสอบได้หมดทั้ง 5 รูปเลยค่ะ

ถ้าจะเรียนบาลี ต้องสอบธรรมศึกษาให้ได้ก่อนค่ะ

ทีนี้ หลวงพี่รูปหนึ่งของเราท่านก็เอาจริง ตั้งใจเรียนมาก ในชั้นพระภิกษุสามเณรที่เรียนด้วยกัน 90 รูปนั้น พระอาจารย์คัดให้ไปสอบได้แค่ 8 รูป ภิกษุณีติดไป 1 รูป และเมื่อสอบวัดความรู้กันในระหว่าง 8 รูปนี้ ปรากฏว่า ภิกษุณีมาเป็นที่ 1 รับรางวัลมาตั้ง 4,000 บาท แล้วยังได้รางวัลขยัน คือไม่ขาดเรียนอีกต่างหาก คราวนี้ของรางวัลเป็นพระพุทธรูปจำลอง พระร่วงโรจนฤทธิ์ เลยค่ะ

โอ๊ย ปลื้มกันไปทั้งวัตร

 

ทีนี้ พระผู้ใหญ่ท่านก็ส่งชื่อภิกษุณีไปลงสนามสอบที่ราชบุรี เมื่อ 21-22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ท่านธัมมนันทาเดินทางไปเจรจาเรื่องการจัดประชุมที่อินโดนีเซีย

ปรากฏว่าในวันที่สอบวันที่ 21 ท่ามกลางสนามสอบนั้น ท่านเจ้าคณะจังหวัดราชบุรีมากล่าวเปิดงาน ตอนท้ายท่านว่า

เรื่องภิกษุณีไม่มีแล้ว หมดไปนานแล้ว เหมือนกับไดโนเสาร์

ชะอุ๋ย ภิกษุณีนั่งอยู่สามรูป หัวใจน่าจะตกไปที่ตาตุ่ม

ตอนท้ายท่านเจ้าคณะจังหวัดท่านว่า ที่มีอยู่นี้ ภิกษุณีปลอมทั้งนั้น

อ้าว ตอนนี้เดือดร้อนไปหมด

ภิกษุณีรูปแรกของเมืองไทย คือ พระภิกษุณีวรมัยกบิลสิงห์ ออกบรรพชารับศีลกับท่านเจ้าคุณพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) ตอนนั้น ท่านก็เป็นรองสมเด็จแล้ว และยังเป็นพระคู่สวดเมื่อตอนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จออกทรงผนวชด้วย ท่านเป็นชาวจังหวัดราชบุรีนะคะ ท่านของจริงค่ะ ไม่ปลอม แต่บวชมาในสายไต้หวัน ก็จะเป็นมหายาน

ท่านไม่รู้ ว่าท่านไม่รู้

ท่านเจ้าคณะจังหวัดท่านไม่มีเลขาฯ ทำการบ้านให้

อ้าว ทีนี้มาถึงภิกษุณีที่ไปนั่งสอบอยู่ที่สนามสอบราชบุรีวันนั้น ท่านเป็นคนไทยแต่ไปอยู่ที่ออสเตรียมา 13 ปี เห็นทุกข์ทางโลกพอแล้ว จึงออกบวช บรรพชาเป็นสามเณรีที่วัตรทรงธรรมกัลยาณี เมื่อแน่ใจทั้งสองฝ่าย คือทั้งฝ่ายผู้ขอบวช และผู้ให้บวชแล้ว จึงเลื่อนขึ้นเป็นสิกขมานา คราวนี้ ต้องประกาศในสงฆ์สองฝ่าย ต้องรับรู้ทั้งทางฝ่ายภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์ และประกาศสิกขมานาในเขตสีมา

เมื่อท่านเป็นสิกขมานาครบ 2 พรรษาแล้ว จึงเดินทางออกไปอุปสมบทที่ศรีลังกา

อ้าว ทำไมไม่บวชที่เมืองไทย

ก็มหาเถรสมาคมออกคำสั่งไม่ให้พระสงฆ์ไทยบวชให้ผู้หญิงไง

คำสั่งล่าสุดเมื่อ 11 ธันวาคม 2515

ก็นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ที่อื่นมาบวชให้ก็ได้

ท่านก็ตามไปห้ามอีกว่าพระภิกษุเถรวาทที่มาจากต่างประเทศ ถ้าจะเข้ามาบวชให้ภิกษุณี ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก มส. (มหาเถรสมาคม)

คิดว่าพาซื่อขอไปแล้วท่านจะให้หรือ

ก็บอกแล้วว่า ไม่มีการอุปสมบทภิกษุณีสายเถรวาทในประเทศไทย

ตกลงก็ต้องแบกกันไปบวชที่ศรีลังกา

ทำไมศรีลังกา

ที่นั่นเขาพร้อมทั้งภิกษุสงฆ์ และภิกษุณีสงฆ์

อย่าลืมว่า ต้องนิมนต์ฝ่ายละ 10 รูป

ปวัตตินี คืออาจารย์ภิกษุณีที่ฝึกผู้ขอบวช ก็เป็นท่านธัมมนันทา เพราะได้รับการแต่งตั้งเป็นปวัตตินี ตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน 2515 ตอนนี้อายุพรรษา 14 แล้ว เงื่อนไขของการแต่งตั้งปวัตตินี ต้องมีอายุพรรษา 12 ขึ้นไปค่ะ

