ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 5 - 11 กรกฎาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | สิ่งแวดล้อม |
ผู้เขียน | ทวีศักดิ์ บุตรตัน |
เผยแพร่ |
คลื่นความร้อนได้สร้างความปั่นป่วนให้กับชาวยุโรปเป็นอย่างมาก อุณหภูมิในบางจุดทางภาคใต้ของฝรั่งเศสทำสถิติสูงถึง 45.9 องศาเซลเซียส ( ํc) พื้นที่ป่าบางแห่งในสเปนร้อนจนเกิดไฟไหม้ป่า บางประเทศมีผู้เสียชีวิตเพราะร้อนจัด ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
ขณะที่บางจุดนั้นเกิดไฟฟ้าดับเนื่องจากปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าป้อนให้กับเครื่องปรับอากาศมาก
โรงเรียนกว่า 4,000 แห่งในฝรั่งเศสประกาศหยุดเรียนเพราะเกรงว่าเด็กๆ จะได้รับอันตรายจากคลื่นความร้อน
รัฐบาลฝรั่งเศสออกมาตรการฉุกเฉินรับมือคลื่นความร้อน ตั้งจุดบริการแจกน้ำดื่มฟรี ติดตั้งเครื่องพ่นไอน้ำลดอุณหภูมิ
ขยายเวลาเปิดสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ และหอประชุมเมืองก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำให้คนเข้าไปพักผ่อนหลบร้อน
รัฐบาลฝรั่งเศสกลัวซ้ำรอยเหตุการณ์คลื่นความร้อนเมื่อปี 2546 ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตราว 15,000 คน จึงต้องเตรียมการรับมือล่วงหน้า
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกบอกว่า ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว เป็นหนึ่งในช่วงของปีที่ร้อนที่สุดในโลก
ช่วงระหว่างปี 2553-2562 ก็เป็นคาบ 5 ปีที่ร้อนที่สุดอีกด้วย
คลื่นความร้อนที่แผ่ซ่านปกคลุมยุโรปคราวนี้ มาเร็วกว่าเดิม
ปีก่อนๆ คลื่นความร้อนมาราวเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม
แต่ปีนี้เดือนมิถุนายนก็มาแล้ว อากาศร้อนยาวนานขึ้นและครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วยุโรป ตั้งแต่ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกถึงคาบสมุทรบอลข่าน
นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่านี่เป็นผลของปรากฏการณ์โลกร้อนสืบเนื่องจากการปล่อยก๊าซพิษสู่ชั้นบรรยากาศจนเข้มข้น ทำให้ชั้นบรรยากาศโลกแปรปรวน
คลื่นความร้อนในยุโรปเกิดขึ้นเพราะความผิดปกติของระบบความกดอากาศ
ทำให้ความกดอากาศสูงจากทิศใต้แผ่ปกคลุมชั้นบรรยากาศเหนือยุโรป ดึงเอาความร้อนจากทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกาขึ้นมาด้วย
แต่ระบบความกดอากาศที่ผิดปกติทำให้คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมกินเวลานาน
เปรียบเหมือนเอากระทะร้อนๆ มาครอบยุโรปเอาไว้
ดูในภาพจำลองคลื่นความร้อน จะเห็นได้ว่าระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายนที่ผ่านมา ทวีปยุโรปเป็นแถบสีแดง หมายถึงอุณหภูมิร้อนจัด
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสเปนเอาภาพจำลองนี้มาเผยแพร่พร้อมกับออกคำเตือนว่า “El infierno”
แปลเป็นไทยๆ ได้ว่า “นรกกำลังมา”
ก่อนหน้านี้มีหน่วยงานวิจัยเรื่องของสภาพภูมิอากาศโลกที่มีชื่อว่า world weather attribution ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักวิจัยจากสถาบันชั้นนำของโลก เช่น สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดแห่งอังกฤษ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา สำนักงานอุตุนิยมของประเทศต่างๆ ในยุโรป ร่วมกันศึกษาข้อมูลหลังเกิดปรากฏการณ์คลื่นความร้อนในยุโรปเมื่อเดือนมิถุนายน 2560
ในครั้งนั้น คลื่นความร้อนทำให้อุณหภูมิของยุโรปสูงขึ้น 3 ํc เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยปกติระหว่างปี 2524-2553
