ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์/SPIDER-MAN : FAR FROM HOME

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

SPIDER-MAN : FAR FROM HOME

‘ทายาทไอออนแมน’

กำกับการแสดง Jon Watts

นำแสดง Tom Holland Samuel L. Jackson Jake Gyllenhaal Marisa Tomei Jon Favreau Zendaya

 

สดๆ ร้อนๆ ตามหลัง Avengers : Endgame ซึ่งดูคล้ายจะเป็นภาคอวสานของการรวมดาวซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวล ที่เป็นเรื่องของการต่อสู้รบราระหว่างฝ่ายพระเอกกับฝ่ายอธรรมข้ามจักรวาล ก้าวมาสู่การขมวดจบโดยไม่ทิ้งปมอะไรไว้ค้างคา ถือเป็นตอนจบที่ลงตัว ได้รับความพอใจกันโดยถ้วนหน้า เหล่าอเวนเจอร์นำทีมโดยโทนี่ สตาร์ก/ไอออนแมน กับสตีฟ โรเจอร์/กัปตันอเมริกา ผนึกกำลังกันต่อสู้อภิมหาวายร้าย หลังจากผิดใจห่างเหินกันไปด้วยอุดมการณ์คนละขั้ว

เดินทางข้ามจักรวาลไปมาในพริบตา พิชิตภัยคุกคามประชากรในจักรวาลในขั้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบหืดขึ้นคอ หักมุมพลิกกลับไปมาหลายตลบ กว่าที่ฝ่ายพระเอกจะได้ชัยชนะท่ามกลางการสูญเสียใหญ่หลวง จนทำให้แฟนๆ น้ำตาท่วมจอเพราะความอาลัยรัก

ชัยชนะต้องแลกมาด้วยการสูญเสีย

เพื่อให้จักรวาลอยู่รอดปลอดภัย Endgame ลงเอยด้วยความตายของไอออนแมนและอเวนเจอร์อีกหลายคน และถึงแม้กัปตันอเมริกาจะไม่ตาย แต่เขาก็เลือกชีวิตที่มีตอนจบแบบที่จะกลับมาเป็นผู้พิทักษ์จักรวาลอีกไม่ได้แล้ว

และแล้ว Endgame เพิ่งคล้อยหลังไปไม่ทันไร Spider-Man ก็แยกวงออกมาเป็นหนังโซโลของตัวเอง

 

หนังเปิดเรื่องด้วยการที่โลกทั้งโลกอาลัยรักการจากไปของไอออนแมนและอเวนเจอร์ที่จากไป และอุทิศความทรงจำเป็นอนุสรณ์แด่วีรบุรุษผู้กอบกู้โลก ด้วยเสียงเพลงอาลัยครวญที่คุ้นหู I Will Always Love You ของวิตนีย์ ฮิวสตัน

และพูดถึงเวลาห้าปีที่สูญหายไปในชีวิตของคนครึ่งโลก ซึ่งใช้ศัพท์ใหม่เรียกว่า “บลิ้บ”

ในภาคก่อนหน้า ปีเตอร์ ปาร์เกอร์ (ทอม ฮอลแลนด์) ได้รับการทาบทามจากโทนี่ สตาร์ก (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) ให้เข้าร่วมทีมอเวนเจอร์ ทั้งๆ ที่ปีเตอร์ยังเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบหกในร่างของ “สไปเดอร์แมน” ที่ได้แต่คอยสอดส่องและต่อสู้กับวายร้ายที่จ้องจะล้างผลาญมหานครนิวยอร์ก

ปีเตอร์ได้รับ “ชุดแมงมุม” ชุดใหม่ที่ทำด้วยวัสดุสังเคราะห์ไฮเทค และสามารถใส่-ถอด-แปลงร่างได้ดังใจนึกในฉับพลันทันที

รวมทั้งติดอาวุธเป็นเครื่องยิงใยแมงมุมที่ออกแบบเพิ่มสมรรถนะให้เหนียวเป็นพิเศษ

จาก “เด็กหนุ่ม-สไปเดอร์แมนผู้เป็นมิตรในละแวกบ้าน” ปีเตอร์ได้ออกปฏิบัติภารกิจไกลโพ้นในห้วงอวกาศ และกลายเป็นศิษย์ในสังกัดของไอออนแมนไปโดยปริยาย

ครั้นเมื่อไอออนแมนจากไป ปีเตอร์ก็กลับมาใช้ชีวิตของเด็กหนุ่มโรงเรียนมัธยมปลายซึ่งกำลังหลงรักสาวชื่อ เอ็ม.เจ. (เซนดายา นักร้องคนดัง) และหาวิธีสารภาพความในใจอย่างเก๋ไก๋

โดยวางแผนจะบอกรักเจ้าหล่อนบนหอไอเฟลในปารีส

 

ก่อนหน้านั้น คณะทัศนศึกษาซึ่งครูพากลุ่มนักเรียนมาเปิดหูเปิดตาท่องยุโรป แวะไปที่เวนิสในอิตาลีก่อน

เวนิสเป็นเมืองกลางเวิ้งน้ำ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยที่เชื่อมกันด้วยสะพานราว 400 แห่ง ดังนั้น เมืองทั้งเมืองจึงดูเหมือนมีแต่คลอง ครั้งหนึ่งกรุงเทพฯ เคยได้ชื่อว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” แต่เวนิซยังคงมีคลองเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของเมืองจนทุกวันนี้ ขณะที่กรุงเทพฯ ของเราถมคลองทำถนนไปจนแทบไม่เหลือซากให้เห็นแล้ว

ใครไปเวนิสก็ต้องไปจัตุรัสซานมาร์โค ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางของเมือง ทีมคณะทัศนศึกษานี้ก็แวะไปเหมือนกัน ก่อนที่จะเกิดมหันตภัยครั้งใหญ่

