รู้จัก ดอกลั่นทม-ดอกลีลาวดี หรือดอกจำปาลาว

อ่านป็นภาษาล้านนาว่า ดอก-จุ๋ม-ป๋า-ลาว
หมายถึง ดอกลั่นทม ดอกลีลาวดี หรือดอกจำปาลาว

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ต้นผลัดใบ มีการแตกกิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ กล่าวคือ จะมีการแตกกิ่งครั้งละ 3 กิ่งไปใน 3 ทิศทางรื่อยไป เราจึงจะเห็นทรงพุ่มของลั่นทมเป็นทรงพุ่มที่แผ่ออกและมีกิ่งก้านสาขาค่อนข้างโปร่ง

ใบเรียงตัวเวียนกระจุกที่ปลายกิ่ง ช่วงที่ยังไม่ทิ้งใบจะมีทรงพุ่มค่อนข้างแน่น มียางขาวคล้ายน้ำนมในทุกส่วนซึ่งมีพิษ หากเข้าตาตาอาจจะบอดได้
และหากสัมผัสจะระคายเคืองผิวหนัง

ลั่นทม เป็นสมาชิกในวงศ์ตีนเป็ด (Family APOCYNACEAE) สกุลลั่นทม Plumeriaspp. มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Frangipani หรือ Plumeria ตามชื่อสกุล

ดอกออกเป็นพวง กลีบดอกตูมบิดเวียนแบบกังหันลม มีหลายสี มีหลายชนิดด้วยกัน ที่พบเห็นตามบ้านเราบ่อยๆ ได้แก่ชนิดดอกสีขาว กลางดอกสีเหลือง ปลายใบกลมมน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plumeriaobtusa L. (คำว่า obtusa แปลว่า ทู่) ชนิดดอกสีขาวตรงกลางดอกจนถึงกลางกลีบดอกมีสีเหลือง ปลายใบแหลม ชื่อ P. alba L. (คำว่า alba แปลว่าสีขาว) ชนิดดอกสีชมพู และแดง ชื่อ P. rubra L. (คำว่า rubra แปลว่าสีแดง) มีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ

ผลเป็นฝักคู่ แตกออกตามแนวตะเข็บแนวเดียว เมล็ดมีปีก ปลิวตามลมช่วยกระจายพันธุ์

ดอกจำปาลาว เป็นดอกไม้ประจำชาติลาว มีหลากหลายสีได้แก่ ขาว ชมพู เหลือง แดง
นัยยะของดอกจำปาลาวหมายถึงความสุขสดชื่น ความจริงใจ คนลาวนิยมใช้ในงานมงคลทุกชนิด ได้แก่ งานบวช งานแต่งงาน งานทำบุญต่างๆ รวมถึงทำมาลัยถวายพระ และต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

ดอกจำปาลาวจะบานทุกวันและบานนาน นิยมปลูกอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในวัด เช่น ปราสาทวัดพู หรือวัดภู หรือวัดหินพู ในแขวงจำปาสัก

ประเทศลาวมีการปลูกลั่นทมสองข้างตามบันไดทางขึ้นพระธาตุหรือตามทางขึ้นธาตุภูสี ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าพระราชวังหลวงพระบาง พบว่าเป็นชนิดดอกสีขาว ปลายใบแหลม P. alba L. สร้างร่มเงาให้ความร่มรื่นแก่ผู้ที่เดินทางไปสักการะพระธาตุได้เป็นอย่างดี

มีการใช้ประโยชน์ดอกจำปาลาวในการแต่งกลิ่นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น โลชั่นทาผิว แชมพูสระผม โรลออน โคโลญ น้ำหอม เป็นต้น