นักวิจัยคณะดังกล่าวย้อนไปเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติสภาพภูมิอากาศของเมืองต่างๆ ทั่วยุโรปมาวิเคราะห์อย่างละเอียดยิบ อย่างเช่น การนำข้อมูลในพื้นที่สภาพอากาศของเมืองชายแดนในโปรตุเกสระหว่างปี 2444-2558 มาวิเคราะห์เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี
ในสวิตเซอร์แลนด์มีการบันทึกสถิติสภาพภูมิอากาศทั่วทั้งประเทศมาตั้งแต่ปี 2397 เช่นเดียวกับในอังกฤษ มีการบันทึกข้อมูลเหล่านี้มากว่า 100 ปี ทำให้ได้ข้อมูลแม่นยำมาก
ผลการวิเคราะห์พบว่าคลื่นความร้อนในยุโรปเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่นานๆ ทีจะเกิดขึ้น
บางประเทศเกิดคลื่นความร้อนทุก 10 ปีครั้ง
บางแห่งเกิด 30 ปีครั้งหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศของประเทศนั้น
แต่ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนในเดือนมิถุนายน 2560 ทำให้นักวิจัยได้ข้อสรุปว่า สภาพภูมิอากาศของยุโรปเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
คลื่นความร้อนเกิดขึ้นในประเทศเบลเยียมมากเป็น 2 เท่าตัว
ในฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ เกิดมากขึ้น 4 เท่าตัว
ส่วนบริเวณภาคกลางของอังกฤษ โปรตุเกส และสเปน เกิดถี่ขึ้น 10 เท่าตัว
ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนไม่ใช่เกิดแค่ในยุโรปแห่งเดียว แต่เกิดถี่ขึ้นทั่วโลก ทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกา
นายเอดัวร์ ฟิลิปป์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ระหว่างเกิดปรากฏการณ์คลื่นความร้อนเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า
“เมื่อก่อนนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศเป็นเหมือนเรื่องไกลตัว แต่วันนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวไปแล้ว ความผิดปกติกลายเป็นความปกติ”
นายฟิลิปป์เรียกร้องให้ชาวฝรั่งเศสช่วยกันปกป้องสิ่งเลวร้ายที่คืบคลานเข้ามา
ขณะที่นายแองเนียส บีซอง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส บอกว่าอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างนี้ เป็นปัญหาที่ชาวโลกจะต้องคิดวิธีปรับตัว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสชี้ว่า คลื่นความร้อนคุกคามชาวยุโรปถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น
ความรุนแรงอาจเบิลเป็น 2 เท่า เมื่อถึงปี 2593
เวลานี้คลื่นความร้อนสร้างผลกระทบให้กับชาวโลกเป็นอย่างมาก กลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ก็พากันปั่นป่วนเพราะต้องเตรียมหาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือป้องกันไม่ให้สัตว์เครียดเนื่องจากอากาศร้อนจัด
หลายพื้นที่ประสบปัญหาในการเดินทาง เนื่องจากความร้อนทำให้ผิวถนนลาดยางมะตอยละลาย รางรถไฟบิดงอ
ผู้คนทนร้อนไม่ไหวอาจถึงขั้นคลุ้มคลั่ง อย่างหนุ่มชาวเยอรมัน ขี่สกู๊ตเตอร์เปลือยกาย ใส่แค่หมวกกันน็อก ตำรวจดักจับก็บอกตรงๆ ว่าทนร้อนไม่ไหว แต่ไม่ได้ทำผิดกฎหมายนี่นา หมวกกันน็อกก็ใส่
ในประเทศด้อยพัฒนา คลื่นความร้อนกลายเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากทำให้เกิดภาวะภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ เกษตรกรเพาะปลูกพืชไร่ เลี้ยงสัตว์ ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
หากในอนาคตข้างหน้าคลื่นความร้อนทำให้อากาศร้อนสุดๆ ในช่วงฤดูร้อน และกินเวลานานกว่าที่เห็นในปัจจุบัน นั่นหมายถึง ชาวโลกในวันนั้นอาจอยู่ในนรกเหมือนกับที่สำนักงานอุตุฯ สเปนทวีตประโยคนี้