จิตต์สุภา ฉิน : ของเล่นไฮเทคของเด็กยุคนี้

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

ทุกเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ หนึ่งในประเภทของที่ขายดีที่สุดและเหมาะมากสำหรับการส่งมอบเป็นของขวัญให้กันก็คือบรรดาแก็ดเจ็ตไฮเทคต่างๆ นั่นเอง

วันนี้ซู่ชิงจะพาคุณผู้ชมไปดู “ของเล่นไฮเทคสำหรับเด็ก” ว่าในปี 2016 ที่ผ่านมามีชิ้นไหนที่เด็กๆ เขาร่ำร้องกระทืบเท้าเร่าๆ อยากได้เป็นของขวัญกันบ้าง

hd-video-thumb

ชิ้นแรก เลยค่ะ Barbie Hello Dreamhouse สำหรับเด็กอายุสามขวบขึ้นไป

ค่ายแม็ทเทลผู้ผลิตบาร์บี้นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องการพยายามอัพเดตตัวเองให้ทันสมัยทันเทรนด์ตลอดเวลาอยู่แล้ว บ้านตุ๊กตาหลังนี้จึงถูกออกแบบมาให้เป็นบ้านบาร์บี้ไฮเทคที่เล่นกับคอนเซ็ปต์เทคโนโลยี Internet of Things

คือมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้เด็กๆ สามารถใช้เสียงในการสั่งการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในบ้านได้

เช่น ใช้เสียงสั่งให้เปิดประตู ควบคุมลิฟต์ในบ้าน (โห บาร์บี้รวยขนาดมีลิฟต์ในบ้านเลยอะ) หรือสั่งให้เปิด ปิด ไฟ ได้

ขายฝันมาซะสวยหรูแบบนี้ถ้าหากซู่ชิงมีลูกก็คงอยากซื้อมาให้ลูกเล่นเหมือนกัน

ซึ่งก่อนขายก็ได้รับความนิยมฮ็อตฮิตมากจนต้องจำกัดให้หนึ่งคนซื้อได้หนึ่งหลังเท่านั้น

โชคร้ายที่เมื่อส่งมอบของกันจริงๆ แล้ว เด็กบางคนกลับต้องตื่นมาเจอกับบ้านตุ๊กตาบาร์บี้ไฮเทคที่ไม่สามารถใช้เสียงสั่งการได้จริงเพราะดันเกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต จนทำให้คริสต์มาสของเด็กๆ กร่อยไปถนัดใจ

ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าทางผู้ผลิตจะออกมาแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

และก็เป็นบทเรียนให้กับของเล่นไฮเทคชิ้นอื่นๆ ในอนาคตด้วยว่าถ้าหากของเล่นของตัวเองป๊อปปูล่าร์มากๆ

และมีผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมๆ กัน จะมีวิธีการจัดการอย่างไรไม่ให้ระบบล่มแบบนี้อีก

maxresdefault

ชิ้นที่สอง Hatchimals สำหรับเด็กอายุห้าขวบ ไข่อิเล็กทรอนิกส์ที่ฟักออกมาเป็นสัตว์ขนฟูน่ารัก เด็กๆ สามารถดูแล เล่น และสอนทักษะต่างๆ ให้ของเล่นของตัวเอง อย่างเช่น ทักษะการเดิน การคุย หรือการเล่นเกม

ช่วยแก้ปัญหาหนักอกของพ่อแม่เวลาที่ลูกๆ ร้องขออยากได้สัตว์เลี้ยงอย่างหมาหรือแมวที่ต้องการการดูแลเยอะๆ

ชิ้นที่สาม Star Wars BB-8 droid หรือหุ่นยนต์ BB-8 จากภาพยนตร์ Star Wars : The Force Awakens สำหรับเด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไป

ของเล่นชิ้นนี้เป็นหนึ่งในของเล่นไฮเทคยอดฮิตมาตลอดปี 2016 ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นั่นแหละค่ะ เพราะหุ่นยนต์ BB-8 ตัวนี้เป็นแคแร็กเตอร์ที่คนทุกเพศทุกวัยตกหลุมรักอยู่แล้ว เด็กๆ สามารถควบคุมของเล่นชิ้นนี้ได้ผ่านแอพพลิเคชั่น

และยังสามารถซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อให้ใช้การเคลื่อนไหวของแขนเข้ามาช่วยบังคับหุ่นยนต์ได้ด้วย

