เทศมองไทย : “ไทย-ฟิลิปปินส์” ฮับเพื่อ “ค้ากามออนไลน์”

โซฟี เดอวีเยร์ ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีประจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผยแง่มุมที่เป็นอีกมุมมืดหนึ่งของโลกออนไลน์ซึ่งพัฒนาไปมากมายในยามนี้ผ่านรายงานข่าวที่กระจายออกไปทั่วโลก เมื่อ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรม “ค้ากาม” รูปแบบใหม่ ที่ยิ่งนับวันยิ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นพรวดพราด

แน่นอนว่ายิ่งมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเพิ่มมากขึ้นทุกวันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะบรรดาเด็กและเยาวชน ที่เป็นเป้าหมายหลักของการค้าประเวณีออนไลน์เช่นนี้

รูปแบบที่เป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ นี้คือการ “ไลฟ์สตรีมมิ่ง” หรือที่บ้านเราชอบเรียกกันว่า “ไลฟ์สด” ผ่านเว็บแคม กิจกรรมทางเพศกับเด็กและผู้เยาว์ แล้วนำออกขายให้กับสมาชิกตามเว็บไซต์ วิดีโอแชริ่ง แบบบอกรับสมาชิก หรือผ่านโซเชียลมีเดียทั้งหลาย

ทุกอย่างถูกปกปิดเป็นความลับ เพราะการ “ไลฟ์สด” ดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่เข้ารหัสซึ่งเป็นที่รู้กันเฉพาะสมาชิก แถมยังกำหนดการชำระเงินกันเป็น “คริปโตเคอเรนซี่” อย่างเช่น “บิตคอยน์” ที่ปกปิดตัวตนได้อีกด้วย

 

ฟรองซัวส์ ซาวิเยร์ ซูเชต์ ผู้เชี่ยวชาญของ “แตร์ เดส์ ออมส์” องค์การเอกชนที่รณรงค์ต่อต้านเรื่องการละเมิดสิทธิเด็กในประเทศไทยเรียกคนเหล่านี้ว่า “นักล่า (กาม) คีย์บอร์ด” ที่อาศัยความจน การขาดการบังคับใช้กฎหมาย ฯลฯ ในประเทศอย่างไทย กัมพูชา เวียดนาม ลาว และฟิลิปปินส์ เพื่อการนี้

“นักล่าเหล่านี้ดูการข่มขืนกันสดๆ บนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่ไม่มีแนวโน้มที่จะถูกปิด เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นสดๆ ไม่มีการบันทึก ทุกอย่างเข้ารหัส ยิ่งนับวันยิ่งจ่ายเงินกันด้วยบิตคอยน์มากขึ้น เพื่อให้การโอนเงินปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ซูเชต์ระบุ

เอเอฟพีระบุเอาไว้ว่า รายงานของยูเอ็นฉบับหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ระบุไว้ว่า ความต้องการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กผ่านเว็บแคมเพิ่มมากขึ้นในระยะหลัง และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการค้ามนุษย์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

รายงานชิ้นเดียวกันนี้ชี้เอาไว้ว่า ไทยกับฟิลิปปินส์คือ “ฮับ” ของการค้ากามออนไลน์ที่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเช่นนี้

 

แตร์ เดส์ ออมส์ ทดลองเข้าไปสร้างแอ็กเคาต์ปลอมๆ ใช้ชื่อเป็นเด็กหญิงว่า “สวีตตี้” แค่สัปดาห์เดียวเรียกคนที่สนใจติดต่อเข้ามาดู “ไลฟ์สด” ถึง 20,000 ราย

ที่น่าสนใจก็คือ ที่ผ่านมามีผู้ที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็กอายุน้อยเช่นนี้หลายรายถูกจับกุมและถูกลงโทษสถานหนักมาแล้วหลายราย แต่ดูเหมือนยังไม่มีใครเข็ดหลาบ

เอเอฟพีบอกว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “ครู” ชาวฝรั่งเศส วัย 51 ปีรายหนึ่งถูกจับกุมในฝรั่งเศส ถูกตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก

“ครู” คนนี้เคยใช้ชีวิตสอนนักเรียนอยู่ในหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้งในกรุงเทพฯ ทำเป็นตีสนิทกับเด็กในชุมชนยากจนในย่านผู้ใช้แรงงานที่นี่ เพื่อใช้เป็นเหยื่อในเครือข่ายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กของตน

เดือนเดียวกัน คนฝรั่งเศสอีกคนอายุ 55 ปี ถูกตั้งข้อหาคล้ายคลึงกันโดยพนักงานอัยการหลังจากถูกจับกุมพร้อมอุปกรณ์ไลฟ์สดและคอมพิวเตอร์ในฟิลิปปินส์

ปลายเดือนเมษายน แอนดรูว์ วิดเด็ต ทหารผ่านศึกอังกฤษวัย 70 ปี ถูกศาลลอนดอนตัดสินว่าผิดจริงฐานใช้เงินหลายแสนปอนด์ไปเพื่อซื้อไลฟ์สดการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

 

สํานักงานอาชญากรรมแห่งชาติ (เอ็นซีเอ) ของอังกฤษ เชื่อว่ามีคนอังกฤษไม่น้อยกว่า 80,000 คนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์ต่อเด็กไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เอเอฟพีหยิบยกกรณีของ “แคสซี” เด็กหญิงชาวฟิลิปปินส์ที่ตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมเหล่านี้

แคสซีเพิ่งอายุเพียง 12 ปี เมื่อถูกบังคับให้ “ไลฟ์สด” ทั้งกับผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และอื่นๆ ต่อหน้าเว็บแคม เพราะถูกนายจ้างของผู้เป็นแม่ ที่เดินทางเข้ามาทำงาน “เป็นแม่บ้าน” ในกรุงมะนิลาบังคับ

ชะตากรรมของแคสซีดำเนินไปต่อเนื่องถึง 5 ปีกว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลง นายจ้างรายดังกล่าวถูกพิพากษาจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา

เธอบอกกับเอเอฟพีว่า ตอนนั้นเธอคิดแต่ว่าอยากจะตายไปให้พ้นๆ จากความเจ็บปวดที่ได้รับ แต่อยากตายแค่ไหนก็ตายไม่ได้!

ซูเชต์บอกว่า รูปแบบใหม่ทำให้การจับกุมผู้กระทำผิดทำได้ยากมากขึ้นทุกที เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในสังคมซึ่งผู้ค้าประเวณีเช่นนี้ใช้ชีวิตอยู่

ช่วยกันตื่นตัว ระแวดระวัง และเปิดโปง ก่อนที่สักวันหนึ่งคนที่เป็นที่รักของเราจะตกเป็นเหยื่อเสียเองครับ