ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
จอห์น วอล์กเกอร์ ลินด์ห ชายชาวอเมริกันวัย 38 ปี ฉายา “อเมริกันทาลิบัน” ที่ถูกทางการสหรัฐจับกุมได้เมื่อ 2001 จากการเข้าร่วมต่อสู้กับกลุ่ม “ทาลิบัน” ในอัฟกานิสถาน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ “เฟเดอรอล คอร์เร็กชั่นส์ คอมเพล็กซ์” ในรัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกาแล้วเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
การปล่อยตัว “ลินด์ห” ผู้ซึ่งรับโทษไปแล้ว 17 ปี จากโทษทั้งหมด 20 ปี ส่งผลให้เกิดข้อกังขากับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ยังคงมองว่าลินด์หเป็นตัวอันตรายที่ต้องจับตามอง
“เราจะยังคงเฝ้าระวังเขา และจะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด” ทรัมป์ระบุ
แม้จะได้รับเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายที่มองว่ามีการปล่อยตัวลินด์หเร็วเกินไป ทว่าอัยการของสหรัฐอเมริกาเองก็ยืนยันว่าไม่มีหนทางตามกฎหมายที่จะควบคุมตัวลินด์หต่อไปได้อีกแล้ว
ลินด์หนับเป็นหนึ่งในผู้ต้องขังหลายคนที่เตรียมจะได้รับการปล่อยตัว หลังจากบุคคลเหล่านี้ถูกจับกุมในอิรักและอัฟกานิสถาน ในข้อหาอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หลังเหตุโจมตี 9/11 ในสหรัฐอเมริกา
“อะไรคือนโยบาย กลยุทธ์ และขั้นตอนของภาครัฐในการทำให้แน่ใจว่าผู้ต้องคดีก่อการร้าย/ลัทธิสุดโต่ง สามารถอาศัยในสังคมได้แล้ว?” จดหมายจากริชาร์ด เชลบี และมาร์กาเร็ต ฮัสสัน สองสมาชิกวุฒิสภา ที่ส่งถึงกรมราชทัณฑ์สหรัฐระบุ
ไม่น่าแปลกใจที่ชาวอเมริกันยังคงหวาดกลัวภัยก่อการร้ายหลังผ่านประสบการณ์โจมตีที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2001
ขณะที่รายงานของนิตยสารฟอเรียน โพลิซี รายงานอ้างเอกสารลับของทางการสหรัฐเมื่อปี 2016 เอาไว้ว่า ลินด์ห “ยังคงสนับสนุนแนวคิดญิฮาดทั่วโลก ยังคงเขียนและแปลข้อความแนวคิดรุนแรงสุดโต่งอยู่”
ขณะที่สื่อเอ็นบีซีของสหรัฐระบุว่า ลินด์หเขียนจดหมายไปยังสถานี “เคเอ็นบีซี” สถานีของเอ็นบีซีในลอสแองเจลิส เมื่อปี 2015 แสดงความสนับสนุนกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยระบุว่า กลุ่มไอเอส
“เติมเต็มพันธกรณีในการก่อตั้งรัฐคาลิเฟตด้วยการต่อสู้ด้วยอาวุธ”
เอกสารคำให้การของลินด์หในปี 2002 ระบุว่า เกิดในสหรัฐ และเปลี่ยนศาสนาจากคริสต์นิกายคาทอลิกเป็นอิสลามตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
ลินด์หเล่าว่า เดินทางไปยังประเทศเยเมนเพื่อเรียนภาษาอาราบิก ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศปากีสถานเพื่อศึกษาศาสนาอิสลามให้ลึกซึ้ง และว่า อาสาเข้าร่วมเป็นทหารทาลิบันเพื่อช่วยเพื่อนชาวมุสลิมที่กำลังลำบาก หรือที่เรียกกันว่า “ญิฮาด”
คำให้การของลินด์หระบุด้วยว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะสู้กับอเมริกา และไม่เคยเข้าใจว่า “ญิฮาด” นั้นหมายถึงการต่อต้านลัทธิอเมริกา และยืนยันว่าประณาม “การก่อการร้ายในทุกระดับ” และว่า การโจมตีของ “โอซามา บิน ลาเดน” ผู้นำกลุ่มอัลเคด้านั้นเป็นสิ่งที่ “ขัดแย้งกับอิสลามโดยสิ้นเชิง”
ด้านโมฮัมหมัด อิลทิมาส ครูสอนศาสนาในปากีสถานที่เคยใช้เวลากับลินด์หนานถึง 6 เดือนที่โรงเรียนสอนศาสนา “มาดราสซา อราเบีย ฮัสซาเนีย” ในปากีสถาน ใกล้ชายแดนอัฟกานิสถานระหว่างเดือนธันวาคมและพฤษภาคมปี 2000 ระบุว่า ลินด์หเป็นคนบริสุทธิ์ และเป็นชายผู้คิดบวก
“เขาเป็นนักเรียนที่ดี มีความมุ่งมั่นในการเรียน ผมไม่เคยเห็นเขานั่งเฉยๆ เขาไม่สนใจกีฬา เขาเป็นคนเคร่งเครียดและยึดมั่นในเส้นทางของตน” อิลทิมาสระบุ และว่า ลินด์หนั้นมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน แคชเมียร์ และปาเลสไตน์
นักเรียนจากโรงเรียนสอนศาสนา “มาดราสซา อราเบีย ฮัสซาเนีย” เข้าร่วมกับกลุ่มทาลิบันที่ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอัฟกานิสถาน รบกับกลุ่มกบฏ “นอร์เธิร์น อไลแอนซ์” ในเวลานั้น
หลังสหรัฐอเมริกาเข้าแทรกแซงในอัฟกานิสถาน หลังเหตุโจมตี 9/11 ลินด์หเป็นหนึ่งในนักรบทาลิบันหลายร้อยคนที่ถูกกลุ่มนอร์เธิร์น อไลแอนซ์ จับกุมตัวเอาไว้
ก่อนที่ลินด์หจะเปิดเผยว่าตนเป็นชาวอเมริกันกับเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่เมืองมาซาร์อิชาริฟ
เวลานี้ ลินด์หจะต้องอาศัยในรัฐเวอร์จิเนีย ภายใต้ช่วงเวลาทัณฑ์บน ซึ่งจะจำกัดการเข้าถึงโลกออนไลน์ หรือติดต่อสื่อสารกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอื่นๆ
แน่นอนว่า ลินด์หต้องกลายเป็นอีกหนึ่งความกังวลของชาวอเมริกันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในช่วงเวลาที่กลุ่มทาลิบันเริ่มผงาดขึ้นอีกครั้งในอัฟกานิสถาน สมรภูมิรบที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สหรัฐพยายามที่จะถอนตัวออกมาในเวลานี้