WooWee CHiP Robot Toy Dog
WooWee CHiP Robot Toy Dog

ชิ้นที่สี่ WooWee CHiP Robot Toy Dog หุ่นยนต์ของเล่นหมาน้อย สำหรับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป อันนี้ก็จะเฟรนด์ลี่กับเด็กๆ เพราะมาในรูปแบบของเพื่อนรักสี่ขาที่เด็กๆ สามารถสั่งการได้ผ่านการสัมผัส หรือการใช้เสียง แถมวิ่งไล่เก็บลูกบอลได้ด้วย

และ ชิ้นที่ห้า Cozmo สำหรับเด็กอายุแปดขวบขึ้นไปเช่นเดียวกัน ชิ้นนี้ซู่ชิงดูวิดีโอโฆษณาครั้งแรกก็ตกหลุมรักเลยค่ะ เป็นหุ่นยนต์ที่หน้าตาเป็นรถแทร็กเตอร์ มีหน้าจอให้แสดงออกถึงอารมณ์ มันสามารถสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัว จดจำ แล้วก็มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ได้

เล่นเกมกับเราก็ได้ น่ารักที่สุด

Cozmo
Cozmo

ของเล่นไฮเทคเป็นแก็ดเจ็ตที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่เด็กสมัยนี้ใช้สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และแอพพลิเคชั่นกันอย่างคล่องแคล่วยิ่งกว่าพ่อแม่ของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มีความวิตกกังวลว่าเมื่อของเล่นเด็กสมัยนี้ไฮเทคมากขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะมาพร้อมกับความเสี่ยงและภัยอันตรายที่มากขึ้นกว่าการเล่นตุ๊กตาหรือหุ่นยนต์แบบทั่วๆ ไป

กลุ่มนักเคลื่อนไหวออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าของเล่นเด็กอาจถูกใช้เป็นสปายในการสอดแนมพฤติกรรมและข้อมูลส่วนตัวของเด็ก

เพราะเมื่อของเล่นสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้แล้วก็มีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนตัวของเด็กที่ถูกของเล่นบันทึกเอาไว้อาจจะหลุดรั่วออกไปสู่มือของบุคคลที่สามได้

ซึ่งข้อมูลที่อ่อนไหวที่สุดก็อย่างเช่น ชื่อเด็ก ชื่อพ่อแม่ และที่อยู่อาศัยนั่นเอง

หรือในบางกรณีที่น่ากลัวกว่านั้นอีกก็อย่างเช่น ของเล่นอย่างตุ๊กตาพูดได้ที่เด็กสามารถพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์ด้วย

หากของเล่นเกิดถูกแฮ็ก ก็เป็นไปได้ว่าจะมีคนแปลกหน้าส่งเสียงมาพูดคุยกับลูกของเราได้โดยที่เราไม่รู้ตัว

 

ที่เล่าเรื่องนี้พ่วงมาด้วยไม่ได้ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่เกิดอาการหวาดกลัวจนไม่อยากเสี่ยงซื้อของเล่นไฮเทคให้ลูกนะคะ

เพียงแต่ต้องการจะเตือนว่าก่อนจะซื้อของเล่นไฮเทคชิ้นไหนก็ควรมีการตรวจสอบหาข้อมูลเบื้องต้นก่อน

อย่างเช่น หารีวิวอ่าน หรือหาข่าวที่เกี่ยวข้องอ่าน ว่าคนอื่นๆ พูดถึงของเล่นชิ้นนี้ว่ายังไงกันบ้าง

หรืออาจจะทดลองใช้และดูว่าของเล่นแต่ละชิ้นดูมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน

ที่สำคัญจะต้องคุยกับลูกๆ ไว้ด้วยว่าควรจะมีปฏิสัมพันธ์แบบไหนกับของเล่นหุ่นยนต์ของตัวเองบ้าง

และเด็กๆ ควรจะระแวดระวังอะไรบ้าง ซึ่งหากมีอะไรผิดปกติก็ให้รีบแจ้งผู้ปกครองทันที

ซู่ชิงคิดว่าการซื้อของเล่นไฮเทคให้ลูกเล่น พร้อมๆ ไปกับการอธิบายที่มาที่ไปของความสามารถต่างๆ ของของเล่น ก็น่าจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้เด็กๆ ได้ไม่น้อยเลยนะคะ

ถือเสียว่านี่เป็นการเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ทั้งเด็กและผู้ปกครองเลยค่ะ