นั่นคือโลกกำลังถูกคุกคาม ด้วยปีศาจธาตุทั้งสี่ คือดิน น้ำ ลม ไฟ

 

แน่นอนว่าปีศาจที่มาคุกคามเวนิซคือปีศาจน้ำ แล้วซูเปอร์ฮีโร่คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นต่อสู้ฟาดฟัน พยายามสยบปีศาจน้ำ ด้วยความช่วยเหลือของปีเตอร์ ปาร์เกอร์ ซึ่งไม่มีชุดแมงมุมติดตัว เลยต้องหาหน้ากากบังหน้าไม่ให้ใครเห็นหน้า

ซูเปอร์ฮีโร่คนนั้น อ้างว่าชื่อ เควนติน เบ็ก (เจค จิลเลนนาล) มาจากโลกมิติอื่น ซึ่งถูกทำลายไปแล้ว เขาจึงตามมาสยบปีศาจธาตุที่กำลังมาคุกคามโลกมิติของเรานี้

หลังจากชัยชนะของฝ่ายธรรมะที่สยบฝ่ายอธรรมราบคาบ สื่อมวลชนอิตาลีก็กล่าวชวัญถึงซูเปอร์ฮีโร่ที่ยังไม่มีใครรู้จักคนนี้ โดยเรียกด้วยคำว่า “มิสเตริโอ” ซึ่งน่าจะแปลว่าบุคคลลึกลับ

เบ็กชอบใจกับฉายานี้ จึงใช้เป็นฉายาประจำตัวไปเลย เช่นเดียวกับที่อเวนเจอร์ทุกคนล้วนมีฉายาประจำตัวทั้งนั้น

 

แม้หนังจะยังคงความเป็นหนังแอ๊กชั่นไว้เต็มรูปแบบ แต่โทนของหนังก็หนักไปในทางคอเมดี้กุ๊กกิ๊กแบบวัยรุ่นตามวัยของซูเปอร์ฮีโร่คนนี้ ดังนั้น จึงใช้เรื่องราวความรักแบบวัยรุ่นเป็นการเดินเรื่อง

แม้แต่เน็ด (เจคอบ บาทาลอน) หนุ่มอ้วนเชื้อสายเอเชีย เพื่อนสนิทคนเดียวที่รู้ความลับของปีเตอร์ ก็ยังหาแฟนได้ในช่วงการเดินทางเที่ยวยุโรปครั้งนี้

นอกจากวัยรุ่นหนุ่มสาวสองคู่ ยังมีเรื่องราวของความรักของหนุ่มใหญ่สาวใหญ่อีกคู่ คือ ป้าเมย์ (มาริซา โทเม) กับแฮปปี้ (จอน ฟาฟโร) ซึ่งเคยทำงานให้โทนี่ สตาร์ก และยังทำหน้าที่นั้นอยู่

จุดศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่การที่โทนี่ สตาร์ก มอบแว่นตา–ซึ่งจะเรียกว่า “แว่นวิเศษ” ก็ไม่ผิด–ไว้ให้ปีเตอร์ เหมือนต้องการจะให้ปีเตอร์สืบต่อเจตนารมณ์ในการพิทักษ์โลกแทนตัวเขา

คนที่สวมแว่นตาไฮเทคคู่นี้จะมองเห็นได้ทะลุทะลวงเกินสายตาปกติ แถมยังสามารถติดต่อสั่งงานกับคอมพิวเตอร์ที่ตั้งชื่อว่า “อีดิธ” ได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลก

แว่นคู่นี้เองเป็นสิ่งของที่ผู้ร้ายในเรื่องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา

 

อ้อ ลืมพูดถึงตัวละครสำคัญอีกตัว คือ นิก ฟิวรี่ (แซมวล แอล. แจ๊กสัน)  ตอนจบเราจะได้รู้จักตัวตนจริงๆของเขา เพราะฉะนั้น ต้องตั้งใจดูให้ดี และไม่ลุกออกจากที่นั่งก่อนหนังจบบริบูรณ์ จนถึงเครดิตสุดท้ายของทีมงาน

ห้ามพลาดฉากสั้นๆ ท้ายเรื่องของ Far From Home เป็นอันขาดนะคะ เพราะเป็นตัวพลิกเกมไปคนละทางเลย

สไปเดอร์แมนถูกกระชากหน้ากากแบบไม่ทันให้รู้เนื้อรู้ตัว และไม่มีทางปิดบังความลับของตัวเองไว้จากโลกได้อีกต่อไป

หนังภาคต่อไปก็ต้องพัฒนาเรื่องต่อไปจากจุดตรงนี้แหละ

และเชื่อขนมกินได้เลยว่าจะต้องมีภาคต่อไปของสไปเดอร์แมนตามมาอีกแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อภาคนี้มีเรตติ้งสูงขนาดนี้

สไปเดอร์แมนกำลังจะเข้ามาแทนที่ไอออนแมน และไม่รู้ว่าปีเตอร์ ปาร์เกอร์ จะได้เติบโตจนอายุเกินสิบหกหรือเปล่า เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าใครจะมาเป็นสไปเดอร์แมน-คนก่อนหน้าคือ โทบี้ แม็กไกวร์ และแอนดรู การ์ฟีลด์-ก็ดูเหมือนจะกลับไปที่อายุสิบหก และยังเรียนชั้นมัธยมปลาย หรือไฮสกูล อยู่เสมอ หรือไม่ก็เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ยังเป็นหนุ่มรุ่นกระทงอยู่

อาจจะถึงเวลาที่ปีเตอร์ ปาร์เกอร์ จะได้กลายเป็นผู้ใหญ่เสียทีละมัง