ฟ้า พูลวรลักษณ์ | จักรวาล และ การหลุดพ้น

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๓๔)

ที่จริงแล้ว พุทธปรัชญา เป็นอภิปรัชญา

อันนี้ไม่ใช่การดูถูกพุทธศาสนา แต่เป็นการจัดประเภท

สิ่งใดที่นำพาไปสู่การหลุดพ้น คืออภิปรัชญา

คำจำกัดความของอภิปรัชญาคือ

มันเป็นสาขาหนึ่งของวิชาปรัชญา ที่เกี่ยวกับกฎพื้นฐานของสรรพสิ่ง รวมถึงคอนเซ็ปต์ที่เป็นนามธรรมของตัวตน ของชีวิต ของการเรียนรู้ ของต้นเหตุ ของกาลอวกาศ

สิ่งที่เกี่ยวข้องกับชาติ ภพ วิญญาณ เกี่ยวกับกิเลส ตัณหา เกี่ยวข้องกับอาสวะ เกี่ยวข้องกับวิบากกรรม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอภิปรัชญา

แต่เมื่อแบ่งประเภทแล้ว เราก็จะพบจุดอ่อน

บางคนที่เกลียดชังอภิปรัชญา จึงเรียกมันว่า ทฤษฎีทางนามธรรมที่ไม่มีผลอะไรกับชีวิตจริง

ยกตัวอย่างเช่น เครื่องบินตก

บนเครื่องนี้ สมมุติว่ามีพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน ที่มีชื่อเสียง มีตำนานเล่าขาน มีเรื่องเล่าว่า พวกท่านมีอิทธิฤทธิ์ มีฌานสมาบัติ ฯลฯ

แต่ทว่าเมื่อเครื่องบินตก ทุกคนตายหมด

ด้วยเพราะอภิปรัชญา ไม่มีกำลังจะต่อสู้กับความจริงได้

สมมุติว่าน้ำท่วมโลก

มันสามารถกวาดคนไทยออกไปหมดทั้งประเทศ มิไยว่าเมืองไทยนี้ จะมีพระเถระที่ทรงอิทธิฤทธิ์กี่ท่าน จะมีชาวพุทธที่ยิ่งใหญ่กี่ท่าน กระแสน้ำจะเร็วและแรงเกินกว่าจะมีใครต้านทานได้

มันกวาดหมดเกลี้ยง

อภิปรัชญาคิดไม่ทัน ช้าเกินไป และไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะรับมือกับความจริง

ที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่การดูถูกพุทธศาสนา แต่เป็นการแบ่งแยกประเภท

การวิเคราะห์ตามความเป็นจริง

อภิปรัชญามีจุดอ่อนจริง แต่มิได้หมายความว่ามันไร้ค่า หรืออ่อนแอ

อภิปรัชญาก็มีความเข้มแข็งในตัวมัน มีจุดเด่น

ความจริงไม่ใช่ความเกียจคร้าน และไม่ใช่ความฝัน

การหลุดพ้น ย่อมหมายถึง การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด

การหลุดพ้น ทำให้ทั้งจักรวาลนี้ กลายเป็นจุด หรือความว่างเปล่า

ด้วยอภิปรัชญา เกี่ยวข้องกับอนุภาคที่เล็กกว่าอนุภาคที่เล็กที่สุด จักรวาลจึงซ้อนจักรวาล จุดซ้อนจุด ไม่ว่าจักรวาลนี้จะกว้างใหญ่ปานไหน ไม่ว่ากาลเวลาจะยาวนานปานใด มันก็มีค่าเท่ากัน

มันมีค่าเท่ากับจุดหนึ่งจุด หรือก็คือความว่างเปล่า

ดังนั้น หากเครื่องบินตก ก่อนที่มันจะตก จะต้องมีเวลาที่มันยังไม่ตก จะนานกี่วินาทีก็ช่าง แต่ไม่กี่วินาทีนั้น ย่อมยาวนานเป็นนิรันดรสำหรับอภิปรัชญา

ผู้อยู่ในเครื่องบินมีเวลาเหลือเฟือที่จะหลุดพ้น คิดค้นปัญหา แก้ปัญหา หรือทำการใดๆ ในห้วงเวลาอันประมาณไม่ได้นั้น

จิตในทางอภิปรัญาย่อมลึกซึ้งยิ่งนัก เกินกว่าจะหาสิ่งใดประมาณได้

ฉันเล่าสิ่งเหล่านี้อย่างเป็นกลาง ด้วยการแบ่งประเภท ไม่ได้ตัดสินว่าอะไรถูกหรือผิด ไม่ได้กำหนดว่าฉันชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพราะนั่นเป็นความธรรมดา ที่ฉันเกิดมา อาจจะชอบอะไร แต่สิ่งที่ฉันชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะถูกต้อง