ทางฝั่งภิกษุณีสงฆ์นั่งกันเต็มสีมาน้ำ 10 รูป ทางฝั่งภิกษุสงฆ์ ก็ 10 รูปเหมือนกัน องค์ที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้คือ มหานายก โสภิตะ ท่านมีพรรษากว่า 20 ด้วยซ้ำ พระภิกษุที่เป็นพระกรรมวาจาจารย์และอนุสาวนาจารย์ คือท่าน ดร.กลูปหานะ และท่านสุธรรม

เรียกว่า สมบัติ 4 ในการบวชครบถ้วนทุกประการ

นี่เป็นสังฆกรรมที่ถูกต้อง ทำโดยสงฆ์

สังฆกรรมที่ทำอย่างถูกต้องแล้ว พระภิกษุใดตำหนิสังฆกรรมที่ทำดีแล้ว จะต้องอาบัติ ถ้าอ่านในปริวาร (พระวินัยปิฎก) พูดชัดเจนว่า จะเป็นอันตราย

 

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เพื่อจะกราบเรียนว่า ภิกษุณีที่ไปสอบบาลีที่สนามสอบจังหวัดราชบุรีวันนั้น ไม่ใช่ภิกษุณีปลอม แต่เป็นของจริงค่ะ

พยายามอ่านใจท่านว่า ท่านจะติดใจว่า ภิกษุณีเริ่มต้นมาได้อย่างไร ในเมื่อท่านว่าหมดไปแล้ว เหมือนไดโนเสาร์

ท่านก็ชอบตกข่าวอยู่เรื่อย

พ.ศ.976 ภิกษุณีเทวสร เดินทางไปประเทศจีน และจัดการบวชให้ภิกษุณีที่นั่นถึง 300 รูป โดยสายพระวินัย ภิกษุณีจีนรับสายการบวชไปจากศรีลังกา

เมื่อมีการรื้อฟื้นภิกษุณีเถรวาทในสมัยใหม่ที่พุทธคยาเมื่อ พ.ศ.2541 ก็เป็นภิกษุณีจีนที่สืบสายมาจากศรีลังกานี้แหละ

แต่ทางฝั่งพระภิกษุสงฆ์เป็นภิกษุจีนที่ถือพระวินัยนิกายธรรมคุปต์

การบวชภิกษุณีจะสำเร็จได้ที่ภิกษุสงฆ์

พระมหาเถระศรีลังกา 10 รูป ที่พาชาวศรีลังกาไปบวชภิกษุณี 20 รูป ครั้งนั้น พาภิกษุณีที่บวชใหม่นี้ไปสารนาถ เพราะท่านต้องการเริ่มภิกษุณีสงฆ์สายเถรวาทที่ถูกต้องให้เป็นที่ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย

ที่นั่นมีสีมาของวัดศรีลังกา ซึ่งเป็นเถรวาทค่ะ

พระภิกษุสงฆ์ของศรีลังกา จัดการอุปสมบทให้ภิกษุณี 20 รูปนี้อีกครั้ง เป็นการยืนยันการอุปสมบทตามสายเถรวาท และนับว่าภิกษุณี 20 รูปนี้ เป็นต้นสายของภิกษุณีสงฆ์สายเถรวาทในปัจจุบัน

ทันทีที่กลับมาที่ศรีลังกา มหานายก ศรีสุมังคโล แห่งวัดดัมบุลละ ก็จัดการแต่งตั้งภิกษุณี 2 รูป (ใน 20) ที่บวชกลับมานั้น ให้เป็นปวัตตินี เพื่อช่วยกันสืบสานพระศาสนาต่อไป

 

ภิกษุณีธัมมนันทา ภิกษุณีสายเถรวาทรูปแรกของไทย ก็บวชมาจากสายที่ว่านี้แหละท่านธัมมนันทา ถ้าจะดึงให้เข้ากับราชบุรี ก็เป็นหลานชาวราชบุรี ตระกูลกบิลสิงห์หลายคนก็ยังอยู่ในจังหวัดราชบุรี

ก็เลยอยากให้คนราชบุรีมีข้อมูลทันๆ กันหน่อย

กำลังรอว่า เมื่อไรราชบุรีจะจัดพิธีแสดงมุทิตาจิตกับสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงเป็นศูนย์กลางความศรัทธาของชาวพุทธในประเทศไทยอยู่ขณะนี้

แล้วก็จะได้ถือโอกาสไปกราบท่านเจ้าคณะจังหวัดด้วย