E-DUANG : กรณี”ธรรมกาย” ยิ่งห้ามก็เหมือนกับยิ่งยุ

ทั้งๆที่อยู่ในบรรยากาศแห่ง “ปรองดอง สามัคคี” แต่ความอึกทึกครึกโครมมิได้อยู่ที่ “ปรองดอง สามัคคี”

หากแต่อยู่ที่สถานการณ์ “ธรรมกาย”

ต่อให้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมขบคิดกับ ดร.สุวิทย์ เมษิณทรีย์ ให้สมองแตก

“ปรองดอง สามัคคี” ก็ยัง”เงียบ”

“การตลาด” อาจสามารถสร้างความคึกคักให้ได้ในตอนต้น แต่เมื่อเข้าสู่การประกาศใช้ “มาตรา 44” ในกลางดึกของคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์

แนวรบทางด้าน “ตลองหลวง”ก็ “กระหึ่ม”

เป็นการกระหึ่มเนื่องแต่ “มาตรา 44” เป็นการกระหึ่มเพราะแผนตระเตรียมกำลังเหยียบเข้าไปสู่หลัก 4,000 นายด้วยความระทึกเป็นอย่างสูง

เพียงแต่ตามไปดูว่า “มาตรา 44” จะสามารถจับตัว พระเทพ ญาณมหามุนี ส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดได้หรือไม่

ก็สร้างความอึกทึกให้กับ”พาดหัวข่าว”แล้ว

 

ไม่ว่าจะเป็นสื่อหนังสือพิมพ์อันถือว่าเป็น”สื่อเก่า” ไม่ว่าจะเป็นสื่อใหม่อย่าง โทรทัศน์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โซเชียล ออนไลน์

ถูกยึดครองโดยข่าว “ธรรมกาย”

ยิ่งนายทหารใหญ่ ยิ่งนายตำรวจใหญ่ เน้นย้ำในความสงสัยกรณีมี “ผ้าปิดปาก”

ยิ่งทำให้”ข่าว”ดำเนินไปอย่างมากด้วยสีสัน

เมื่อนำเอาเรื่อง “พระทองคำ” หนัก 1 ตันมาประสานเข้ากับข่าวการกระตุ้น “เศรษฐกิจ”

ยิ่งไปทำให้เสียงร่ำลือในเรื่อง”ถังแตก”พรรณรายฉายฉัน

เพราะหากรวม “พระทองคำ” จำนวน 7 องค์ที่เชื่อว่าอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย

มูลค่ายิ่งทะยานไปยังหลัก”หมื่นล้านบาท”

ทั้งนี้ แทบไม่จำเป็นต้องบวกลบคูณหารทรัพย์สินที่มีกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นความเชื่อโดยพื้นฐานอยู่แล้ว

เหล่านี้คือ “รากฐาน” สร้างความฮือฮาให้กับ”ธรรมกาย”

 

อาการฮึ่มฮั่มไม่ว่าจะเป็นที่ “ตลาดกลาง” ไม่ว่าจะเป็นความพยายามรุกเข้าไปยัง”อาคารบุญรักษา”

ต้องเป็น”พาดหัว” แน่นอน

ถึงสื่อบางสำนักจะหงุดหงิดกับ”ธรรมกาย”อย่างไรก็ไม่อาจปัดปฏิเสธได้

เพราะหากไม่มีการชุมนุมที่ “ตลาดกลาง” เพราะหากทหารสามารถนำขดลวดหีบเพลงรุกเข้าไปยึดครองอาคารบุญรักษาได้ นั่นหมายถึงบทจบ

บทจบของ”ธรรมกาย” บทจบของ พระเทพญาณมหามุนี ในทางเป็นจริง

ข่าว”ธรรมกาย” จึงห้ามยากเป็นอย่างยิ่ง

เพราะการเคลื่อนไหวทุกก้าวย่างไม่ว่าจะมาจาก”ดีเอสไอ” ไม่ว่าจะมาจาก”ตำรวจ” ไม่ว่าจะมาจาก”ทหาร” ย่อมอยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์

ล้วนเป็น”ชนวน”นำไปสู่พาดหัวระดับ”ตัวไม้”