เวลาฉันไปสอบ อภิปรัชญาก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้ เพราะการสอบนั้นมีกำหนดเวลา เช่น หนึ่งชั่วโมง ฉันต้องตอบคำถาม

แต่ผลการสอบ ก็หนีไม่พ้นอภิปรัชญาอยู่ดี หนีไม่พ้นการตัดสินใจ

ฉันอาจสอบตก แต่ไม่ได้หมายความว่า ฉันผิด

ใครจะรู้ได้

ฉันเกิดมาในปี 1953 ยุคสมัยแห่ง 0G แต่ในปีหน้านี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค 5G โลกเปลี่ยนแปลงมากเหลือเกิน โดยเฉพาะคนที่เกิดมาในยุค 0G อย่างตัวฉัน

และฉันยังเป็นกวีอีกต่างหาก กวีที่ชอบความเงียบ ฉันจะคิดอะไรได้ดีที่สุด ในความเงียบสงัด ในเวลาที่ฉันเดินบนทางเปลี่ยว เดินคนเดียว

แต่ยุคสมัย 5G มันดึงโลกนี้เข้าหากัน ทุกการเคลื่อนไหว แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในป่าอเมซอน การเคลื่อนไหวในเมืองจีน มันจะพิลึกกึกกือปานใด การเคลื่อนไหวในแอฟริกา การเกิดดับ การล่มสลายในรัสเซีย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ กำลังทวีความเร็วยิ่งขึ้น ที่จะมาสัมพันธ์กัน เท่ากับว่าโลกที่ฉันอาศัยอยู่นี้ กำลังเกิดเสียงขึ้น เสียงนี้มีหลายมิติ หลากหลาย หนวกหู แต่ทว่ามันก็น่าสนใจ

แต่บทกวีของฉันค่อยๆ ตายจากไป ค่อยๆ เงียบหาย

มันเกิดกับฉันคนเดียว หรือเกิดกับกวีทั้งกลุ่ม หรือกวีบางกลุ่ม ฉันเองก็ไม่แน่ใจ อาจเป็นไปได้ว่า กวีมีหลายตระกูล ฉันเป็นเพียงหนึ่งในตระกูลเหล่านั้น ที่กำลังจะตาย

ในตำนาน นาคมีสี่ตระกูล ได้แก่

๑ ตระกูลวิรูปักษ์ หรือนาคสีทอง

๒ ตระกูลเอราปถ หรือนาคสีเขียว

๓ ตระกูลฉัพพยาปุตตะ หรือนาคสีรุ้ง

๔ ตระกูลกัณหาโคตมะ หรือนาคสีดำ

เราจะข้ามปัญหาที่ว่าพญานาคเหล่านี้มีจริงหรือไม่ ไปสู่คำถามที่ว่า หากพวกมันจะสูญพันธุ์ พวกมันจะสูญพันธุ์ทั้งหมด หรือสูญพันธุ์เฉพาะบางตระกูล

นั้นคือปัญหาทางอภิปรัชญา ด้วยเป็นนามธรรม

นาคเล่ากันว่า เกิดจากการทำบุญที่เจือด้วยราคะ

แต่จะมีกี่ชีวิต ที่จะทำการสิ่งใด โดยไม่ได้เจือด้วยราคะ

๑๐ฉันเป็นกวีที่กำลังจะตาย เพราะตัวของฉันผูกพันกับความเงียบอย่างนั้นหรือ

เราลองขยายภาพ ไปสู่ยุคสมัยที่มนุษย์สร้างอาณานิคมในระบบสุริยะจักรวาล ลองมาดูว่าระบบสุริยะจักรวาลของเรานั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง

๑ ดาวพุธ

๒ ดาวศุกร์

๓ โลกและดวงจันทร์

๔ ดาวอังคารและดวงจันทร์สองดวง

๕ ดาวพฤหัสบดีกับวงแหวนและดวงจันทร์มากมาย

๖ ดาวเสาร์กับวงแหวนและดวงจันทร์มากมาย

๗ ดาวยูเรนัสกับวงแหวนและดวงจันทร์มากมาย

๘ ดาวเนปจูนและดวงจันทร์มากมาย

๙ ดาวเคราะห์น้อย

๑๐ กลุ่มดาวแคระ

๑๑ กลุ่มเทหวัตถุใน Kuiper Belt

๑๒ กลุ่มเทหวัตถุในหมู่เมฆแห่งออร์ต

๑๑ในยุคสมัยที่มนุษย์สร้างอาณานิคมในระบบสุริยะจักรวาล จะยิ่งสับสน ซับซ้อน และหนวกหูปานไหน

ฉันจะยิ่งตายสนิทปานใด