หนุ่มเมืองจันท์ ว่าด้วย “วู้ดดี้-สรยุทธ” ว่าด้วย “เฟซบุ๊กไลฟ์”

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC
ขอขอบคุณภาพจาก timeshare9.com

ตอนที่ “เฟซบุ๊ก” เปิดตัว “เฟซบุ๊กไลฟ์”

มีผู้ประกอบการ 2 รายในเมืองไทยที่ “เฟซบุ๊ก” ติดต่อว่าจ้างให้ถ่ายทอดสดผ่าน “เฟซบุ๊กไลฟ์”

คือ ข่าวสด และ “วู้ดดี้” วุฒิธร มิลินทจินดา

เพราะ “เฟซบุ๊ก” ของ “ข่าวสด” และ “วู้ดดี้” มีแฟนเพจจำนวนมาก

ตอนนี้ “ข่าวสด” มีแฟนเพจอยู่ 10.8 ล้านคน

“วู้ดดี้” มีเกือบ 6 ล้านคน

ในระดับเดียวกันก็มี คุณตัน ภาสกรนที ที่มีแฟนเพจสูงถึง 13 ล้านคน

และเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ที่มีแฟนเพจ 6.6 ล้านคน

“ข่าวสด” นั้นเป็น “สื่อ” การถ่ายทอดสดจึงเป็นเรื่อง “ข่าว”

ส่วน “วู้ดดี้” เป็น “ซูเปอร์สตาร์”

เป็น Influencer หรือผู้มีอิทธิพลต่อสังคม

แค่ถ่ายทอดสดการใช้ชีวิตของเขาก็มีคนติดตามดูแล้ว

“เฟซบุ๊ก” นั้นต้องการผลักดันให้ “เฟซบุ๊กไลฟ์” แจ้งเกิดในเมืองไทย

เขาจึงเริ่มต้นด้วยการสนับสนุน “ข่าวสด” และ “วู้ดดี้”

จนวันนี้ “เฟซบุ๊กไลฟ์” แจ้งเกิดในเมืองไทยได้อย่างเต็มตัวแล้ว

เชื่อหรือไม่ว่าแค่การถ่ายทอดสดแชมป์การแกะสลักน้ำแข็งที่เป็นชาวไทยของ “ข่าวสด”

มีคนดูเป็นล้านคน

“เฟซบุ๊กไลฟ์” กลายเป็นช่องทางใหม่ที่มาแรงมาก

ทั้งจำนวนคนดู และธุรกิจ

“ความแรง” ของ “เฟซบุ๊กไลฟ์” ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งเมื่อวันก่อน “วู้ดดี้” ประกาศเลิกทำรายการ “เกิดมาคุย” ทางโมเดิร์นไนน์

“เกิดมาคุย” เป็นรายการแจ้งเกิดของ “วู้ดดี้” เมื่อ 9 ปีที่แล้ว

ดังมาก และแรงมาก

แม้ตอนหลังจะลดระดับความแรงไปบ้างเหมือนรายการทอล์กทั่วไป

แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ “วู้ดดี้” ประกาศชัดเจนว่าเขาจะบุกสื่อดิจิตอลอย่างเต็มตัว

ทั้ง “ยูทูบ” และ “เฟซบุ๊กไลฟ์”

ด้านหนึ่ง เพราะรูปแบบรายการสดกว่า ตรงกับรสนิยมคนรุ่นใหม่

อีกด้านหนึ่ง คือ รายได้จาก “เฟซบุ๊กไลฟ์” ของเขาสูงกว่า “เกิดมาคุย” 2 เท่า

ทั้งที่ทำงานง่ายกว่าเยอะ

ไม่ต้องตัดต่อ ไม่ต้องรอเวลาออกอากาศ

และที่สำคัญ ก็คือ เรื่อง “ความเป็นเจ้าของ”

เพราะช่องยูทูบ และเฟซบุ๊ก เป็นของเขาเอง

จะทำอะไรก็ได้

รายได้ที่เกิดขึ้นก็ไม่ต้องแบ่งใคร

 

หลังจาก “วู้ดดี้” ประกาศลุยสื่อดิจิตอลอย่างเต็มตัวได้ไม่นาน

ก็เกิด “ปรากฏการณ์สรยุทธ”

“สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่หายไปจากหน้าจอโทรทัศน์ไปนาน

เขากลับมาอีกครั้ง

ด้วยการรายงานสดทาง “เฟซบุ๊กไลฟ์” ผ่านแฟนเพจของเขาที่ชื่อ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว”

เขาไปให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้

ต้องยอมรับว่า “เฮียสอ” เขาแรงจริง

“ภาพจำ” ของเขาในใจคนไทยนอกเหนือจากการเล่าข่าวผ่านรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ทางช่อง 3 แล้ว

“สรยุทธ” ยังเป็น “ฮีโร่” ในช่วงน้ำท่วม

ทั้งการรายงานข่าวน้ำท่วมที่มีคนติดตามมากมาย ระดมทุนช่วยเหลือ และลงไปลุยให้กำลังใจคนที่ประสบภัยน้ำท่วมแบบไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย

“ภาพจำ” นี้อยู่ในใจคนไทยจำนวนมาก

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างหนักที่ภาคใต้ คนจำนวนไม่น้อยจะนึกถึง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ขึ้นมา

เพราะคนรับรู้เรื่อง “น้ำท่วมภาคใต้” น้อยมาก

แม้โทรทัศน์ทุกช่องจะรายงานข่าว แต่พลังการส่งต่อไปยัง “คนดู” ไม่แรงเท่ากับตอนที่ “สรยุทธ” อยู่หน้าจอโทรทัศน์

ส่วนหนึ่ง เพราะ “สรยุทธ” เป็น “ซุปตาร์”

แต่อีกส่วนหนึ่ง เพราะ “เฮียสอ” เขาลุยจริง-เปียกจริง

คงคล้ายๆ กับปรากฏการณ์ “ก้าวทีละก้าว” ของ “ตูน บอดี้สแลม”

ใครจะวิ่งเพื่อระดมทุนช่วยโรงพยาบาลก็คงสู้ “ตูน” ไม่ได้

การตัดสินใจ “เฟซบุ๊กไลฟ์” ของ “สรยุทธ” รายงานข่าวน้ำท่วมได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมาทันที

จากแฟนเพจ 60,000 กว่าคนตอน 6 โมงเย็นวันจันทร์

เพียงแค่ 1 วัน เพิ่มเป็น 250,000 คน

คลิปการรายงานข่าวของเขามีคนดูสูงถึง 1 ล้านคน

ทั้งที่การรายงานของเขาไม่ได้ครอบคลุมทุกจุดเหมือนรายการข่าวตามช่องต่างๆ ที่มีนักข่าวรายงานข่าวจากทุกจุดที่เดือดร้อน

แต่อาจเป็นเพราะ “ความคิดถึง”

เหมือนได้กลับมาเจอ “เพื่อนสนิท” ที่เคยเห็นหน้ากันทุกวันอีกครั้งหนึ่ง

และวิธีการรายงานข่าวของเขาที่เป็นรสชาติเฉพาะตัวที่คนโหยหามานาน

“ปรากฏการณ์สรยุทธ” จึงเกิดขึ้น

ผมเข้าไปดูตั้งแต่ช่วงแรกๆ

บอกตามตรงว่า “คิดถึง” ครับ

“สรยุทธ” รายงานข่าวได้น่าติดตามมาก

เป็นธรรมชาติแบบพอดีๆ

ไปพูดคุยกับชาวบ้าน อธิบายด้วยภาษาง่าย

กินทุเรียนกลางสายฝน

ลุยน้ำกลางดึกไปหาชาวบ้าน

เขาไม่ได้เอาของอะไรไปช่วยเหลือ

มีแค่ “แมคโดนัลด์” ไปแจก

และให้กำลังใจ

 

การเลือกวิธีการถ่ายทอดสดทาง “เฟซบุ๊กไลฟ์” แทนจะออกจอโทรทัศน์

เหตุผลของ “สรยุทธ” แตกต่างจาก “วู้ดดี้”

เขาเลือกใช้ “เฟซบุ๊กไลฟ์” เพราะ “ความอิสระ”

ยังไม่ใช่เรื่อง “ธุรกิจ”

“เฟซบุ๊กไลฟ์” เป็นช่องทางที่ไม่มีใครบังคับหรือกดดันเขาได้

อย่าลืมว่า “สรยุทธ” ต้องอำลาจอเพราะแรงกดดันจากกระแสสังคมในช่วงเวลานั้น

การเลือกช่องทาง “เฟซบุ๊กไลฟ์” ทำให้เขามีอิสรภาพในการรายงานข่าว

เป็นรสชาติใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม

อาจไม่สมบูรณ์พร้อมเหมือนในอดีต

แต่สดกว่า

และมี “เวลา” ในการรายงานข่าวเหลือเฟือ

ไม่เหมือนกับตอนทำข่าวโทรทัศน์

ปรากฏการณ์ “วู้ดดี้” และ “สรยุทธ” น่าจะเปิดทางให้คนสนใจ “เฟซบุ๊กไลฟ์” มากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้ง “คนดู” และ “โฆษณา”

ล่าสุด “เฟซบุ๊ก” เตรียมเปิดช่องทางให้มีโฆษณาใน “คลิป” เหมือนกับ “ยูทูบ” ได้

หมายความว่าทุกครั้งที่ถ่ายทอดสดเสร็จ

คลิปการถ่ายทอดสดนี้สามารถมีโฆษณาแทรกอยู่ได้

“เฟซบุ๊กไลฟ์” จึงเป็นช่องทางใหม่ทางธุรกิจที่น่าสนใจมาก

นี่คือ โลกที่เปลี่ยนแปลง

นี่คือ โลกที่หมุนเร็ว

อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้