การเมืองกล้วย-กล้วย-สิบทิศ / ฉบับประจำวันที่ 13-19 กันยายน 2562

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้มีบทบาท “มือประสานสิบทิศ” อันโดดเด่น โด่งดัง
กำลังกลายเป็นเป้าแห่งความสนใจของสังคม 2 ประเด็นพร้อมกัน
ประเด็นหนึ่ง มาจากต่างประเทศ
เมื่อเครือสื่อยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย คือ หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) และหนังสือพิมพ์ดิเอจ (The Age)
ตีพิมพ์รายงานสืบสวนสอบสวน อ้างบันทึกคดีของตำรวจออสเตรเลียและศาลว่า ร.อ.ธรรมนัสเคยรับโทษจำคุกเป็นเวลา 4 ปีในเรือนจำออสเตรเลียจริง
ก่อนถูกเนรเทศในปี พ.ศ.2540 เนื่องจากความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งอาชญากรลักลอบนำเข้าและค้าเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม
กลายเป็นกรณี “ออสซี่ เกต” แบบไทย-ไทย ที่สังคมให้ความสนใจ
อีกประเด็น เป็นคำกล่าวติดตลกของ ร.อ.ธรรมนัส
กรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ประกาศแยกตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ภายหลังไม่พอใจที่พรรคเล็ก 11 พรรคไม่ได้รับการจัดสรรโควต้าในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาผู้แทนราษฎร
ว่า “ผมเป็นคนเลี้ยงลิง เลยต้องเอากล้วยให้ลิงกินตลอดเวลา ขณะนี้เชื่อว่ากินจนอิ่มแล้วน่าจะพอได้แล้ว”
แต่ดูเหมือนคนฟัง โดยเฉพาะกลุ่มพรรคเล็กต่างแสดงความไม่พอใจต่อคำพูดดังกล่าว
กลายเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองแบบกล้วย-กล้วย
ที่ทำให้สปอตไลต์ฉายจับ ร.อ.ธรรมนัสในเวลานี้

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่สอง คือ การเมืองแบบกล้วย-กล้วย นั้น
คงจะไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะเคลียร์
โดย ร.อ.ธรรมนัสโชว์ความเป็นสุภาพบุรุษ
ด้วยการขอโทษผู้ที่ไม่พอใจ
ซึ่งเชื่อว่าเหล่าบรรดาพรรคเล็กก็คงฟัง
เพราะว่าที่จริง คนจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูดำดูดีพรรคเล็กมากที่สุด ก็คงไม่พ้น ร.อ.ธรรมนัส ที่ตามเคลียร์ยามเกิดปัญหาต่างๆ
โดยอาศัยจุดแข็งของตนเอง 2 อย่าง
หนึ่งคือ ความอู้ฟู่ของทรัพย์สิน ร.อ.ธรรมนัสแจ้งแก่ ป.ป.ช.ไว้ว่า ในจำนวนภรรยา 2 คน และลูก 7 คนนั้น
เขามีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันทั้งหมด 929,706,302.68 บาท
แน่นอนในจำนวนทรัพย์สินอันมหาศาลนี้ ส่วนหนึ่งย่อมแบ่งปันไปถึง “คนอื่นๆ” ตามสมควร ด้วยความเป็นคนกว้างขวางของเขานั่นเอง”
ซึ่งการช่วยคนนี้เอง ทำให้ ร.อ.ธรรมนัสถูกผู้ใหญ่ในรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ถูกใช้ให้เป็นมือเคลียร์ ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จในแทบทุกรณี
แน่นอน เชื่อกรณี “คนเลี้ยงลิง” ที่แม้จะแสลงใจคนฟัง
แต่กล้วยที่อิ่มท้องนั้น ย่อมทำให้กระแสความไม่พอใจเงียบหายไปในที่สุด
แม้ว่าตอนนี้ นายพิเชษฐ สถิชวลา และพรรคประชาธรรมไทย จะยัง “มึนตึง” กรณีเลี้ยงลิง ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่หนุนรัฐบาลแบบเดิมก็ตาม

แต่ที่น่าหนักใจ เป็นประเด็นที่มาจากต่างประเทศเสียมากกว่า
เพราะพาดพิง ร.อ.ธรรมนัสโดยตรง
นั่นคือ การที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ และหนังสือพิมพ์ดิเอจ
นำเสนอบทความเรื่อง “จากอาชญากรสู่รัฐมนตรี : เปิดโปงกรณีนักการเมืองต้องโทษจำคุกในคดีค้ายาเสพติด”
โดยอ้างอิงข้อมูลจากบันทึกของตำรวจและศาลออสเตรเลียที่มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ได้อ่านเชื่อถือ
แม้ ร.อ.มนัสธรรม โต้ว่าเป็นการเขียนภายในประเทศไทย แล้วส่งไปให้ผู้สื่อข่าวที่ประเทศออสเตรเลียมากกว่า
แต่ก็เริ่มมีกระแสกดดัน ให้ลาออกจากรัฐมนตรี
ซึ่งร.อ.ธรรมนัสยืนไม่ลาออก และรอพิสูจน์ว่าจะทำงานรับใช้ประชาชนและแผ่นดินได้หรือไม่
ดูเรื่องจะไม่จบง่ายๆ
เมื่อฝ่ายค้านออกมาจุดพลุ เรื่องคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของร.อ.ธรรมนัส อาจขัดรัฐธรรมนูญ
โดยผู้เคยติดคุกคดียาเสพติด รัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ห้ามสมัคร ส.ส.
รัฐธรรมนูญมาตรา 160(6) ห้ามเป็นรัฐมนตรี
รัฐธรรมนูญมาตรา 170(4) ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว
มีการจี้ถาม”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เสนอแต่งตั้งเข้ามาได้อย่างไร
เรื่องถูก”ขยายความ” ไปเรื่อยๆ
จนเกิดคำถามว่าจะสะเทือนต่อสถานะรัฐมนตรีของเขาหรือไม่ และจะมีเรื่องต่างๆ ผุดต่อเนื่องออกมาเปิดโปงอีกหรือเปล่า
การที่ ปัญหาไม่จบลงง่ายๆ ย่อมทำให้ เส้นทางการเมืองของ นักประสานสิบทิศผู้นี้่
ไม่ใช่เรื่องกล้วย-กล้วย แน่นอน!
—————————–